อินโฟบล็อกซ์ 3.0 ผสาน ไฮบริด ดีดีไอ และระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อปลดล็อกกลยุทธ์คลาวด์-เฟิร์ส
บริษัท อินโฟบล็อกซ์ อิงค์ (Infoblox Inc.) ผู้นำด้านเครือข่ายหลักและการบริการรักษาความปลอดภัย เปิดตัว อินโฟบล็อกซ์ 3.0 (Infoblox 3.0) ที่มุ่งนำประสบการณ์ระบบเครือข่ายแบบคลาวด์ -เฟิร์ส (Cloud-First) อย่างปลอดภัย โดยบริษัทฯ ได้นำ NIOS ซึ่งเป็น โซลูชันดีดีไอ (DDI) ชั้นนำในอุตสาหกรรมสำหรับเซิร์ฟเวอร์องค์กร มารวมกับแพลตฟอร์ม BloxOne Threat Defense และ BloxOne DDI ที่ทำงานบนระบบคลาวด์ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเชื่อมโยงระบบเครือข่ายหลักและระบบรักษาความปลอดภัยเข้ากับระบบคลาวด์ได้อย่างราบรื่นภายใต้แนวทางที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรสมัยใหม
อินโฟบล็อกซ์ 3.0 ผู้นำโซลูชันการรักษาความปลอดภัยชั้นนำของอุตสาหกรรมทั้ง ดีดีไอ (DDI) และ
ดีเอ็นเอส (DNS) เพิ่มศักยภาพให้สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานของเซิร์ฟเวอร์องค์กร ระบบเสมือนจริง ระบบคลาวด์ และระบบไฮบริดให้เหมาะกับความต้องการด้านเครือข่ายที่ทันสมัยของลูกค้า โดยการปรับใช้งานดังกล่าวจะช่วยให้ลูกค้าสามารถขยายเครือข่ายของตน อย่างเหนือชั้น ดังนี้:
- เรียบง่าย Simple : การนำเสนอประสบการณ์เครือข่ายที่ให้ความสำคัญกับระบบคลาวด์เป็นหลักในรูปแบบอัตโนมัติและได้มาตรฐานโดยใช้ชุด API สำหรับระบบคลาวด์ที่มีความสมบูรณ์ที่สุด ตลอดจนการผสานรวมระบบและข้อมูลที่สอดคล้องกับทิศทางของตลาด
- เชื่อถือได้ Reliable : เป็นโซลูชันที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าสามารถรับประกันความพร้อมใช้งานของเครือข่ายที่มีความสำคัญต่อภารกิจได้ถึง 99.999% ซึ่งรวมถึงเครือข่ายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกโดยอาศัยความยืดหยุ่นและความมีประสิทธิภาพคุ้มค่าของระบบคลาวด์
- ปรับขนาดได้ Scalable : ให้บริการได้ทุกที่ทุกเวลาตามที่ลูกค้าต้องการภายใต้ความมีประสิทธิภาพราบรื่นและความสอดคล้องเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งระบบ
- ปลอดภัย Secure : ช่วยให้ลูกค้าสามารถดูแลและรักษาความปลอดภัยทั่วไปสำหรับผู้ใช้งานและอุปกรณ์ทั้งหมดได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยการตรวจจับและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
“สถานการณ์ของโรคระบาดใหญ่ได้ผลักดันให้เครือข่ายขององค์กรจำเป็นต้องเดินหน้าเข้าสู่ระบบคลาวด์ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งยังจะต้องขับเคลื่อนให้เครือข่ายมีความสมัยอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากหลาย บริษัทต่างพากันหันไปใช้แอปพลิเคชันและบริการบนระบบคลาวด์เพื่อสร้างสถานที่ทำงานให้มีลักษณะไฮบริดหรือแบบผสมผสานมากยิ่งขึ้น” นายอภิชาติ เจิมประไพ ผู้จัดการประจำประเทศไทย อินโฟบล็อกซ์ กล่าวและว่า “อินโฟบล็อกซ์ 3.0 ช่วยให้องค์กรสามารถเก็บเกี่ยวสิ่งที่ดีที่สุดจากระบบเซิร์ฟเวอร์องค์กรและโลกแห่งระบบคลาวด์ด้วยการปรับแต่งระบบเครือข่ายและระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อสร้างกลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับระบบคลาวด์เป็นหลักหรือคลาวด์-เฟิร์ส เรากำลังให้รากฐานที่ลูกค้าต้องการ ไม่ว่าจะเป็นระบบคลาวด์แบบส่วนตัวที่รองรับการใช้งานบนเซิร์ฟเวอร์องค์กร รวมถึงเครือข่ายไฮบริดที่ผสานศูนย์ข้อมูลและระบบคลาวด์หรือเครือข่ายที่เป็นระบบคลาวด์อย่างสมบูรณ์”
“อินโฟบล็อกซ์ เป็นผู้นำตลาดด้านดีดีไอ โดยเป็นผู้บุกเบิกในสายนี้ตั้งแต่สมัยที่เซิร์ฟเวอร์เครือข่ายยังติดตั้งอยู่ในตู้ของสาขาบริษัทต่างๆ” นายโรหิต เมห์รา รองประธานบริหารฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย บริษัท ไอดีซี กล่าว และว่า “Infoblox 3.0 เป็นสุดยอดผลงานของบริษัทที่สามารถสร้างแพลตฟอร์ม BloxOne บนระบบคลาวด์ขึ้นเป็นครั้งแรก รวมถึงการเชื่อมต่อความสามารถด้านดีดีไอ สำหรับเซิร์ฟเวอร์องค์กรของ NIOS เข้ากับ BloxOne DDI และ BloxOne Threat Defense ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างเครือข่ายดีดีไอแบบไฮบริดและแบบคลาวด์อย่างเดียวได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่องค์กรสมัยใหม่ต้องการเพื่อเปลี่ยนโฉมสถานที่ทำงานให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ”
“เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่เห็นอินโฟบล็อกซ์เดินหน้ารุกเข้าสู่ตลาดเครือข่ายที่ให้ความสำคัญกับระบบคลาวด์เป็นหลัก ทั้งยังวางรากฐานด้านความปลอดภัยไว้ให้อย่างพร้อมสรรพ ซึ่งสามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการนำเอาโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์และแบบไฮบริดเข้ามาปรับใช้ภายในองค์กรของตน” นายไบรอัน เฮปเบิร์น ซีอีโอบริษัท เอ็มพาวเวอด์ เน็ตเวิร์กส์ กล่าว และว่า “เราเห็นองค์กรต่างๆ เพิ่มการลงทุนเป็น 2 เท่าสำหรับการวางรากฐานเหล่านี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างกระบวนการทำงานให้เกิดความยืดหยุ่นเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการกลับมาเปิดสำนักงานอีกครั้ง โดย Infoblox 3.0 มอบ โซลูชันที่คู่ค้าตัวแทนจำหน่ายสามารถนำไปใช้สนับสนุนลูกค้าได้อย่างเต็มที่ในด้านการผลักดันให้เกิดเครือข่ายแบบไฮบริดและระบบคลาวด์อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรองรับทั้งในปัจจุบันและอนาคต”
ความเห็นจากลูกค้า:
ผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ภายในองค์กรแบบทั่วไป มักจะต้องมีผู้จัดการเฉพาะและฮาร์ดแวร์เพิ่มเติมสำหรับเซิร์ฟเวอร์เพื่อการจัดทำรายงาน แต่ BloxOne Threat Defense Advanced ช่วยยุบรวมทั้งหมด เพราะทุกอย่างมีพร้อมทำงานบนระบบคลาวด์อย่างสมบูรณ์” ขณะที่ในด้าน DDI นั้น “เมื่อใช้แอป SaaS อย่าง Office 365 การข้ามขั้นตอนดังกล่าวอาจทำให้เกิดการหน่วงและความไม่เสถียรด้านประสิทธิภาพ แต่ BloxOne ทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเสียเวลา ปรับเพิ่มเส้นทางการรับส่งข้อมูล ผ่านศูนย์ข้อมูลขององค์กร” – แบปติสต์ เมโมเรียล เฮลธ์ แคร์ (ดูข้อมูลเพิ่มเติม)
“BloxOne DDI เป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของเราในด้านการทำให้สถาปัตยกรรม DNS กลายมาส่วนหนึ่งในไซต์ขององค์กรของเราได้อย่างแท้จริง การทำงานที่ราบรื่นของโซลูชันนี้ สร้างความโดดเด่นให้อินโฟบล็อกซ์แตกต่างจากผู้จำหน่ายรายอื่นๆ ซึ่งในอดีตนั้น การปรับใช้ DDI ใหม่ต้องใช้เวลาประมาณสี่หรือห้าชั่วโมงเพื่อให้สามารถทำงานได้ตามปกติภายใต้การกำหนดค่าที่จำเป็นทั้งหมด แต่การนำระบบ DDI ไปใช้ในไซต์ใหม่ในตอนนี้ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ซึ่งการประหยัดเวลาดังกล่าวไม่ได้จำกัดอยู่แค่การใช้งาน หรืออาจกล่าวได้ว่าเพียงแค่เราติดตั้งระบบ ก็สามารถวางใจได้เลย การทำงานที่ราบรื่นนี้ถือเป็นความโดดเด่นที่ทำให้ Infoblox แตกต่างจากผู้จำหน่ายรายอื่นอย่างแท้จริง” — (ดูข้อมูลเพิ่มเติม)