ศาลสั่ง Google ชดใช้ 314 ล้านดอลลาร์ ปมใช้เน็ตมือถือ Android โดยไม่ขออนุญาต

Google ถูกศาลในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกาตัดสินให้จ่ายค่าเสียหายเป็นมูลค่ารวมกว่า 314.6 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 10,900 ล้านบาท จากกรณีที่บริษัทแอบใช้อินเทอร์เน็ตมือถือ (cellular data) ของผู้ใช้งานอุปกรณ์แอนดรอยด์ เพื่อส่งข้อมูลกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของตน โดยที่ไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้
คดีนี้เกิดจากการฟ้องร้องแบบกลุ่ม (class action) ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2019 และครอบคลุมผู้ใช้งานมากกว่า 14 ล้านคนในรัฐแคลิฟอร์เนีย ฝ่ายโจทก์กล่าวหาว่า Google ใช้อินเทอร์เน็ตมือถือของผู้ใช้แม้ในขณะที่อุปกรณ์อยู่ในสภาพ “ไม่ได้ใช้งาน” หรือ idle เช่น ขณะหน้าจอดับหรือวางโทรศัพท์ไว้นิ่งๆ โดยไม่มีแอปใดเปิดใช้งาน ผู้เชี่ยวชาญพบว่าอุปกรณ์บางรุ่น เช่น Samsung Galaxy S7 มีการส่งข้อมูลกลับไปยัง Google มากถึง 8.88 เมกะไบต์ต่อวัน โดยกว่า 94% ของข้อมูลนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้งานโดยตรงของผู้ใช้
การส่งข้อมูลดังกล่าวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เฉลี่ยมากกว่า 389 ครั้งต่อวัน หรือในบางกรณีอาจสูงถึง 900 ครั้ง โดยเฉพาะเมื่อแอปของ Google อย่าง Chrome ทำงานอยู่เบื้องหลัง ฝ่ายโจทก์โต้แย้งว่าพฤติกรรมลักษณะนี้ทำให้ผู้ใช้ต้องสูญเสียปริมาณอินเทอร์เน็ตมือถือโดยไม่รู้ตัว ซึ่งในบางกรณีอาจส่งผลต่อค่าใช้จ่ายหรือการจำกัดการใช้งานในแพ็กเกจข้อมูล
แม้ Google จะอ้างว่าการส่งข้อมูลดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ “บริการหลัก” เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบปฏิบัติการ Android และมีการระบุไว้ในเงื่อนไขการใช้งานแล้วก็ตาม แต่คณะลูกขุนมีมติว่าบริษัทไม่ได้ให้ข้อมูลอย่างเพียงพอหรือขอความยินยอมอย่างเหมาะสม จึงถือเป็นการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค ศาลจึงตัดสินให้บริษัทต้องชดเชยความเสียหายต่อผู้ใช้ในแคลิฟอร์เนียจำนวน 14 ล้านรายทันที
นอกจากคดีนี้แล้ว ยังมีคดีที่คล้ายกันในระดับประเทศอีกหนึ่งคดีซึ่งกำลังอยู่ระหว่างพิจารณา โดยครอบคลุมผู้ใช้ Android จากอีก 49 มลรัฐทั่วสหรัฐฯ คดีดังกล่าวมีกำหนดขึ้นศาลในเดือนเมษายน 2026 ซึ่งอาจสร้างผลกระทบใหญ่ต่อ Google และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโดยรวม
คำตัดสินครั้งนี้ โดยตอกย้ำว่าบริษัทเทคโนโลยีต้องมีความโปร่งใสและให้ผู้ใช้ควบคุมข้อมูลของตนเองได้อย่างแท้จริง การแอบใช้อินเทอร์เน็ตมือถือแม้เพียงเล็กน้อย ย่อมมีต้นทุนที่ผู้ใช้ต้องแบกรับ