สคทช. พลิกโฉมบริการด้านที่ดิน ด้วยแพลตฟอร์ม AI ขั้นสูง ร่วมพัฒนาโดย Softnix และ HP
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) กำลังก้าวสู่ยุคใหม่ของการบริหารจัดการที่ดิน ผ่านการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง AI, Big Data, ระบบ Private Cloud และโครงสร้างพื้นฐานประสิทธิภาพสูง มายกระดับการทำงานในระดับประเทศ ตั้งแต่การวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศเพื่อพิสูจน์สิทธิ์ ไปจนถึงการสื่อสารกับประชาชนผ่านระบบ Chatbot อัจฉริยะของ Softnix โดยทั้งหมดนี้มุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดคือ “ความเป็นธรรมด้านที่ดิน” และ “การบริหารจัดการข้อมูลของรัฐอย่างปลอดภัย”
ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ได้อธิบายว่า สคทช. ทำหน้าที่เป็นกลไกกลางด้านนโยบายการบริหารจัดการที่ดินของชาติ ดูแลทั้งการกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม การแก้ไขปัญหาขอบเขตที่ดินของรัฐ และการประสานงานกับหน่วยงานจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับที่ดินทั่วประเทศ แม้จะเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นไม่นาน แต่ต้องรับมือกับปัญหาที่สั่งสมมายาวนาน เช่น นโยบายที่แตกต่างกันในอดีต กฎหมายหลายฉบับจากหลายกระทรวง รวมถึงข้อขัดแย้งทั้งระหว่างรัฐกับประชาชน และรัฐกับรัฐเอง ภารกิจที่สำคัญอย่างยิ่งคือการพิสูจน์สิทธิ์การครอบครองที่ดินจากภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งต้องใช้ทั้งความละเอียดทางวิทยาศาสตร์ ความเป็นธรรม และความรวดเร็วพร้อมกันในเวลาเดียวกัน

การใช้เทคโนโลยีของ สคทช. เพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ
เพื่อตอบโจทย์ความซับซ้อนของข้อมูลเชิงพื้นที่ ปัญหาการร้องเรียนจำนวนมาก และข้อจำกัดด้านกำลังบุคลากร สคทช. จึงนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาเสริมในหลายมิติ โดยเฉพาะ Generative AI ที่ช่วยประมวลผลข้อมูลปริมาณมหาศาลได้อย่างแม่นยำ
โดย ดร.ศุภวรรณ วงษ์ประยูร ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศที่ดินและทรัพยากรดิน ได้กล่าวเสริมว่า AI ถูกนำมาใช้สำคัญที่สุดในภารกิจพิสูจน์สิทธิ์ที่ดิน ซึ่งต้องอ่านภาพถ่ายทางอากาศขาวดำจากหลายยุคสมัยเพื่อค้นหาร่องรอยการตั้งถิ่นฐาน การใช้ประโยชน์ที่ดิน หรือหลักฐานว่าประชาชนเข้ามาอยู่ก่อนหรือหลังการประกาศเป็นที่ดินของรัฐ การทำงานด้วยคนล้วนใช้เวลานานมากและต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก แต่ AI สามารถช่วยอ่านภาพเบื้องต้น เร่งกระบวนการวิเคราะห์ และคัดข้อมูลให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบขั้นสุดท้ายได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้ สคทช. ยังพัฒนาแอปพลิเคชัน Chatbot โดยได้รับความร่วมมือกับทางบริษัท Softnix Technology เพื่อใช้ Gen AI เข้ามาช่วยตอบคำถามด้านข้อมูลนโยบายและสถิติที่เกี่ยวกับที่ดิน ช่วยลดภาระงานและทำให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกมากขึ้น โดยระบบทั้งหมดทำงานในรูปแบบ Private เพื่อให้ข้อมูลของรัฐปลอดภัยที่สุด

เทคโนโลยี AI Chatbot ของ Softnix
คุณรุจิรพงศ์ ฤทธิ์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ, Softnix Technology ได้อธิบายว่า ทาง Softnix ได้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา Gen AI Platform และระบบ Chatbot สำหรับ สคทช. โดยออกแบบให้ตอบคำถาม สืบค้นข้อมูล และประมวลผลเอกสารนโยบายที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว Chatbot นี้ทำงานภายในระบบปิด (Private) ใช้เฉพาะฐานข้อมูลของรัฐเพื่อความปลอดภัย และสามารถขยายสู่การทำงานแบบ Agentic AI ในอนาคต ซึ่งจะทำให้ AI หลายตัวทำงานร่วมกัน เช่น ตัวหนึ่งเรียกดูข้อมูล ตัวหนึ่งสรุปผล และอีกตัวหนึ่งให้คำตอบกับประชาชนอย่างเป็นธรรมชาติ

การทำงานร่วมกันของ Softnix และ HPE
คุณรุจิรพงศ์ ยังอธิบายต่อไปว่า การนำ AI มาใช้ในระดับประเทศไม่ได้ต้องการแค่ซอฟต์แวร์ แต่ยังต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแรงและปลอดภัย Softnix และ HPE จึงร่วมมือกันแบบครบวงจร Softnix รับหน้าที่พัฒนา Big Data, Gen AI และระบบประมวลผล AI ขณะที่ HPE ออกแบบโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด ตั้งแต่ Private Cloud AI ไปจนถึง Server ประสิทธิภาพสูงที่ติดตั้ง GPU จำนวนมากเพื่อรองรับงานวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ที่ซับซ้อน
โซลูชัน Private Cloud AI ของ HPE ทำงานในรูปแบบ “Solution in a Box” ที่รวมทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ไว้ด้วยกัน ทำให้ สคทช. สามารถพัฒนา AI ภายในระบบปิดได้ทันที โดยไม่ต้องเชื่อมต่อข้อมูลออกสู่สาธารณะ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับข้อมูลที่ดินระดับประเทศที่ถือเป็นข้อมูลความมั่นคง
สร้างอรรถประโยชน์ให้แก่หน่วยงาน
การทำงานร่วมกันของเทคโนโลยีและพันธมิตรหลายฝ่ายทำให้ สคทช. สามารถยกระดับการบริหารจัดการที่ดินของประเทศได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่การลดระยะเวลาการพิสูจน์สิทธิ์ให้เร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพิ่มความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และใช้บุคลากรอย่างคุ้มค่า AI ช่วยอ่านภาพถ่ายพื้นฐานอย่างแม่นยำ Big Data ช่วยให้มีข้อมูลกลางที่เชื่อมโยงทุกหน่วยงาน ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานของ HPE ช่วยให้การประมวลผลทั้งหมดปลอดภัยและมีเสถียรภาพสูง ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น และกระบวนการแก้ไขปัญหาที่ดินของประเทศเดินหน้าอย่างทันสมัย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพกว่าที่เคยเป็น

