November 24, 2024

การมอนิเตอร์ระบบเครือข่ายแบบองค์รวม เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับระบบไอทีในภาคอุตสาหกรรม

การปฏิวัติอุตสาหกรรมทุกครั้งมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงด้านการเรียนรู้ครั้งใหญ่ การก้าวสู่ระบบดิจิทัล (ดิจิไทเซชัน) ได้พลิกโฉมหน้าโลกใบนี้ในแบบที่ผู้คนเมื่อ 2-3 ทศวรรษก่อนยากที่จะจินตนาการถึง ตอนนี้กลายเป็นว่าคุณสามารถใช้สมาร์ตโฟนเพื่อเรียกแท็กซี่ให้พาไปยังร้านอาหารที่ดีที่สุดในเมืองหรือสั่งสินค้าให้มาส่งที่บ้านในวันพรุ่งนี้ได้ทันที ตลอดจนตัวอย่างอีกมากมายนับไม่ถ้วน

ทั้งหมดเกิดขึ้นได้เพราะเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ซึ่งก็เป็นสิ่งเดียวกับที่ก่อให้เกิดการปฏิรูปในวงการอื่นๆ อาทิ อุตสาหกรรมการผลิต ระบบอัตโนมัติ และพลังงาน โดยทั้งหมดมีส่วนร่วมอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือ ข้อมูล

ข้อมูลคือสิ่งสำคัญในยุคแห่งการผสานรวมของโลก IT/OT

ทุกวันนี้ข้อมูลกลายเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการปรับปรุงธุรกิจให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ดียิ่งขึ้น ช่วยพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ตามข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึกที่ได้รับ คำหนึ่งที่พูดถึงกันบ่อยก็คือ อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งมีเป้าหมายสูงสุดในการปรับปรุงห่วงโซ่คุณค่าของผลิตภัณฑ์ทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การพัฒนา การผลิต การใช้งาน การบำรุงรักษา ไปจนถึงการรีไซเคิล ซึ่งทั้งหมดอาศัยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและการเชื่อมโยงระหว่างกันแบบอัจฉริยะทั้งมนุษย์ เครื่องจักร โรงงาน และผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย

โครงสร้างระบบดิจิทัล เช่น ระบบโฮสติงบนคลาวด์ เครือข่ายภายในสำหรับภาคการผลิต หรือหน้าเว็บที่เป็นร้านค้า ทั้งหมดเป็นองค์ประกอบทางเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับบริษัทที่ต้องการก้าวเดินสู่อนาคต กล่าวได้ว่าการผสานรวมของโลก IT/OT (เทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีเชิงปฏิบัติการ) อุตสาหกรรม 4.0 และการก้าวสู่ระบบดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น ล้วนมีบทบาทในการพลิกโฉมหน้าการเชื่อมต่อและการปฏิสัมพันธ์กันระหว่างพื้นที่ผลิตและระบบ IT ของบริษัท ความสัมพันธ์ที่เชื่อมต่อถึงกันดังกล่าวทำให้การเห็นภาพรวมโครงสร้างระบบทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก อาทิ อุปกรณ์ควบคุมการทำงานที่ตั้งโปรแกรมได้ คอมพิวเตอร์ภาคอุตสาหกรรม เกตเวย์อัจฉริยะภาคอุตสาหกรรม เทคโนโลยีด้านเซนเซอร์ หรือแม้แต่องค์ประกอบโครงสร้างระบบไอทีดั้งเดิม เช่น สวิตช์เครือข่าย เราเตอร์ และอุปกรณ์ไร้สาย ซึ่งการมอนิเตอร์ส่วนประกอบทั้งหมดจำเป็นต้องใช้โซลูชันที่บูรณาการเข้าด้วยกันซึ่งผสานรวมโลก OT และ IT เอาไว้ภายใต้มุมมองเพียงหนึ่งเดียว

ทำไมการมอนิเตอร์ระบบแบบองค์รวมจึงจำเป็นต่อระบบ IT ภาคอุตสาหกรรม

จากข้อมูลของ MarketandMarkets พบว่า ตลาดของโซลูชันการมอนิเตอร์ระบบเครือข่ายมีโอกาสเติบโตจาก 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 ไปแตะระดับ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2570 ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตต่อปีทบต้น (CAGR) ที่ 6.9% ตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2570 ซึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้น จำนวนบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางที่เพิ่มขึ้นจะช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตของตลาดการมอนิเตอร์ระบบเครือข่ายในช่วงระยะเวลาที่คาดการณ์ดังกล่าว

พื้นที่ผลิตยุคใหม่ในวันนี้อาศัยการเชื่อมต่อเครือข่ายเพื่อให้ระบบทุกส่วนสามารถรับมือกับคำสั่งซื้อที่ผันแปรได้ในแบบเรียลไทม์ การมอนิเตอร์ระบบ IT ทำให้ผู้ใช้มองเห็นทุกแง่มุมในระบบ ตั้งแต่หน้าร้านบนเว็บไปจนถึงสถานะของ PLC (อุปกรณ์ควบคุมการทำงานที่ตั้งโปรแกรมได้) ในพื้นที่ผลิต การจัดกระแสข้อมูลเข้าด้วยกันทำให้ได้มุมมองหนึ่งเดียวที่ใช้ในการเก็บรวบรวม วิเคราะห์ และให้ข้อมูลเชิงลึก การวิเคราะห์ต้นตอของปัญหาจะทำให้คุณเข้าใจสาเหตุหลักเพื่อจะได้ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำ ซึ่งการมอนิเตอร์ระบบตามจุดต่างๆ ระหว่าง OT และ IT ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญไหลไปยังระบบส่วนถัดไปโดยไม่มีปัญหา อีกทั้งการมอบข้อมูลที่เหมาะสมแก่ทีมงานจะทำให้ได้มุมมองโครงสร้างระบบที่ต่างกันออกไปจากข้อมูลหลักชุดเดียวกัน

ทีมงานที่เคยต่างคนต่างทำงานก็จะพึ่งพากันได้ขึ้น เช่น ทีม IT คอยดูแลให้ข้อมูลจากเครื่องจักรในพื้นที่ผลิตถูกส่งไปยังคลาวด์ ขณะที่วิศวกรภาคอุตสาหกรรมหรือผู้จัดการต้องการเข้าถึงข้อมูลที่ช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับสายการผลิต ดังนั้นสิ่งสำคัญก็คือการมอนิเตอร์ว่าข้อมูลถูกส่งไปในทิศทางที่ถูกต้องผ่านอินเตอร์เฟซและจุดเชื่อมต่อต่างๆ ในโครงสร้างระบบทั่วทั้งเครือข่าย OT และ IT

การลดดาวน์ไทม์และการใช้พลังงานถือเป็นหัวใจสำคัญในการเพิ่มศักยภาพ ประสิทธิภาพ ผลการผลิต และรายได้ ดังนั้นการมองเห็นระบบหรืออุปกรณ์อย่างปรุโปร่งว่าส่วนใดมีปัญหาจึงเป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดในการรับมือกับปัญหาดาวน์ไทม์ การมอนิเตอร์ระบบช่วยป้องกันดาวน์ไทม์ได้ก่อนที่จะเกิดขึ้นจริง และทำให้คุณเข้าใจอย่างชัดแจ้งถึงสาเหตุแห่งปัญหาโดยอาศัยการวิเคราะห์รูปแบบปัญหาและใช้คาดการณ์สิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เรียกว่าไม่เพียงแค่บอกถึงจุดที่เกิดปัญหาในโครงสร้างระบบ แต่ยังทำให้คุณสามารถวิเคราะห์ข้อมูลในช่วงระยะเวลาที่กำหนดเพื่อคาดการณ์อนาคตได้อีกด้วย

การทราบว่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ของคุณใช้พลังงานมากเท่าใดถือเป็นปัจจัยสำคัญในการลดปริมาณการใช้พลังงาน เมื่อเรามอนิเตอร์ข้อมูลการใช้พลังงาน ไม่ว่าจะตรวจวัดโดยตรงจากเครื่องจักรผ่านระบบตรวจวัดพลังงานภายใน หรือเป็นการวัดผ่านมิเตอร์ไฟฟ้าก็ตาม ทั้งหมดล้วนรวบรวมข้อมูลการใช้พลังงานจากหลายแหล่งเอาไว้ภายใต้เครื่องมือเดียวกัน ทำให้เครื่องมือดังกล่าวสามารถวิเคราะห์และสืบเสาะโอกาสในการลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความปลอดภัย – องค์ประกอบที่เป็นหัวใจสำคัญ

ความปลอดภัยของโครงสร้างระบบที่สำคัญ อาทิ ระบบในโรงงานผลิต ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมากเนื่องจากภัยคุกคามบนโลกไซเบอร์มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านความซับซ้อนและโอกาสในการเกิดปัญหา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมอนิเตอร์ระบบอย่างต่อเนื่องเพื่อค้นหาช่องโหว่ ปริมาณการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้นผิดปกติ หรือกิจกรรมที่น่าสงสัย ซึ่งโซลูชันการมอนิเตอร์ระบบได้อาศัยเทคนิคหลายอย่าง อาทิ ระบบป้องกันการบุกรุก ที่จะคอยติดตามปริมาณข้อมูลที่รับส่งในเครือข่ายตลอดจนวัตถุประสงค์ของข้อมูลเหล่านั้น 

โดยสรุปแล้วขณะที่ภาคการผลิตต้องเดินหน้าต่อไปในยุคที่หลายอย่างโดนปฏิวัติใหม่ด้วยเทคโนโลยี องค์กรและประเทศต่างๆ ก็จำเป็นต้องเฝ้าระวังหัวใจสำคัญของตนเองให้ใกล้ชิด ซึ่งการมอนิเตอร์ระบบเครือข่ายถือเป็นแนวทางที่สำคัญที่จะช่วยปิดช่องว่างระหว่างพื้นที่ผลิตในส่วนต่างๆ และขับเคลื่อนให้องค์กรของคุณเดินหน้าสู่อนาคตได้อย่างมั่นคง 

โดยเซบาสเตียน ครูเกอร์ รองประธานประจำเอเชียแปซิฟิกของ Paessler