November 24, 2024

เอ็นทีทีได้รับแต่งตั้งเป็นผู้นำด้านการให้บริการและการบริหารจัดการดาต้าเซ็นเตอร์

 

NTT Ltd., ผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ได้รับการยอมรับด้านความเป็นผู้นำด้านการให้บริการและบริหารจัดการศูนย์ข้อมูล หรือดาต้าเซ็นเตอร์ ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (โดยไม่รวมประเทศญี่ปุ่น) ใน  IDC MarketScape หรือ IDC MarketScape: Asia/Pacific (Excluding Japan) Datacenter Operations and Management 2020 Vendor Assessment. ในรายงานได้เน้นย้ำถึงดาต้าเซ็นเตอร์ของเอ็นทีที ที่มีการให้บริการอย่างกว้างขวางและครอบคลุมการให้บริการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างทั่วถึง พร้อมกันนี้ยังได้รับการแนะนำอย่างแข็งขันว่าเอ็นทีทีเหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการขยายธุรกิจในเอเชีย

รายงานดังกล่าวได้ประเมินผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ที่ดำเนินการในสี่ประเทศหรือมากกว่านั้น ที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยไม่รวมประเทศญี่ปุ่น  (APeJ) เพื่อให้บริการลูกค้าด้วยดาต้าเซ็นเตอร์ที่รองรับผู้ใช้บริการได้หลากหลายราย (multi-tenant) โดยสามารถเชื่อมต่อข้อมูลของตนที่อยู่ภายนอกมายังดาต้าเซ็นเตอร์ได้ โดยในรายงานดังกล่าวเน้นย้ำถึงโครงสร้างพื้นฐานที่น่าเชื่อถือของเอ็นทีที ที่ช่วยให้บริษัทข้ามชาติ (multi-national corporations : MNCs) เติบโตทางธุรกิจในประเทศสำคัญๆ นอกเหนือจากการสนับสนุนความพยายามในการทรานสฟอร์มทางดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพแล้วนั้น ระบบนิเวศ (ecosystem) ของพันธมิตรของเอ็นทีที ยังให้ประโยชน์แก่ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง จากทักษะและบริการในท้องถิ่นเพื่อตอบสนองความต้องการทั้งในปัจจุบันและอนาคต

ทั้งนี้ ในรายงานดังกล่าวประเมินผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ที่ดำเนินการข้ามชาติ โดย จอห์น ลอมบาร์ด ซีอีโอประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ NTT Ltd. กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการยกย่องให้เป็น ‘ผู้นำ’ ใน IDC MarketScape โดยล่าสุดเศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตขึ้นอย่างมาก และเอ็นทีทีจะยังคงนำเสนอกลยุทธ์ที่แตกต่าง ซึ่งมีรากฐานมาจากนวัตกรรมสำหรับธุรกิจที่เลือกเช่าพื้นที่ฝากเครื่องเซิร์ฟเวอร์งานขององค์กรและศูนย์ข้อมูลที่อยู่ใกล้กับลูกค้า”

ด้วยการเปิดตัวทั่วโลกในกว่า 20 ประเทศ โดยเอ็นทีทีเพิ่งประกาศว่าจะมีการขยายแพลตฟอร์มศูนย์ข้อมูลทั่วโลกพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ในตลาดสำคัญๆ ในประเทศมาเลเซีย, อินโดนีเซีย, อินเดีย, อังกฤษ, แอฟริกาใต้, สเปน, ออสเตรีย, สวิสเซอร์แลนด์, เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา

ลอมบาร์ด กล่าวเพิ่มเติมว่า “มันเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะขยายธุรกิจไปทั่วโลกในช่วงที่เกิดโรคระบาดนี้เนื่องจากเราเห็นความจำเป็นที่จะต้องให้การสนับสนุนลูกค้าของเราในขณะที่พวกเขาเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคซึ่งนำไปสู่ความต้องการบริการคลาวด์ที่ปลอดภัย ความบันเทิงทางดิจิทัล และเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นใหม่”

ริวอิจิ มัตสึโอะ รองประธานกรรมการบริหาร แผนก Global Data Center ของ NTT Ltd. กล่าวว่า ด้วยศูนย์ข้อมูลเทคโนโลยีขั้นสูงของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการบริการเต็มกำลัง (full-stack) และเรากำลังทบทวนแผนการขยายดาต้าเซ็นเตอร์ของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด โดยลูกค้าที่ใช้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ของเอ็นทีที สามารถเข้าถึงโซลูชั่นเทคโนโลยีแบบ full-stack จากทั้งศูนย์ข้อมูล, ระบบเน็ตเวิร์ค, คลาวด์, โครงสร้างพื้นฐานด้านเสียงและวิดีโอ รวมถึงบริการด้านบริหารจัดการ โดยแพลตฟอร์มของดาต้าเซ็นเตอร์ระดับโลกของเอ็นทีที จะเปิดใช้งานโซลูชั่นแบบ end-to-end สำหรับลูกค้าในการสร้างสมดุลของงานไอทีที่สำคัญและในสถานที่สำคัญ ๆ ทั่วโลก