เอ็นทีที เปิดบริการคลาวด์ในประเทศไทยเต็มรูปแบบ
ติดสปีดคลาวด์ระดับองค์กร บนแพลทฟอร์มระดับพรีเมียมที่ได้รับการรับรองจาก SAP พร้อมรองรับการใช้งานระบบ SAP HANA®, ศูนย์บริการข้อมูล และแอพพลิเคชั่นอัจฉริยะด้วยการบริหารจัดการแบบอัตโนมัติ
บริษัท เอ็นทีที จำกัด (NTT Ltd.) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ประกาศพร้อมเปิดให้บริการคลาวด์ในประเทศไทยเพื่อเพิ่มความคล่องตัวและความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการข้อมูลบนคลาวด์ได้อย่างปลอดภัย พร้อมรองรับการทำงานของแอพพลิเคชั่นคลาวด์บนแพลทฟอร์มไฮบริดคลาวด์ได้หลากหลาย (hybrid-multi cloud) และสามารถทำงานร่วมกับผู้ให้บริการคลาวด์ในระดับโลก ด้วยมาตรฐานแพลตฟอร์มบนคลาวด์ของเอ็นทีที ที่ได้รับการรับรองจาก SAP พร้อมตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าองค์กรได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน แพลทฟอร์ม รวมไปถึงแอพพลิเคชั่นอย่าง SAP HANA®
บริการคลาวด์ของ NTT ยังเป็นแพลตฟอร์มสำหรับแอพพลิเคชันในระดับองค์กรที่สำคัญ เช่น ศูนย์บริการข้อมูล (contact centre) และแอพพลิเคชั่นอัจฉริยะในอนาคต เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล, AI และ IoT เป็นต้น
บริการดังกล่าวมาพร้อมกับการบริหารจัดการอัตโนมัติเต็มรูปแบบเพื่อลดความซับซ้อนของการดำเนินงานและเพิ่มความปลอดภัยระดับสูงภายใต้มาตรฐานการควบคุมความปลอดภัยบนคลาวด์ (CSA-STAR) โดย NTT พร้อมให้บริการเต็มรูปแบบเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้งานบนคลาวด์ได้อย่างราบรื่น ด้วยบริการให้คำปรึกษา บริการย้ายข้อมูลบนคลาวด์ (migration service) และการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ในประเทศและจากทั่วโลก
นอกจากนี้บริการคลาวด์ของเรายังผสานการทำงานร่วมกับศูนย์ข้อมูล Thailand Bangkok 2 Data Center หรือ “NexcenterTM” ที่เป็นมาตรฐานบริการและความปลอดภัยของเอ็นทีที และยังได้รับมาตรฐานการจัดการด้านความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล (ISO 27001), มาตรฐานสำหรับศูนย์ข้อมูลเพื่อความปลอดภัยข้อมูลสารสนเทศจากการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ (PCI DSS) และรายงานผลการรับรองเกี่ยวกับการควบคุมการให้บริการในองค์กร (SOC) รวมถึงมาตรฐานการจัดการระบบพลังงานด้วยมาตรฐานสากล Energy Management System หรือ ISO 50001 ในการบริหารจัดการพลังงานภายในศูนย์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายสุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำประเทศไทย กัมพูชา เมียนมาร์ และลาว บริษัท เอ็นทีที จำกัด กล่าวว่า ผู้ประกอบการในปัจจุบันกำลังใช้แอพพลิเคชั่นที่หลากหลายพร้อมกับเก็บข้อมูลจำนวนมากในแพลตฟอร์มต่างๆ การใช้บริการคลาวด์ถือเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้พวกเขาตอบสนองความต้องการในการทำธุรกิจในยุคใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สำหรับการให้บริการคลาวด์ เรามุ่งไปยังองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ทั้งในภาคการเงิน ธนาคาร ภาคอุตสาหกรรม ผู้ให้บริการศูนย์บริการข้อมูล หรือ Contact Centre ธุรกิจที่มีหลายสาขา และภาครัฐที่ต้องการความปลอดภัยในระดับสูง รวมถึงกลุ่มธุรกิจที่ใช้งานบนแพลทฟอร์มของ SAP เป็นหลัก เพื่อต้องการตอบสนองข้อมูลที่รวดเร็ว แม่นยำ มีความปลอดภัยสูง และมีความยืดหยุ่นในทำงาน สามารถเพิ่มจำนวนของแอพพลิเคชั่นบนแพลทฟอร์มที่หลากหลาย และพร้อมรองรับการเพิ่มปริมาณข้อมูลจำนวนมากๆได้
“เราเห็นความต้องการใช้บริการคลาวด์ในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม SAP ซึ่งการใช้งาน SAP บนคลาวด์ในปัจจุบันคิดเป็น 24 เปอร์เซ็นต์ ของการใช้ SAP ทั้งหมดทั่วโลก และมีแนวโน้มความต้องการใช้งานที่คาดว่าจะเติบโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทยเพิ่มขึ้น”
สำหรับในประเทศไทยการให้บริการด้านศูนย์บริการข้อมูล หรือคอนแทคเซ็นเตอร์ จะเป็นบริการที่แสดงให้เห็นถึงความต้องการใช้งานและกระตุ้นการตัดสินใจที่จะย้ายการทำงานแอพพลิเคชั่นไปยังคลาวด์มากขึ้น โดยคาดการณ์ขนาดตลาดรวมของศูนย์บริการข้อมูลจะเพิ่มขึ้นจาก 16.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2559 เป็น 27.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2566 โดยมีอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ 7.4 เปอร์เซ็นต์ โดยเราคาดการณ์ว่ามากกว่า 50% จะย้ายมาใช้บริการคลาวด์ในประเทศไทยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
“แต่ความปลอดภัยถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับลูกค้าองค์กรในการปรับมาใช้คลาวด์ เอ็นทีทีจึงได้พัฒนาบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและขจัดข้อกังวลดังกล่าว ด้วยแพลตฟอร์มบริหารจัดการคลาวด์แบบครบวงจร ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับการให้บริการในระดับองค์กร โดยสามารถสร้างระบบการทำงานแบบส่วนตัวในรูปแบบที่ต้องการได้ รวมไปถึงการจัดการระดับความปลอดภัยขั้นสูงโดยเอ็นทีทีได้มีการคำนึงถึงระบบความปลอดภัยตั้งแต่เริ่มต้นออกแบบ, การบริหารจัดการ ไปจนถึงการเชื่อมโยงข้อมูลที่อยู่บนเครือข่ายคลาวด์อื่นๆ ทำให้การจัดการข้อมูลเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณในการลงทุนสูงในคราวเดียว” นายสุทัศน์ กล่าวสรุป
นอกจากนี้ เอ็นทีที ได้จัดงาน ELEVATE Thailand 2019 เพื่อประกาศความยิ่งใหญ่ด้านไอซีทีและนวัตกรรม โดย นายสุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำประเทศไทย กัมพูชา เมียนมาร์ และลาว บริษัท เอ็นทีที จำกัด ได้ขึ้นเวทีแนะนำภาพรวมเทคโนโลยีและแผนการดำเนินงานในประเทศไทยกับเหล่าพันธมิตรและลูกค้า พร้อมกันนี้ได้จัดโซนแสดงนวัตกรรมอัจฉริยะ NTT Sport Intelligent Corner เช่น นวัตกรรมในการมอนิเตอร์และตรวจสมรรถนะร่างกายของนักปั่นจักรยานที่ใช้ในการแข่งขัน Tour de Franc และ NTT AI Translator Corner สำหรับเปลี่ยนข้อความเสียงเป็นตัวอักษรแบบเรียลไทม์ สำหรับใช้ในการประชุมคอนเฟอร์เรนซ์ รวมทั้งสามารถแปลภาษาเอกสารได้แบบเรียลไทม์ถึง 12 ภาษา เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้จัดห้องสัมมนาด้วยกัน 3 ส่วน ได้แก่ BUSINESS TRACK, TECHNOLOGY TRACK และ CLOUD TRACK เพื่อให้ความรู้กับผู้ที่มาร่วมงานอีกด้วย เมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์