August 25, 2025

Software Engineer ของ Coinbase ถูกไล่ออก หลังไม่ยอมใช้ AI ในการทำงาน

เกิดดราม่าใหญ่ในวงการเทคโนโลยีเมื่อ Brian Armstrong ซีอีโอของ Coinbase แพลตฟอร์มคริปโตชื่อดัง ออกมาเปิดเผยว่าเขาได้ตัดสินใจ ปลดพนักงาน Software Engineer (วิศวกรซอฟต์แวร์) บางส่วนที่ปฏิเสธการใช้งาน AI แม้ว่าบริษัทจะลงทุนจัดหาเครื่องมืออย่าง GitHub Copilot และ Cursor ในระดับองค์กรให้ใช้งานแล้วก็ตาม

เรื่องนี้ถูกเปิดเผยในพอดแคสต์ Cheeky Pint ของ John Collison ประธาน Stripe ซึ่ง Armstrong ได้เล่าว่า การผลักดันให้ Software Engineer ใช้ AI กลายเป็นปัญหาใหญ่ในองค์กร เนื่องจากบางคนแสดงความลังเล โดยมองว่ากระบวนการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้งาน AI อาจใช้เวลาหลายเดือนกว่าครึ่งหนึ่งของทีมจะยอมรับ

Armstrong มองว่านี่เป็นแนวคิดที่ช้าเกินไป และอาจทำให้บริษัทเสียโอกาสในการแข่งขัน เขาจึงประกาศผ่าน Slack ของบริษัทว่า พนักงานทุกคนต้องใช้ AI ภายในหนึ่งสัปดาห์ แม้ยังไม่จำเป็นต้องใช้งานทุกวัน แต่ต้องแสดงให้เห็นว่าพร้อมเริ่มต้นใช้งาน โดยมีการนัดประชุมพิเศษในวันเสาร์กับคนที่ยังไม่ปฏิบัติตามเพื่อรับฟังเหตุผล

ผลการประชุมพบว่ามี Software Engineer บางคนมีเหตุผลสมควร เช่น เพิ่งกลับจากวันหยุด แต่ก็มีบางคนที่ ไม่ตอบสนองใด ๆ เลย ซึ่ง Armstrong ยืนยันว่าเขา “ตัดสินใจให้พ้นจากตำแหน่งทันที” แม้ยอมรับว่านี่เป็นการกระทำที่ “แรงไป” และสร้างความไม่เห็นด้วยในบางฝ่าย แต่เขาเชื่อว่ามันส่งสารได้ชัดเจนว่า AI ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งจำเป็น

ผลจากนโยบายนี้ทำให้ปัจจุบันประมาณหนึ่งในสามของโค้ดที่ถูกผลิตขึ้นภายใน Coinbase มาจาก AI และบริษัทตั้งเป้าว่าจะเพิ่มเป็นครึ่งหนึ่งภายในสิ้นไตรมาสนี้ เพื่อกระตุ้นให้การใช้งาน AI เป็นวัฒนธรรมองค์กร บริษัทได้จัดกิจกรรมที่เรียกว่า “AI Speed Runs” ทุกเดือน เพื่อให้ทีมงาน Software Engineer ที่มีแนวทางการใช้ AI อย่างสร้างสรรค์มาแบ่งปันกับเพื่อนร่วมงาน

Armstrong ยังย้ำว่าบริษัทไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยให้ AI ทำงานโดยอัตโนมัติทั้งหมด แต่ต้องทำงานควบคู่กับการตรวจสอบของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบที่เกี่ยวข้องกับการเงินและความปลอดภัย

แนวโน้มการใช้ AI ในวงการเทคโนโลยี

แนวทางนี้ของ Coinbase สะท้อนภาพที่ใหญ่กว่าของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี หลายบริษัทเริ่มเดินหน้าในทิศทางเดียวกัน เช่น Duolingo ที่วัดประสิทธิภาพนักพัฒนาจากการใช้งาน AI ขณะที่ Microsoft และ Yahoo Japan ก็เร่งผลักดันการใช้งาน AI ให้เป็นมาตรฐานการทำงาน

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจสร้างความท้าทายต่อวัฒนธรรมองค์กร บางฝ่ายกังวลว่าการบังคับใช้ AI อย่างเข้มงวดจะสร้างแรงกดดันเกินไป และอาจทำให้บุคลากรที่มีความสามารถเลือกเดินออกจากบริษัท

อย่างไรก็ตาม Armstrong ยืนยันว่าอนาคตของการทำงานคือการร่วมมือระหว่างมนุษย์กับ AI แม้ AI จะสามารถเพิ่มความเร็วในการเขียนโค้ดและลดงานซ้ำซ้อน แต่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายและความถูกต้องยังคงต้องพึ่งมนุษย์ การเดินเกมครั้งนี้แม้จะถูกวิจารณ์ว่าเข้มงวดเกินไป แต่ก็สะท้อนถึงความจริงที่ว่าในยุคดิจิทัลที่การแข่งขันสูง AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือเสริมอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นกฎใหม่ที่องค์กรระดับโลกต้องยอมรับ

ที่มา