December 16, 2025

คืนความเป็นส่วนตัว ‘RemoveWindowsAI’ เครื่องมือถอด AI ออกจาก Windows 11

ในยุคที่ Microsoft ผลักดันให้ Windows กลายเป็นระบบปฏิบัติการที่มีความอัจฉริยะแบบ Agentic OS ผ่านการอัปเดตใหญ่อย่าง 25H2 ที่ผ่านมา เราได้เห็นการถือกำเนิดของฟีเจอร์ AI จำนวนมากที่ถูกผนวกเข้ามาในทุกอณูของระบบปฏิบัติการ ตั้งแต่ผู้ช่วย Copilot ไปจนถึงฟีเจอร์ Recall ที่คอยบันทึกการใช้งาน

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ผู้ใช้ทุกคนจะยินดีกับการเปลี่ยนแปลงนี้ บางคนอาจมองว่ามันเป็นส่วนเกินที่กินทรัพยากร หรือมีความกังวลด้านความเป็นส่วนตัว ล่าสุดจึงเกิดทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการ “คลีน” เครื่องให้สะอาดหมดจด ด้วยสคริปต์โอเพนซอร์สที่กำลังเป็นที่พูดถึงในวงการไอทีขณะนี้

การทำงานของ RemoveWindowsAI

เครื่องมือที่กำลังเป็นกระแสนี้มีชื่อว่า “RemoveWindowsAI” พัฒนาโดย zoicware และเปิดให้ดาวน์โหลดได้ฟรีผ่าน GitHub โดยสคริปต์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับความยุ่งยากในการไล่ปิดฟีเจอร์ AI ทีละตัว โดยทำหน้าที่กวาดล้างระบบอัจฉริยะที่ผู้ใช้ไม่ต้องการออกไปจาก Windows 11 อย่างเบ็ดเสร็จ

การทำงานของมันครอบคลุมการปิดฟีเจอร์หลักอย่าง Copilot และ Recall ผ่านการแก้ไขค่า Registry Keys หรือซ่อนองค์ประกอบ AI ออกจากหน้า Settings นอกจากนี้ ตัวสคริปต์ยังถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรกับผู้ใช้ทั่วไปด้วยหน้าต่างอินเทอร์เฟซแบบ GUI ที่มีคำอธิบายชัดเจน หรือจะรันผ่าน PowerShell สำหรับผู้ใช้ระดับสูงก็ได้ ความน่าสนใจคือผู้พัฒนาได้ใส่ฟีเจอร์ “Revert Mode” เตรียมไว้ด้วย ทำให้ผู้ใช้สามารถกู้คืนฟีเจอร์ AI ทั้งหมดกลับมาได้ทุกเมื่อหากเปลี่ยนใจในภายหลัง

ขีดความสามารถและข้อจำกัดที่ควรรู้

แม้สคริปต์จะทำงานได้ครอบคลุม แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ผู้ใช้ต้องจัดการด้วยตัวเอง เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคของระบบ โดยฟีเจอร์อย่าง Gaming Copilot, OneDrive AI และ Windows Studio Effects นั้นยังต้องอาศัยการปิดด้วยตนเองตามคำแนะนำที่ระบุไว้ในหน้า GitHub

นอกจากนี้ ทางผู้พัฒนายังเน้นย้ำนโยบายการอัปเดตว่าจะโฟกัสไปที่ Windows เวอร์ชันเสถียร (Stable Channel) เป็นหลัก โดยจะไม่ตามไล่ลบฟีเจอร์ในเวอร์ชันทดสอบ (Insider Builds) เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยเกินไป ทั้งนี้ การใช้สคริปต์ดังกล่าวถือเป็นการมอบอำนาจการตัดสินใจคืนสู่มือผู้ใช้ ให้สามารถเลือกได้เองว่าต้องการให้คอมพิวเตอร์ของตนมีความ “อัจฉริยะ” มากน้อยเพียงใด หรือต้องการเพียงระบบปฏิบัติการที่ทำงานพื้นฐานได้อย่างรวดเร็วและปราศจากการรบกวน

ความเสี่ยงที่ผู้ใช้ต้องระวัง

ถึงแม้สคริปต์นี้จะดูเป็นฮีโร่ขี่ม้าขาวสำหรับคนรัก Privacy แต่การเข้าไปยุ่งกับ Registry และไฟล์ระบบลึกๆ ของ Windows มีความเสี่ยงเสมอครับ เพราะการลบส่วนประกอบบางอย่างอาจทำให้ฟีเจอร์อื่นๆ ของ Windows ทำงานผิดปกติ หรือระบบอาจไม่เสถียรในอนาคต

ดังนั้นจึงควร Backup ข้อมูลสำคัญ และสร้าง System Restore Point ไว้ก่อนรันสคริปต์ทุกครั้ง และควรใช้ด้วยความระมัดระวัง

ที่มา