ถึงเวลาประเทศไทยยกระดับความสำคัญ Cloud Sovereignty เพื่อความมั่นคงและเสถียรภาพข้อมูลรับเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเติบโต
ด้วยการลงทุนด้านดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นและการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม หรือ ประเทศไทย 4.0 (Thailand 4.0) ทำให้ประเทศต่าง ๆ ตระหนักถึงความจำเป็นในการรักษาความปลอดภัยที่แพร่หลายมากขึ้น รวมถึงการควบคุมอธิปไตยเหนือดิจิทัลซัพพลายเชน เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของ Sovereign Cloud บริษัท วีเอ็มแวร์ จำกัด (VMware – NYSE: VMW) ร่วมกับ Thai CIO Association และ VSTECS จัดงาน Sovereign Cloud Discovery เมื่อวานนี้ที่กรุงเทพฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นและแนวทางในการจัดการกับความท้าทายต่าง ๆ
เนื่องจากองค์กรในประเทศไทยกำลังเร่งสร้างการเติบโตเพื่อรองรับการขยายตัวของการค้าระหว่างประเทศพร้อมทั้งเพิ่มสาขาเพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุมการให้บริการทั่วประเทศ ขณะนี้ธุรกิจจำเป็นต้องพิจารณากลยุทธ์คลาวด์อย่างใกล้ชิดและประเมินการเข้าถึงและควบคุมข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล อุตสาหกรรม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย (PDPA) ยังช่วยกำหนดวิธีที่ธุรกิจในประเทศไทยควรจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลของพลเมืองของประเทศและสิทธิ์ในความเป็นส่วนตัว อ้างอิงข้อมูลจากไอดีซีพบ 63% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า การมีโซลูชันระบบคลาวด์ที่ให้สิทธิ์ในการควบคุมและอำนาจอย่างเต็มที่ต่อข้อมูลของตนเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นทางธุรกิจในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ให้ความโปร่งใสและมองเห็นข้อมูลได้ และควบคุมที่อยู่ของข้อมูลอย่างเข้มงวด ที่งาน Sovereign Cloud Discovery ผู้บรรยายได้เจาะลึกแนวคิดเรื่อง Data Sovereignty กฎหมายที่ควบคุมพฤติกรรมออนไลน์ การปกป้องข้อมูล และปัญหาด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ในการตั้งค่าอธิปไตย ก่อนที่จะมุ่งเน้นไปที่ความท้าทายอื่น ๆ
นายเอกภาวิน สุขอนันต์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท วีเอ็มแวร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในขณะที่องค์กรและรัฐบาลตระหนักถึงความจำเป็นของโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ที่ปลอดภัยและมีการจัดการในประเทศมากขึ้น แนวคิดเรื่อง sovereign cloud จึงกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและการเติบโต บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกต่างจัดเก็บและจัดการข้อมูลผู้บริโภคจากตลาดอื่นนอกเหนือจากตลาดของตนเอง สิ่งนี้ต้องการความเป็นส่วนตัวของข้อมูล การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการจัดการข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ในขณะที่เพิ่มข้อได้เปรียบจากคลาวด์คอมพิวติ้งให้ได้สูงสุด โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ตรงตามข้อกำหนดและความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุงเป็นสองปัจจัยที่พาร์ทเนอร์ของเราทั้ง AIS และ CloudHM กำลังดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าชาวไทยจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการปรับใช้คลาวด์”
ที่งาน Sovereign Cloud Discovery ได้รับเกียรติจาก ดร.กำพล ศรธนะรัตน์ นายกสมาคม Thai CIO และนายกสมาคม Thai DPO, มร. ทีโบ ไคลเนอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบาย ยุทธศาสตร์ และการเข้าถึงบริการจาก DG Connect, นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, ดร.สุนทรีย์ ส่งเสริม ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายกฤษกร ชัยเจริญ หัวหน้าฝ่ายองค์กร ผลิตภัณฑ์แพลตฟอร์มดิจิทัลจาก AIS, นายณพัชร อัมพุช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CloudHM, มร. พอล ไซมอส รองประธานและกรรมการผู้จัดการ วีเอ็มแวร์ประจำภูมอภาคตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียและเกาหลี และ นายเอกภาวิน สุขอนันต์ ผู้จัดการประจำวีเอ็มแวร์ประเทศไทย
ด้าน นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าองค์กร AIS กล่าวว่า“ในฐานะผู้ให้บริการระบบคลาวด์ชั้นนำในประเทศไทย เราช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ใช้ประโยชน์จากระบบคลาวด์ได้อย่างเต็มที่และปลดล็อกคุณค่าของข้อมูลที่สำคัญของตนไปพร้อมกับปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลในประเทศ ด้วยบริการ sovereign cloud ที่พร้อมสำหรับนักพัฒนา เราได้นำเสนอประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างการเติบโตและสร้างสรรค์นวัตกรรม โดยปราศจากความกังวลต่อการบริหารจัดการข้อมูลภายใต้กฎระเบียบรวมทั้งความสามารถในการจัดการความต้องที่ซับซ้อน”
ขณะที่ นายณพัชร อัมพุช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CloudHM กล่าวว่า “ความปลอดภัยของข้อมูลบนคลาวด์ส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยขององค์กร แต่ละประเทศมีกฎระเบียบ มาตรฐาน และกฎหมายสำหรับการใช้งานคลาวด์ที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจขัดแย้งกับความปลอดภัยของข้อมูลจากผู้ให้บริการคลาวด์ที่แตกต่างกัน ด้วยความร่วมมือกับ VMware ทำให้เราสามารถช่วยลูกค้าจัดการและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลได้อย่างมีเสถียรภาพมากขึ้นในประเทศตัวเองไม่ต้องเผชิญกับการควบคุมและอิทธิพลจากต่างประเทศ”