November 24, 2024

Fortinet® เปิดตัวผลิตภัณฑ์ไฟร์วอลล์เน็กซ์เจนเนอเรชั่นรุ่น FortiGate Rugged 60F และ รุ่น FortiGate Rugged 60F

คุณจอห์น แมดิสัน  ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด และรองประธานอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์แห่งฟอร์ติเน็ตได้กล่าวว่า  “การรวมกันของ OT (Operational Technology) และ IT ได้เปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจของหลายๆ องค์กรและในขณะเดียวกัน ยังเป็นการเปิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยใหม่ๆ  องค์กร OT จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้โซลูชั่นเครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วยคุณสมบัติด้านความปลอดภัย (Security-driven networking solution)  ที่มอบการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ห่างไกล แพลตฟอร์ม FortiGate Rugged 60F มอบความสามารถซีเคียวเอสดีแวนอันปลอดภัย (Secure SD-WAN) ให้กับองค์กรเจ้าของระบบ OT เพื่อให้สามารถใช้นวัตกรรมดิจิทัลได้อย่างมั่นใจในขณะที่มีการปฏิบัติงานที่ปลอดภัยและต่อเนื่อง ซึ่งความก้าวหน้าด้านผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของฟอร์ติเน็ตในการพัฒนาและขยายโซลูชั่นซีเคียวเอสดีแวนปกป้องเครือข่ายส่วน Edge และส่วนแนวดิ่งของห่วงโซ่อุปทานในธุรกิจ (Verticals) ได้ทั้งหมด”

Fortinet® (NASDAQ: FTNT) ฟอร์ติเน็ตผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบอัตโนมัติและครบวงจรประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไฟร์วอลล์เน็กซ์เจนเนอเรชั่นรุ่น FortiGate Rugged 60F และ รุ่น FortiGate Rugged 60F ที่รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบแอลทีอี (LTE) ในตัว ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้เป็นอุปกรณ์ซีเคียวเอสดีแวนรุ่นแรกของอุตสาหกรรมที่ได้รับการรับรองให้ใช้งานในสภาพแวดล้อม OT เนื่องจากอุปกรณ์ใหม่ทั้งสองรุ่นนี้สร้างขึ้นสำหรับการทำงานในสภาวะแวดล้อมธุรกิจภาคอุตสาหกรรม ภายนอกสำนักงาน เช่น สาธารณูปโภคและพลังงาน การผลิตและการขนส่งที่ยังไม่เคยมีมาก่อนได้

เครือข่าย OT ต้องการโซลูชั่นเฉพาะ

อุตสาหกรรมต่างๆ ใน OT อาทิ อุตสาหกรรมการผลิต พลังงานและสาธารณูปโภค น้ำมันและก๊าซ และโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอื่นๆ ส่วนใหญ่จะมีสำนักงานและโรงงานในลักษณะกระจายตัวและมีการเชื่อมโยงโครงข่ายเพื่อสร้างและรวบรวมข้อมูลด้วยอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบวงจรเช่า (Leased line) หรือวงจร MPLS อันมีราคาแพงเพื่อให้การส่งข้อมูลที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้  เทคโนโลยีเอสดีแวนเข้ามาเปลี่ยนแปลงการเชื่อมโยงโครงข่าย และเป็นที่นิยมมากขึ้น จนกลายเป็นโซลูชันอันทันสมัยสำหรับองค์กร OT  เนื่องจากสามารถให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น มีการจัดการที่ง่ายขึ้น และลดต้นทุนการเป็นเจ้าของโดยรวมที่ต่ำลง แต่การนำเทคโนโลยีเอสดีแวนมาใช้นั้น องค์กรจำเป็นต้องใช้โซลูชันที่ตรงกับความต้องการเฉพาะและข้อจำกัดของสภาพแวดล้อม OT ของตนเอง อันรวมถึงข้อกำหนดด้านการจัดสรรพื้นที่ใช้สอย ปริมาณการบริโภคพลังงาน ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมต่างๆ

ฟอร์ติเน็ตสามารถเปิดใช้เอสดีแวนในที่ที่ไม่เคยมีมาก่อนได้สำเร็จ

เพื่อจัดการกับข้อกำหนดที่ไม่เหมือนใครขององค์กร OT นี้ ฟอร์ติเน็ตจึงเปิดตัว FortiGate Rugged 60F และ FortiGate Rugged 60F ที่มีแอลทีอีในตัว ซึ่งเป็นรุ่นที่มีความแข็งแรงทนทานในกลุ่มผลิตภัณฑ์ซีรีส์ FortiGate 60 series อันเป็นอุปกรณ์ไฟร์วอลล์เน็กซ์เจนเนอเรชั่นประเภทซีเคียวเอสดีแวนบนเดสก์ท็อปที่ทำงานด้วยประสิทธิภาพสูง ให้ความเร็วที่สุดและทรงพลังที่สุด และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุด โดยมียอดขายมากกว่า 1.65 ล้านเครื่องทั่วโลก

แพลตฟอร์ม FortiGate Rugged 60F เป็นอุปกรณ์ตัวแรกที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ เพื่อให้สามารถใช้เอสดีแวนได้อย่างปลอดภัยในสภาพแวดล้อม OT:

•      เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กอันทรงประสิทธิภาพ: FortiGate Rugged 60F มีขนาดเล็ก แต่ได้รวมคุณสมบัติการเชื่อมต่อเอสดีแวนชั้นนำของอุตสาหกรรม และรวมถึงการกำหนดเส้นทาง (Advanced routing) ขั้นสูงและการรักษาความปลอดภัยของไฟร์วอลล์ประเภทเน็กซ์เจนเนอเรชั่นไว้เรียบร้อยแล้ว ด้วยรูปแบบขนาดกะทัดรัดที่มีคุณสมบัติเบ็ดเสร็จครบเช่นนี้จึงสามารถนำมาใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีพื้นที่จำกัด จัดการง่าย ช่วยนักวิเคราะห์เครือข่ายลดต้นทุนและลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน

·         ติดตั้งได้อย่างยืดหยุ่นและใช้พลังงานน้อย: FortiGate Rugged 60F ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการใช้งานในไซต์สำนักงานของ OT ขนาดเล็กได้ ซึ่งมักต้องการอุปกรณ์ที่สามารถติดตั้งแบบแขวนและบริโภคพลังงานน้อยลง ไม่จำเป็นต้องติดตั้งในในตู้ไอทีที่มีการเดินสายซับซ้อนแบบเดิม

·         มีความแข็งแกร่งทนทาน: FortiGate Rugged 60F ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้ทำงานในสภาพแวดล้อมอันเลวร้าย เช่น ในที่ที่มีอุณหภูมิสูงมาก มีการรบกวนของแม่เหล็กไฟฟ้า มีความชื้นสูงและมีการสั่นสะเทือนที่รุนแรงหรือคงที่ตลอดเวลาได้

·         รองรับการเชื่อมต่อแอลทีอีในตัว: สำหรับสถานที่ห่างไกล FortiGate Rugged 60F มาพร้อมกับออปชั่นหากองค์กรต้องการเชื่อมต่อกับแอลทีอี จึงสามารถเลือกที่จะเชื่อมต่อแบบ WAN เพิ่มเติมได้ มีขั้นตอนการปรับใช้และการใช้งานที่ง่ายขึ้น

ฟอร์ติเน็ตให้ประสิทธิภาพระกับชั้นนำของอุตสาหกรรมแก่ OT

นอกเหนือจากการเป็นอุปกรณ์ซีเคียวเอสดีแวนเพียงรุ่นเดียวที่ได้รับการรับรองเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมเทคโนโลยีการปฏิบัติงานแล้ว แพลตฟอร์ม FortiGate Rugged 60F ยังมอบประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยและระบบเครือข่ายสูงสุดในอุตสาหกรรม ซึ่งขับเคลื่อนโดย SOC4 SD-WAN ASIC ที่จดสิทธิบัตรของฟอร์ติเน็ต ทั้งนี้ แพลตฟอร์ม FortiGate Rugged 60F ยังป้องกันการทำงานที่มีความหน่วงต่ำ รองรับการถอดรหัส SSL และให้มาตราส่วน IPsec VPN scale ที่สูงขึ้นได้ ซึ่งการทำงานทั้งหมดจะเป็นแบบบูรณาการและจัดการโดย SD-WAN orchestrator ของฟอร์ติเน็ตที่ใช้งานอย่างง่ายๆ

ทั้งนี้ โซลูชันของฟอร์ติเน็ตเป็นที่ยอมรับและได้รับการรับรองจากอุตสาหกรรมอย่างกว้างขวาง โดยการ์ทเนอร์ได้จัดฟอร์ติเน็ตให้อยู่ในกลุ่มผู้นำในรายงาน Gartner Magic Quadrant สำหรับ Network Firewalls เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และเป็นผู้นำในรายงาน 2020 Gartner Magic Quadrant สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน WAN Edge เมื่อเดือนกันยายน  ด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมานานกว่า 20 ปีจึงส่งให้ฟอร์ติเน็ตเข้าใจในความต้องการของตลาดและผลิตโซลูชัน FortiGate Rugged 60F ที่เหมาะสมกับความต้องการและข้อจำกัดของสภาพแวดล้อม OT ที่ไม่เหมือนใคร

ใช้ Security-driven networking solution สำหรับ OT

ฟอร์ติเน็ตได้ออกแบบใช้แนวทางการสร้างเครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วยความปลอดภัย (Security-driven networking solution) ให้กับเอสดีแวน ซึ่งสามารถรวมคุณสมบัติการเชื่อมโยงเครือข่ายและความปลอดภัยให้เป็นโซลูชันซีเคียวเอสดีแวนแบบประสานรวมครบวงจรพร้อมการควบคุมแบบรวมศูนย์ที่ราบรื่น ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อรวมโซลูชันซีเคียวเอสดีแวนเข้ากับซีเคียวริตี้แฟบริคของฟอร์ติเน็ต (Fortinet Security Fabric)  จะส่งให้ลูกค้ามีโซลูชันเดียวที่ครอบคลุมทั้งเครือข่าย IT-OT ที่ผสานรวมทั้งหมด เพื่อปิดช่องว่างด้านความปลอดภัยในสิ่งแวดล้อม OT และยังมอบการมองเห็นที่สมบูรณ์ ให้การจัดการที่ง่ายขึ้น

กลุ่มผลิตภัณฑ์ฟอร์ติเกตทั้งหมดมีศักยภาพในการควบคุมความปลอดภัยทางไซเบอร์และช่วยให้สามารถมองเห็นในเครือข่าย OT ได้ ผลิตภัณฑ์ฟอร์ติเกตรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในวันนี้ ขยายขีดความสามารถและมีความทนทานขึ้นมาก จึงเหมาะสำหรับการใช้งานบนแท่นขุดเจาะน้ำมัน สถานีไฟฟ้าย่อย สายการประกอบสินค้าทางทะเล และสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายอื่นๆ

คุณอองเดรย์ โกเปอร์ ผู้จัดการฝ่ายบำรุงรักษาโรงงานของ Sullair Argentina ได้กล่าวว่า “ธุรกิจของเราไม่สามารถยอมรับให้เกิดข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงานหรือการโจมตีจากภายนอกได้ เพราะเรามีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ตลอดเวลา 24 × 7 จึงทำให้เราให้ความสำคัญในโซลูชันการรักษาความปลอดภัยและเลือกใช้ซีเคียวเอสดีแวนของฟอร์ติเน็ตไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของเรา”

คุณเจย์ แอบดาลาห์ รองประธานฝ่ายบริการความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ Schneider Electric ได้กล่าวว่า “ลูกค้าในอุตสาหกรรม OT กำลังต้องการโซลูชันด้านปลอดภัยเพื่อช่วยเริ่มใช้งานนวัตกรรมดิจิทัลของตนเอง ทั้งนี้ ทีมผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของชไนเดอร์อิเล็คทริคมุ่งมั่นนำเสนอโซลูชันพร้อมเทคโนโลยีที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด การเป็นพันธมิตรกับฟอร์ติเน็ตจึงช่วยให้เราสามารถช่วยให้ลูกค้า OT ของเราปรับใช้เอสดีแวนได้อย่างปลอดภัยด้วยโซลูชันที่ปลอดภัยแบบครบวงจร ซึ่งช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและทำให้การจัดการเป็นไปอย่างง่ายดายยิ่งขึ้น”