ผู้รวมระบบของไต้หวันแสดงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในตลาดต่างประเทศ
การประชุมเชิงปฏิบัติว่าด้วยการการขยายตลาดต่างประเทศของการรวมระบบ (System Integration Overseas Market Expansion Workshop) ประจำปี 2565 ได้จัดขึ้นที่โรงแรมคอร์ทยาร์ด บาย แมริออท ไทเป ดาวน์ทาวน์ (Courtyard by Marriott Taipei Downtown) เมื่อเวลา 14:00 น. ของวันที่ 16 กันยายน โดยได้รับเกียรติจากคุณฉิน ฉิน หลิน (Qin Qin Lin) รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารอุตสาหกรรมดิจิทัล (ADI) ในสังกัดกระทรวงดิจิทัล (MODA) เข้าร่วมและกล่าวเปิดงาน ในงานนี้ ยาจันเทค (YajanTech) ซึ่งตั้งอยู่ในไต้หวัน
ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับเอสดีที ไทย (SDT Thai) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มธุรกิจญี่ปุ่นอย่างชินเดน ไฮเท็กซ์ (Shinden Hightex) เพื่อร่วมกันขยายธุรกิจในไทย ผู้รวมระบบของไต้หวันเลือกที่จะเป็นพันธมิตรกับบริษัทต่างประเทศเพื่อขยายตลาดที่สาม และเพื่อส่งเสริมความร่วมมือกับพันธมิตรองค์กรรายใหญ่ในยุโรป สหรัฐ และญี่ปุ่น พร้อมสำรวจศักยภาพในตลาดต่างประเทศเพื่อหาลู่ทางขยายเครือข่ายบริการระหว่างประเทศ โดยการทำเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงจุดแข็งของไต้หวันด้านการรวมระบบเทคโนโลยีดิจิทัลบนเวทีโลก
คุณหลิน รองผู้อำนวยการ ADI กล่าวว่า ผู้ผลิตและบริษัทในไต้หวันที่มีประสบการณ์อันแข็งแกร่งในการร่วมมือกับบริษัทญี่ปุ่นและได้เข้าสู่ตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานและบอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จ ผู้เข้าร่วมงานในท้องถิ่นสามารถเข้าใจรูปแบบการส่งมอบบริการแบบหลายมิติได้ดียิ่งขึ้น จากการเรียนรู้ซึ่งกันและกันและแลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติที่ยอดเยี่ยม ADI จะเดินหน้าสานต่อความพยายามในการยกระดับความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการโซลูชันอัจฉริยะในท้องถิ่นกับผู้เล่นหลักในยุโรป สหรัฐ และญี่ปุ่น ซึ่งจะก่อให้เกิดนวัตกรรมภาคอุตสาหกรรม รวมถึงส่งออกวิถีชีวิตที่ดีกว่าเดิมจากเศรษฐกิจดิจิทัลของไต้หวันไปยังต่างประเทศ
ในการประชุมนี้ ยาจันเทคของไต้หวัน และเอสดีที ไทย ได้ยกระดับความร่วมมือในการจัดหาโซลูชัน AR ให้แก่ตลาดในไทย ภายในงาน ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันแบ่งปันแง่มุมเกี่ยวกับแนวทางที่ยอดเยี่ยมในการใช้งานโซลูชัน AR ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอปพลิเคชันการท่องเที่ยว AR ที่สนามบินจังหวัดไอจิของญี่ปุ่น รวมถึงโครงการที่จอดรถอัจฉริยะในแคลิฟอร์เนีย เป็นตัวอย่างความสำเร็จในต่างประเทศของยาจันเทค ทั้งนี้ คุณเจมส์ ไช่ (James Tsai) ซีอีโอของยาจันเทค กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ทำให้การฝึกอบรมด้าน AR สำหรับโรงงานเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การพัฒนา ซึ่งจะถ่ายทอดประสบการณ์และทักษะที่ซับซ้อนจากผู้เชี่ยวชาญไปสู่คนรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ คุณแลนซ์ เกา (Lance Kao) ซีอีโอของบริษัทแอโรโพรบิง อิงค์ (Aeroprobing Inc.) ผู้ให้บริการโซลูชันที่ใช้เทคโนโลยี UAV ในไต้หวัน ยังได้มาแบ่งปันแนวทางของบริษัทในการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่างชาติเพื่อเจาะตลาดอินโดนีเซีย โดยกล่าวว่า แอโรโพรบิงได้ร่วมเป็นพันธมิตรและสร้างความเชื่อมั่นกับพาร์ทเนอร์ชาวญี่ปุ่นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการออกแบบและพัฒนาโดรน แม้จะมีการแพร่ระบาด ทั้งสองฝ่ายยังได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยด้านเกษตรของอินโดนีเซียเพื่อฝึกอบรมผู้ดำเนินการโดรน การเป็นพันธมิตรไตรภาคีที่มุ่งอำนวยความสะดวกในการใช้งานเทคโนโลยีการเกษตรอัจฉริยะ จะยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพของการผลิตพืชผล ขณะเดียวกันก็สร้างโอกาสในการทำงานในท้องถิ่นด้วยการดึงดูดคนหนุ่มสาวให้กลับมาบ้านเกิดและทำการเกษตร คุณอากิฮิโระ คาวานิชิ (Akihiro Kawanishi) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอสเค-คาวานิชิ (SK-KAWANISHI) กล่าวถึงประสบการณ์ในการใช้โซลูชันแหล่งน้ำ ซึ่งร่วมพัฒนาขึ้นโดยบริษัทไต้หวันและญี่ปุ่น เพื่อใช้บำรุงรักษาโรงน้ำ บรรเทาและป้องกันภัยพิบัติ และจัดการทางน้ำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้