November 21, 2025

AWS, Azure และ Cloudflare ล่มซ้ำซ้อน เผยจุดอ่อนโครงสร้างอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่

เหตุการณ์ระบบล่มติดต่อกันสามครั้งในเวลาไม่กี่สัปดาห์ของยักษ์ใหญ่คลาวด์อย่าง AWS, Microsoft Azure และ Cloudflare ได้เปิดเผยถึงช่องโหว่ที่น่าวิตกในโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ – เมื่อข้อผิดพลาดเล็กๆ ในการตั้งค่าระบบกลายเป็น “วิกฤตไฟดับดิจิทัล” ที่ส่งผลกระทบทั่วโลก

ครั้งนี้ทีมของหยิบยกบทความจาก Cybernews ที่วิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจมานำเสนอกันครับ

ไม่ใช่โดนแฮก ไม่ใช่ทราฟฟิกเกิน แต่เป็น “พังจากข้างใน

แม้ว่าทั้งสามเหตุการณ์จะมีสาเหตุทางเทคนิคที่แตกต่างกัน แต่การวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญเผยให้เห็นว่าทั้งหมดเกิดจากความล้มเหลวภายในโครงสร้างพื้นฐานหลักของผู้ให้บริการเอง โดยไม่ได้เกิดจากปริมาณการใช้งานที่เพิ่มขึ้นหรือการโจมตี DDoS แต่กลับเป็นปัญหาซอฟต์แวร์และการตั้งค่าภายในที่ละเอียดอ่อน

Javvad Malik หัวหน้าที่ปรึกษา CISO จาก KnowBe4 กล่าวว่า “เหตุการณ์ล่มครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของคลาวด์ที่พัง แต่เป็นเพราะเราสร้างระบบที่ซับซ้อนอย่างเหลือเชื่อและรวมศูนย์ไว้ในมือของผู้ให้บริการเพียงไม่กี่ราย”

3 เหตุการณ์ หนึ่งรูปแบบ

AWS (20 ตุลาคม) – ปัญหาเกิดที่ภูมิภาค US-EAST-1 ในเวอร์จิเนีย เกิดจากความผิดพลาดของระบบ DNS ภายในที่ลุกลามไปทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อ Signal, Snapchat, Fortnite, Starbucks, Reddit, Coinbase, Ring, Amazon Alexa, Apple TV และ Apple Music

Microsoft Azure (29 ตุลาคม) – เกิดจาก “การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าโดยไม่ตั้งใจ” ในบริการ CDN ส่งผลให้ระบบล่มทั่วโลก กระทบ Microsoft 365 Copilot, Minecraft, ระบบเช็คอินสายการบิน และระบบชำระเงินหลายแห่ง

Cloudflare (พฤศจิกายน) – ไฟล์การตั้งค่าสำหรับจัดการ threat-traffic มีขนาดใหญ่เกินคาด ทำให้ซอฟต์แวร์ที่จัดการเครือข่ายหลักขัดข้อง กระทบบริการออนไลน์ และเว็บไซต์ต่างๆ ทั่วโลก

Mayur Upadhyaya CEO ของ APIContext อธิบายว่าสิ่งที่เราเห็นเป็นผลมาจากการมาบรรจบกันของสามปัจจัย คือ ระบบอัตโนมัติ ทราฟฟิกที่หนาแน่น และการรวมศูนย์โครงสร้างพื้นฐานในผู้ให้บริการไม่กี่ราย

เขากล่าวว่า “อินเทอร์เน็ตกลายเป็นเครื่องจักรของการพึ่งพาแบบวงจร – แพลตฟอร์มคลาวด์พึ่งพา DNS, ระบบ DNS และ control plane ทำงานบนคลาวด์เดียวกัน, ระบบรักษาความปลอดภัยพึ่งพาทั้งสอง และ CDN ครอบคลุมทุกชั้น เมื่อมีสิ่งเล็กๆ ผิดพลาดในชั้นใดชั้นหนึ่ง ผลกระทบจะลุกลามไปทั่วโลกโดยอัตโนมัติ”

ไม่ใช่ปัญหาโหลดหนัก แต่เป็นความซับซ้อนของระบบ

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากข้อผิดพลาดเล็กๆ ในการตั้งค่าที่แฝงอยู่ กลับถูกกระตุ้นให้ปะทุภายใต้สภาวะแรงกดดันสูง

Malik จาก KnowBe4 เตือนว่า “ข้อผิดพลาดในการตั้งค่าและเมทาดาต้ากลายเป็นปัญหา ‘วิกฤตไฟดับดิจิทัล‘ – เพียงบรรทัดเดียวที่ผิดที่สามารถลุกลามไปทั่วทุกภูมิภาค”

ทางรอดคือความยืดหยุ่น

ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเครือข่ายคลาวด์ในปัจจุบันคล้ายกับโครงข่ายไฟฟ้าแรงสูง – เชื่อมโยงกัน ปรับให้เหมาะสมด้วยระบบอัตโนมัติ แต่ก็เปราะบางต่อปฏิกิริยาลูกโซ่ที่คาดไม่ถึง

การแก้ปัญหาในอนาคตน่าจะต้องอาศัยกลยุทธ์ multi-cloud, ระบบสำรองแบบออฟไลน์ และโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถลดประสิทธิภาพอย่างค่อยเป็นค่อยไปแทนที่จะล่มอย่างรุนแรง – เพื่อป้องกันไม่ให้ “ความซับซ้อน” กลายเป็น “ความอ่อนแอ” ของโลกดิจิทัล

ที่มา