Microsoft ออกแพตช์ฉุกเฉิน แก้ปัญหาตัวอัปเดตทำการ Recovery ของ Windows 10 และ 11 มีปัญหา

Microsoft ออกแพตช์แก้ไขฉุกเฉิน (Out-of-Band Update – OOB) หลังจากผู้ใช้ Windows 10 และ Windows 11 จำนวนมากรายงานปัญหาไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์ Reset this PC และเครื่องมือ Recovery ได้ตามปกติ หลังติดตั้งการอัปเดตประจำเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
สาเหตุของปัญหา
ต้นตอของปัญหาเกิดจาก Cumulative Update เดือนสิงหาคม 2025 ที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ โดยเมื่อผู้ใช้พยายามกู้คืนระบบหรือรีเซ็ตเครื่องใหม่ กระบวนการจะเริ่มทำงานตามปกติ แต่เมื่อรีบูตเข้าสู่ขั้นตอนติดตั้ง ระบบกลับยกเลิกและย้อนกลับ (rollback) ทำให้ไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์รีเซ็ตได้สำเร็จ

นอกจากนี้ ฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องอย่าง RemoteWipe CSP ซึ่งใช้โดยผู้ดูแลระบบเพื่อรีเซ็ตอุปกรณ์จากระยะไกล ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน สร้างความกังวลให้กับทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและองค์กรที่พึ่งพาฟังก์ชันนี้ในการกู้คืนระบบหาก Windows มีปัญหา
ปัญหานี้พบในหลายเวอร์ชันของ Windows ได้แก่ Windows 11 เวอร์ชัน 23H2 และ 22H2, Windows 10 เวอร์ชัน 22H2 รวมถึงรุ่น Enterprise LTSC 2021 และ IoT Enterprise LTSC 2021 และ Windows 10 Enterprise / IoT Enterprise LTSC 2019
แพตช์แก้ไขฉุกเฉินที่ Microsoft ปล่อยออกมา
เพื่อแก้ไขสถานการณ์ Microsoft ได้ออกแพตช์ OOB แยกตามเวอร์ชันดังนี้
- KB5066189 สำหรับ Windows 11 (23H2 และ 22H2)
- KB5066188 สำหรับ Windows 10 22H2 / Enterprise LTSC 2021 / IoT Enterprise LTSC 2021
- KB5066187 สำหรับ Windows 10 Enterprise / IoT Enterprise LTSC 2019
แพตช์เหล่านี้มาในรูปแบบ Cumulative Update ครอบคลุมการแก้ไขก่อนหน้าโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องติดตั้งอัปเดตเก่าเพิ่มเติม
โดยผู้ใช้งานสามารถอัปเดตได้ผ่าน Windows Update โดยจะปรากฏเป็นอัปเดตแบบ Optional Update หรือหากองค์กรต้องการติดตั้งเอง สามารถดาวน์โหลดได้จาก Microsoft Update Catalog