อินแกรม ไมโคร แถลงยอมรับโดนแรนซัมแวร์ SafePay เล่นงาน เร่งฟื้นระบบสั่ง-จัดส่งสินค้า ท่ามกลางเสียงวิจารณ์เรื่องความโปร่งใส

อินแกรม ไมโคร ได้ออกมายืนยันผ่านแถลงการณ์สั้นๆ ว่า ได้ตรวจพบการโจมตีจากแรนซัมแวร์บนระบบภายในขององค์กร ซึ่งส่งผลให้ระบบสำคัญหลายส่วนหยุดชะงัก ช่วงเวลาที่เกิดเหตุยังตรงกับวันหยุดยาวของสหรัฐฯ ทำให้ลูกค้าหลายรายไม่สามารถสั่งซื้อหรือรับสินค้าได้
เหตุโจมตีเกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 3 กรกฎาคม 2025 ซึ่งเป็นช่วงวันหยุด Independence Day ของสหรัฐฯ แรนซัมแวร์ถูกตรวจพบบนบางระบบภายในของบริษัท โดยบริษัทได้ออกแถลงการณ์ว่า “ทันทีที่ทราบถึงปัญหา บริษัทได้ดำเนินการรักษาความปลอดภัยในระบบที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน รวมถึงการปิดระบบบางส่วนแบบเชิงรุก และใช้มาตรการลดความเสี่ยงอื่น ๆ นอกจากนี้ยังได้เริ่มการสอบสวนโดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ชั้นนำ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นทางการแล้ว”
ในขณะเดียวกัน อินแกรม ไมโคร ย้ำว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเร่งกู้คืนระบบที่ได้รับผลกระทบ เพื่อกลับมาดำเนินการสั่งซื้อและจัดส่งสินค้าโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งขออภัยต่อความไม่สะดวกที่เหตุการณ์นี้อาจสร้างผลกระทบต่อลูกค้า คู่ค้า และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ
เบื้องต้นในขณะนี้เว็บไซต์ของบริษัทได้กลับมาออนไลน์แล้ว แต่ระบบหลักที่มีปัญหาอย่าง Xvantage ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกระจายสินค้าอัจฉริยะของบริษัทยังมีปัญหาอยู่
สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย ขณะนี้เรากำลังติดตามสอบถามความคืบหน้าจากทางอินแกรม ไมโคร ประเทศไทย เพื่อดูว่าจะมีมาตรการใดออกมาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ในการสั่งซื้อสินค้าและดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ภายใต้การจัดจำหน่ายของอินแกรมฯ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะรายงานให้ทราบต่อไป

มุมมองที่ยังเชื่อมั่น
ขณะที่ อินแกรม ไมโคร กำลังเร่งดำเนินการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง คู่ค้าบางส่วนที่ให้ความเชื่อมั่นในกระบวนการรับมือของ อินแกรม อย่างเช่น James Rocker ผู้บริหารจากบริษัท Nerds That Care ในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นพันธมิตร Trust X Alliance กับ อินแกรมกล่าวว่า “ในขณะนี้ อินแกรม ไมโคร ยังไม่ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ เพราะเคารพต่อกระบวนการสอบสวน เราเชื่อว่าสิ่งสำคัญคือการให้ทีมงานรวบรวมข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนก่อนจะสื่อสารต่อสาธารณะ ภัยไซเบอร์เป็นความท้าทายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรม และเหตุการณ์นี้สะท้อนว่าต่อให้เป็นองค์กรที่เตรียมพร้อมที่สุดก็ยังไม่ปลอดภัยเต็มร้อย”
Rocker ยังคงมองในแง่บวก โดยกล่าวว่าเขามั่นใจในความโปร่งใส การตอบสนอง และความตั้งใจจริงของ อินแกรม ไมโคร ในการลดผลกระทบต่อพันธมิตรและลูกค้า เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “สิ่งสำคัญคือเราต้องยกระดับมาตรฐานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของอุตสาหกรรมร่วมกัน แบ่งปันข้อมูลเชิงลึก และสนับสนุนกันในยามวิกฤตเช่นนี้ เราเชื่อว่า อินแกรม ไมโคร กำลังดำเนินการอย่างเหมาะสมและจะสื่อสารเมื่อถึงเวลาอันควร ในระหว่างนี้เราจะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและมุ่งมั่นปกป้องลูกค้าและพันธมิตรของเราให้ปลอดภัย”
เสียงบ่น
แต่เสียงสะท้อนจากพันธมิตรและคู่ค้าในอุตสาหกรรมเริ่มเผยความไม่พอใจในระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะประเด็นการสื่อสารที่ขาดหายอย่างเห็นได้ชัด Stanley Louissaint ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการของ Fluid Designs บริษัท MSP จากรัฐนิวเจอร์ซีย์กล่าวว่า “ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในสถานการณ์นี้ไม่ใช่การโจมตีเสียด้วยซ้ำ แต่มันคือการขาดความโปร่งใสและการสื่อสาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำลายความเชื่อมั่นในความสัมพันธ์ระหว่างผู้จัดจำหน่ายกับพันธมิตรโดยสิ้นเชิง”
เขาระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่เขาได้รับอีเมลโฆษณาจาก Ingram ก็ไม่มีการติดต่อใด ๆ เพิ่มเติม แม้ว่าจะมีคำสั่งซื้อที่เปิดไว้หลายรายการและกำลังดำเนินธุรกิจร่วมกันอยู่ “ผมมีออเดอร์ที่ยังรอดำเนินการอยู่หลายรายการ แล้วเว็บไซต์ก็ล่มไปเฉย ๆ ไม่มีข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับสถานะการจัดส่ง เข้าระบบไม่ได้เลย ไม่มีอะไรเลย” เขากล่าว พร้อมระบุว่าความล่าช้าที่เกิดขึ้นมองเห็นได้ชัดเจน
แม้บริษัทของเขาจะไม่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงนัก เพราะมีการกระจายแหล่งจัดซื้อจากผู้จัดจำหน่ายรายอื่น แต่เขาแสดงความเป็นห่วงต่อองค์กรอื่นที่พึ่งพา อินแกรม เพียงรายเดียว “มีหลายบริษัทที่ติดอยู่กับสถานการณ์นี้อย่างสมบูรณ์ พวกเขาไม่สามารถจัดส่งสินค้า ไม่สามารถดำเนินออเดอร์ ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้เลย นี่แหละคือเหตุผลที่เราไม่เคยฝากความหวังทั้งหมดไว้กับผู้จัดจำหน่ายเพียงเจ้าเดียว”
Louissaint ยังตั้งคำถามต่อแผนรับมือเหตุฉุกเฉินของ อินแกรม ว่า “แผนฉุกเฉินของคุณคืออะไร? ขั้นตอนกู้คืนระบบอยู่ตรงไหน? เคยทดสอบไหม? เห็นได้ชัดว่าบางอย่างล้มเหลว คุณจะจ่ายค่าไถ่ไหม? หรือไม่จ่าย? ผู้คนต้องการความโปร่งใส”
ในอีกมุมหนึ่ง ซีอีโอของบริษัทในกลุ่มผู้ให้บริการโซลูชันระดับ S&P500 (ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ) กล่าวว่า บริษัทของเขากำลังเร่งวาง “แผนสำรอง” เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความล่าช้าได้ทันเวลา โดยระบุว่า “สิ่งสำคัญที่สุดของเราคือความสามารถในการส่งสินค้าให้กับลูกค้า เรายังมีพันธะกับ OEM หลายรายที่ต้องทำรายได้ให้ทันตามกำหนด เราจึงเริ่มติดต่อ OEM รายใหญ่และ TD Synnex แล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าได้รับการดูแล หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายภายในวันพุธหน้า เราจะต้องย้ายธุรกิจไปที่อื่น”
คงต้องติดตามต่อไปว่าทาง อินแกรม ไมโคร จะรับมือกับปัญหาใหญ่หลวงนี้อย่างไร ทั้งในแง่การฟื้นฟูระบบ การเยียวยาผลกระทบ และที่สำคัญคือ การสื่อสารกับพันธมิตรอย่างโปร่งใสและต่อเนื่อง คำตอบทั้งหมดอยู่ที่การกระทำจากนี้เป็นต้นไป