อเมริกาสั่งแบน WhatsApp บนอุปกรณ์ของรัฐบาล หวั่นเสี่ยงข้อมูลรั่วไหล
แม้ WhatsApp จะเป็นแอปแชทยอดนิยมที่มีผู้ใช้มากกว่า 2 พันล้านรายทั่วโลก และอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท Meta ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน แต่ล่าสุด สำนักงานบริหารของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ (Chief Administrative Officer: CAO) ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ ลบ WhatsApp ออกจากอุปกรณ์ของรัฐ ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2025 โดยให้เหตุผลว่า แอปดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงด้านความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล
ในเอกสารแจ้งเตือนของหน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของสภาฯ ระบุว่า WhatsApp มีจุดอ่อนที่หน่วยงานไม่สามารถมองข้ามได้ ไม่ว่าจะเป็น การจัดเก็บและวิเคราะห์ metadata เช่น ข้อมูลว่าใครคุยกับใคร เมื่อใด และจากที่ใด แม้จะเข้ารหัสข้อความแล้วก็ตาม ไม่มีระบบควบคุมการใช้งานระดับองค์กร เช่น การจัดการสิทธิ์ผู้ใช้หรือการตรวจสอบบันทึกย้อนหลัง และไม่สามารถควบคุมการเข้าถึงจากส่วนกลาง หากเกิดเหตุฉุกเฉิน
คำโดยสั่งนี้มีผลกับ เจ้าหน้าที่รัฐทุกคนที่ใช้อุปกรณ์ที่จัดสรรโดยสภาฯ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ที่ออกโดยหน่วยงาน
โดย CAO แนะนำให้ใช้แอปแชทอื่นที่ผ่านเกณฑ์ความปลอดภัยระดับองค์กร เช่น Microsoft Teams, Signal (องค์กร), Apple iMessage & FaceTime หรือ Wickr ของ Amazon เป็นต้น
แน่นอนว่า การประกาศแบนนี้มีผลต่อบริษัทแม่อย่าง Meta มาก ซึ่งบริษัทก็ออกมาโต้แย้งว่า WhatsApp ใช้ การเข้ารหัสแบบ End-to-End (E2EE) เป็นมาตรฐาน ซึ่งไม่มีใครสามารถเข้าถึงเนื้อหาการสนทนา รวมถึงแสดงความกังวลว่าแอปที่ทางการแนะนำบางตัว “ปลอดภัยน้อยกว่า” WhatsApp ด้วยซ้ำ