November 24, 2024

ซิสโก้เปิดตัวนวัตกรรมที่กำหนดมาตรฐานในวงการอุตสาหกรรม (Industry-defining Innovations) สำหรับโลกที่เชื่อมต่ออย่างปลอดภัยมากขึ้น และครอบคลุมอย่างทั่วถึง ที่งาน Cisco Live US 2023

วันนี้ ซิสโก้ (CSCO) ผู้นำด้านระบบเครือข่ายและความปลอดภัยระดับองค์กรได้เปิดตัวเทคโนโลยีและความก้าวหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของระบบเครือข่าย ระบบรักษาความปลอดภัย และแอปพลิเคชัน  พร้อมกันนี้ ซิสโก้ได้เผยวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการนำเสนอประสบการณ์แบบครบวงจรที่เรียบง่ายมากขึ้นสำหรับลูกค้าและคู่ค้า โดยครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของซิสโก้

ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นนับเป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญของอนาคตเกือบทุกองค์กร และด้วยเหตุนี้ เครือข่ายที่ปลอดภัยจึงมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นสำหรับองค์กรยุคใหม่  ผู้บริหารของซิสโก้ รวมถึง ชัค ร็อบบินส์ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอของซิสโก้ ขึ้นกล่าวบรรยายบนเวทีในงานเพื่อบอกเล่าเกี่ยวกับโซลูชั่นใหม่ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นและความปลอดภัยให้แก่คู่ค้าและลูกค้า เพื่อให้สามารถรับมือกับอนาคตที่มีวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว

ชัค ร็อบบินส์ ประธานกรรมการและซีอีโอของซิสโก้ กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่จะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับนวัตกรรมที่ก้าวล้ำ และความสามารถใหม่ๆ ของพอร์ตโฟลิโอของซิสโก้ให้กับลูกค้าของเราที่งาน Cisco Live เราเชื่อว่ามีโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่รอเราอยู่ในอนาคตเพราะเราได้ช่วยลูกค้าแก้ปัญหาและจัดการความท้าทายทางธุรกิจที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย การเชื่อมต่อ แอปพลิเคชัน หรือความยั่งยืน ซิสโก้คือพันธมิตรที่มีความพร้อมในการช่วยให้ลูกค้าทรานส์ฟอร์ม และนำไปใช้ พวกเราพร้อมที่จะนำเสนอทุกสิ่งที่ทีมงานร่วมกันพัฒนา ตลอดจนวิสัยทัศน์ของพอร์ตโฟลิโอของซิสโก้ เพราะเราทำทุกอย่างให้ง่ายขึ้น ครอบคลุมมากขึ้น และยั่งยืนมากกว่าเดิม”

วิช ไอเยอร์ รองประธานฝ่ายสถาปัตยกรรมของซิสโก้ ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ญี่ปุ่น และจีนแผ่นดินใหญ่ กล่าวว่า “สภาพแวดล้อมดิจิทัลในปัจจุบันมีการทรานส์ฟอร์มอย่างต่อเนื่อง และรวดเร็ว องค์กรธุรกิจต่างๆ จึงต้องการโซลูชั่นแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่ง เป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีความยืดหยุ่นและปลอดภัย เพื่อให้งานเหล่านี้เป็นไปอย่างราบรื่น ผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอที และนักพัฒนาได้ให้ความสำคัญถึงวิธีที่ง่ายและรวมศูนย์ในการจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่กำลังขยายตัวและพัฒนาอย่างรวดเร็ว เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้นำเสนอเทคโนโลยีใหม่และความก้าวหน้าของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้แก่ลูกค้าและคู่ค้าของเราในภูมิภาคนี้ และช่วยให้พวกเขาเติบโตบนเส้นทางดิจิทัลด้วยประสบการณ์ที่ครบวงจรในรูปแบบใหม่เพื่อรับมือกับความท้าทาย และความซับซ้อนต่างๆ ได้มากขึ้น”

นวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ของซิสโก้เพื่อรับมือกับความท้าทายที่สำคัญของลูกค้า

รายงาน State of Global Innovation ของซิสโก้ พบว่า 85% ของบุคลากรฝ่ายไอทีให้ความสำคัญกับความเรียบง่ายของระบบไอทีในองค์กร  เทคโนโลยีใหม่ที่เปิดตัวที่งาน Cisco Live ปีนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของซิสโก้ในการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานให้ง่ายขึ้น และช่วยขับเคลื่อนอนาคตของทุกคน  โดยเทคโนโลยีที่เปิดตัวในวันนี้ได้แก่:

วิสัยทัศน์สำหรับ Cisco Networking Cloud

ซิสโก้มุ่งมั่นที่จะลดความยุ่งยากซับซ้อนของระบบไอที โดยบริษัทฯ ได้ประกาศวิสัยทัศน์สำหรับ Cisco Networking Cloud ซึ่งเป็นประสบการณ์ด้านแพลตฟอร์มการจัดการแบบบูรณาการสำหรับโมเดลการจัดการคลาวด์ทั้งภายในและภายนอกองค์กร

ประสบการณ์ด้านไอทีที่เรียบง่ายจะส่งผลดีต่อการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า การดึงดูดพนักงาน และการสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่ง  ซิสโก้ตระหนักถึงปัญหาเรื่องระบบที่แยกเป็นส่วนๆ ไม่ต่อเนื่องกัน ขาดการตรวจสอบอย่างทั่วถึง ปัญหาภัยคุกคามด้านความปลอดภัย และการบูรณาการระบบที่ยุ่งยาก ต้องใช้เวลานาน ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่า  นอกจากนี้ ซิสโก้ยังเข้าใจดีว่าการพัฒนาไปสู่ความเรียบง่ายขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น เป้าหมายทางธุรกิจของผู้ให้บริการแต่ละราย ความจำเป็นด้านฟังก์ชั่นการทำงาน และรูปแบบการใช้งานที่ลูกค้าต้องการ  ไม่ว่ากรณีการใช้งานนั้นๆ จะต้องอาศัยระบบที่ติดตั้งภายในองค์กร ระบบที่รองรับคลาวด์ หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้อง ซิสโก้ก็พร้อมตอบสนองทุกความต้องการด้านไอทีในทุกๆ ที่

ภายใต้แผนการพัฒนาสู่ความเรียบง่าย ซิสโก้ได้ทำงานอย่างจริงจังเพื่อสร้างประสบการณ์ด้านแพลตฟอร์มการจัดการเครือข่ายที่ง่ายขึ้น เพื่อช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงได้โดยง่าย และใช้หลายๆ แพล็ตฟอร์มในการจัดการผลิตภัณฑ์เครือข่ายของซิสโก้ทั้งหมดจากที่เดียว  Cisco Networking Cloud นำเสนอระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วยคลาวด์ ข้อมูลเชิงลึกที่หลากหลายเกี่ยวกับเครือข่าย และนวัตกรรมผ่านอีโคซิสเต็มส์ของพันธมิตร ซึ่งจะช่วยเร่งการส่งมอบประสบการณ์ที่เป็นหนึ่งเดียว และขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจที่สามารถวัดผลได้

นวัตกรรมที่นำเสนอในงาน Cisco Live ประกอบด้วยอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่มีการเข้าถึงแบบ Single Sign-On (SSO), API Key Exchange/Repository, การทำ navigation ข้ามแพลตฟอร์ม, การรับรองเครือข่ายที่กว้างมากขึ้นด้วย Cisco ThousandEyes, การตรวจสอบระบบคลาวด์สำหรับอุปกรณ์ Catalyst, โซลูชั่นเครือข่ายพลังงานที่ยั่งยืนสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ และอื่นๆ

นอกจากนี้ ซิสโก้ยังลดความซับซ้อนของธุรกิจเพื่อให้ลูกค้าทำงานได้ง่ายขึ้น ด้วยสแต็กสวิตช์ Cisco Catalyst ที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ช่วยปรับปรุงการตรวจสอบประสิทธิภาพและการใช้พลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์ และยังมี blueprint ใหม่สำหรับ AI ดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและความสามารถในการตรวจสอบสำหรับผู้ให้บริการเครือข่าย

นวัตกรรม Security Cloud ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ซิสโก้ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาในการนำเสนอ Cisco Security Cloud ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อลดความยุ่งยากซับซ้อนของการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และช่วยให้ผู้คนสามารถทำงานได้ดีที่สุดจากทุกที่ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ภัยคุกคามที่มีความก้าวหน้ามากขึ้น

การเปิดตัว Cisco Secure Access ซึ่งเป็นโซลูชั่น Secure Service Edge (SSE) ใหม่ล่าสุด เพื่อช่วยประสบการณ์การทำงานแบบไฮบริดที่เหนือกว่า และทำให้การเข้าถึงสามารถทำได้จากทุกที่ ทุกอุปกรณ์ และทุกแอปพลิเคชันง่ายขึ้นอย่างมาก

จุดเด่นของ Cisco Secure Access ได้แก่:

  • Common Access Experience: มอบวิธีการที่ง่ายในการเข้าถึงแอปพลิเคชันและทรัพยากรทั้งหมด (ไม่ใช่เพียงบางส่วน) โดยควบคุมการรับส่งข้อมูลอย่างชาญฉลาดและปลอดภัยไปยังปลายทางส่วนตัวและสาธารณะโดยไม่มีการแทรกแซงของผู้ใช้งานปลายทาง
  • Single, Cloud-Managed Consoleลดความซับซ้อนของการดำเนินงานด้านความปลอดภัยโดยการรวมฟังก์ชันต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันในโซลูชันเดียวที่ใช้งานง่ายซึ่งป้องกันการรับส่งข้อมูลทั้งหมด โดยแทนที่จะต้องจัดการชุดเครื่องมือจำนวนมาก ผู้ดูแลระบบและนักวิเคราะห์สามารถไปที่เดียวเพื่อดูการรับส่งข้อมูลทั้งหมด กำหนดนโยบายทั้งหมด และวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย สิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพ การลดต้นทุน และสภาพแวดล้อมด้านไอทีที่ยืดหยุ่น
  • การตรวจจับและการตอบสนองที่รวดเร็ว: จัดให้มีการวิเคราะห์เพื่อเร่งความเร็วในการสืบสวน และได้รับการสนับสนุนจาก ซิสโก้ ทาลอส (Cisco Talos) เครือข่ายข่าวกรองภัยคุกคามเชิงพาณิชย์ที่มีฐานข้อมูลใหญ่ที่สุดด้วยระบบ Threat Intelligence ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อตรวจจับและบล็อกภัยคุกคามเพิ่มเติม

ในส่วนของวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ ซิสโก้ยังได้สาธิตความสามารถของ Generative AI ของ Cisco Security Cloud ซึ่งจะช่วยให้นักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยสามารถตรวจจับ และแก้ไขภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งจัดการนโยบายในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยอย่างเหมาะสม 

ซิสโก้บรรลุความก้าวหน้าในการพัฒนาแพลตฟอร์ม Security Cloud ด้วยการเปิดตัว Cisco Multicloud Defense, อุปกรณ์ Cisco Secure Firewall 4200 Series และซอฟต์แวร์ 7.4 รวมถึงการปรับปรุงความปลอดภัยของแอปพลิเคชันคลาวด์เนทีฟในพาโนปติกา (Panoptica)  นวัตกรรมล่าสุดของซิสโก้ทั้งหมดจะช่วยปกป้องโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮบริดและมัลติคลาวด์ พร้อมทั้งมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้แก่ผู้ใช้งาน

เปิดตัว Cisco Full-Stack Observability Platform เพื่อขับเคลื่อนองค์กรดิจิทัลที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น

ซิสโก้เปิดตัว Full Stack Observability (FSO) Platform โซลูชั่นที่สามารถใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีของทุกบริษัท ทำหน้าที่ควบคุมผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของซิสโก้ และถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในการเร่งปรับใช้กลยุทธ์ FSO ของซิสโก้ ด้วยการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกตามบริบทที่สัมพันธ์กัน และคาดการณ์ได้ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและเพิ่มประสบการณ์ที่ดี ในขณะเดียวกันก็ลดความเสี่ยงทางธุรกิจให้น้อยที่สุด 

โซลูชั่นระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมนี้จะช่วยให้เกิดอีโคซิสเต็มส์สำหรับการตรวจสอบ ซึ่งนำเอาข้อมูลมาจากหลายส่วนเข้าด้วยกัน รวมถึง แอปพลิเคชัน เครือข่าย โครงสร้างพื้นฐาน การรักษาความปลอดภัย คลาวด์ ความยั่งยืน และข้อมูลธุรกิจ

FSO Platform ของซิสโก้มุ่งเน้นไปที่ OpenTelemetry และยึดอยู่กับ Metrics, Events, Logs และ Traces (MELT) ช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล MELT ที่สร้างจากแหล่งที่มาต่างๆ ได้อย่างราบรื่น  Cisco FSO Platform ได้รับการออกแบบให้เป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจรที่รองรับการต่อขยาย ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างโซลูชั่น observability ได้ด้วยตนเอง และเพิ่มศักยภาพให้กับอีโคซิสเต็มส์ของลูกค้าและคู่ค้า

โซลูชั่นชั้นนำที่นำเสนอบน Cisco FSO Platform คือ Cloud Native Application Observability ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าบรรลุผลลัพธ์ทางธุรกิจ ตัดสินใจเกี่ยวกับประสบการณ์ดิจิทัลได้อย่างถูกต้อง ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานให้สอดคล้องกับความคาดหวังของผู้ใช้ จัดลำดับความสำคัญและลดความเสี่ยง พร้อมทั้งปกป้องเวิร์กโหลดให้ปลอดภัย  นอกเหนือไปจาก Cloud Native Application Observability แล้ว โมดูลชุดแรกบน FSO Platform ของซิสโก้ประกอบไปด้วย Cost Insights, Application Resource Optimizer, Security Insights และ Cisco AIOps

ซิสโก้ร่วมมือกับพันธมิตรหลายราย รวมถึง CloudFabrix, Evolutio และ Kanari เพื่อพัฒนาและสร้างรายได้จากอีโคซิสเต็มส์ของโซลูชั่นที่หลากหลายสำหรับ Cisco FSO Platform ที่รองรับการใช้งานรูปแบบใหม่ๆ ที่มีประโยชน์ และสร้างมูลค่าให้แก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วด้วยระบบ Telemetry ที่สามารถตรวจสอบได้