ฟีเจอร์ดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณได้รู้ว่า มีใครแอบมาส่อง Facebook ของคุณอยู่!!

แน่นอนใครๆ ก็อยากรู้ว่าคนไหนมาเปิดดูหน้าเฟซของเรา ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลส่วนตัวที่ว่าไว้ข้างต้น หรือเพื่อป้องกันอันตรายจากผู้ไม่หวังดี ซึ่งเหตุผลหลังนั้นสอดคล้องกับนโยบายการควบคุมความเป็นส่วนตัวของเฟซบุ๊ก ทำให้ล่าสุดคลอดฟีเจอร์ใหม่ที่เอารายชื่อสตอร์กเกอร์มาแผ่หราให้คุณดูกันแล้ว

ฟีเจอร์ใหม่นี้กำลังทยอยออกมาทางฝั่งอเมริกาก่อน ใครที่ยังไม่เห็นเมนูนี่ก็ใจเย็นๆ ที่มาคาดว่ามาจากคดีฮอตที่เฟซบุ๊กโดนไปหนักมากอย่าง Cambridge Analytica รวมทั้งกรณีจารกรรมข้อมูลอื่นๆ ที่สร้างความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน จนสุดท้ายต้องยอมอนุญาตให้ผู้ใช้เรียกดูรายชื่อคนที่เข้าเยี่ยมชมหน้าโปรไฟล์เช่นนี้ ส่วนจะทำอย่างไรนั้น มาดูกัน!

วิธีดูว่าใครเข้ามาส่องโปรไฟล์เฟซบุ๊กผ่านมือถือ

คุณกำลังใช้ iOS อย่าง iPhone หรือ iPad ไหม ถ้าใช้ลองทำตามวิธีนี้ดูว่าแอพเฟซของคุณอัพเดทฟีเจอร์ใหม่นี้หรือยัง:
• ล็อกอินเข้าบัญชีเฟซบุ๊กของคุณ
• คลิกปุ่มสามขีดตรงมุมล่างขวา
• ลงมาเลือก Privacy Shortcuts
• แล้วเลือก “Who viewed my profile” (ตามภาพด้านล่าง)

ถ้าคุณยังไม่ใช่ผู้โชคดีที่ได้รับเลือกให้ใช้ฟีเจอร์เด็ดดวงงนี้ก่อน ก็คงต้องหันไปพึ่งแอพตัวช่วยเดิมๆ อย่าง “Social Fans” ที่เปิดให้คุณส่องคนแอพส่องโปรไฟล์เฟซบุ๊กได้เหมือนกัน

โดยสามารถติดตั้งแอพดังกล่าวจาก iTunes บนอุปกรณ์ iOS ทุกเครื่อง จากนั้นลองทำตามวิธีข้างต้นอีกที (แต่ข่าวไม่ค่อยดีคือเหมือนแอพนี้ไม่เปิดให้โหลดสำหรับคนไทย ><)

แล้วสำหรับคนใช้เฟซบุ๊กบนแอนดรอยด์ล่ะ?

เสียดายจุง! ฟีเจอร์นี้แม้แต่โซนที่อัพเดทก่อนใครเพื่อนก็ยังออกมาเฉพาะในแอพบน iOS เพราะฉะนั้น รอต่อไป (เหมือนพวกเรา)

แต่ก็มีทางอ้อมๆ ด้วยการติดตั้งและลิงค์แอพข้างนอกเข้ากับบัญชีเฟซบุ๊กเพื่อดูว่าใครมาส่องโปรไฟล์เราได้เหมือนกัน มีแอพทำนองนี้อยู่หลายตัวให้โหลดจาก Google Play Store

โดยแอพที่หลายคนบอกว่าได้ผลได้แก่ Who Viewed My Profile เป็นแอพที่ช่วยให้คุณรู้ว่าใครมาเปิดหน้าโปรไฟล์เฟซ รวมไปถึงแอพโซเชียลอื่นๆ ของเราด้วย

อย่างไรก็ตามก็ไม่มีอะไรการันตีว่าใช้ได้ผลจริง มองง่ายๆ ถ้าเฟซบุ๊กเองไม่เคยใส่ฟีเจอร์บนแอนดรอยด์ให้เช็คคนส่องเฟซมาก่อน แล้วคิดว่าแอพอื่นจะทำได้เก่งกว่าเฟซเชียวหรือ? แต่อย่าเพิ่งถอดใจไป ยังมีอีกหลายเทคนิคที่จะกล่าวต่อข้างล่าง

แล้วบนเดสก์ท็อปจะดูข้อมูลคนส่องเฟซได้ไหม?

จุดที่ต่างจากวิธีบนมือถือคือ การหาข้อมูลคนเข้าชมหน้าโปรไฟล์เฟซบุ๊กบนคอมพิวเตอร์นั้นค่อนข้างใช้เวลาพอสมควร โดยมีวิธีที่ค่อนข้างใช้ได้ผลบ้างดังต่อไปนี้
• เปิดหน้าไทม์ไลน์เฟซบุ๊กของคุณผ่านบราวเซอร์บนเครื่อง
• เมื่อหน้าเว็บโหลดแล้ว คลิกขวาตรงไหนบนหน้าก็ได้
• แล้วเลือก View page source (หรือลองกดปุ่ม CTRL+U เพื่อเปิดแท๊บใหม่ที่เป็นซอร์สโค้ดขึ้นมา
• จากนั้นกดปุ่ม CTRL+F เพื่อเปิดกล่องค้นหาบนแท๊บใหม่นี้ที่มีโค้ด HTML ของหน้าโปรไฟล์ (ถ้าเป็นบนแมคให้กดปุ่ม Command + F) ตามภาพด้านล่าง
• จากนั้นค้นหาด้วยคำว่า BUDDY_ID
• ทีนี้คุณจะเห็นไอดีหน้าโปรไฟล์คนอื่นอยู่ข้างๆ ค่า BUDDY_ID ที่เชื่อว่าเป็นคนที่เข้ามาส่องเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นตัวเลขประมาณ 15 หลัก
• ก็อปปี้ไอดีดังกล่าวไว้
• จากนั้นเปิดบราวเซอร์อีกหน้า ไปที่ facebook.com/วางเลขไอดีโปรไฟล์ที่ก็อปมา แล้วกด Enter
• ทีนี้ก็จะเห็นหน้าโปรไฟล์ของคนที่เชื่อว่าเข้ามาส่องเฟซเรา
• ต้องล็อกอินเฟซตัวเองอยู่ตลอดเวลาก็อปวางๆ เช็คแต่ละคน (เหนื่อยมาก นี่มีตั้ง 50 กว่าคน 55)

เครดิตรายละเอียดเพิ่มเติมจากยูทูปนี้:

มีเอ็กซ์เทนชั่นบนบราวเซอร์สำหรับเรียกดูคนแอบส่องเฟซเราไหม?

(เคย)มี! สำหรับผู้ใช้ Google Chrome โดยเฉพาะ

คนใช้ Chrome จะง่ายเพราะมีเอ็กซ์เทนชั่นให้โหลดเลือกใช้หลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะตัวที่สามารถส่องดูคนส่องเฟซที่เราต้องการได้ง่ายๆ (แม้ตอนนี้อาจจะไม่ใช่ตัวที่ชื่อ Social profile ในวิธีข้างล่างที่น่าจะโดนแบนออกไปแล้วก็ตาม)

• เสิร์ชหาเอ็กซ์เทนชั่นอย่างตัว Social profile
• คลิกปุ่ม “add to chrome”
• เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้วให้คลิก add extension
• จากนั้นเอ็กซ์เทนชั่นก็จะผสานเข้ากับตัวโครมเรียบร้อย
• เปิดเว็บเฟซบุ๊กโดยใช้บราวเซอร์ตัวเดียวกับที่ลงตัวเสริมด้านบนไว้
• ล็อกอินแล้วเปิดหน้าโปรไฟล์ไทม์ไลน์ตัวเอง
• จากนั้นจะเห็นออพชั่นอารมณ์แบบ “visitor”
• ที่น่าจะเปิดให้เห็นรายชื่อผู้เยี่ยมชมหน้าเฟซเราได้

ทั้งหมดนี้เป็นวิธีตรงๆ และอ้อมน้อยอ้อมใหญ่ในการเรียกดูผู้ใช้เฟซที่มาเปิดดูหน้าโปรไฟล์เราได้ ซึ่งในเมื่อเฟซบุ๊กตัดสินใจเพิ่มฟีเจอร์นี้มาเองแล้ว ก็อยากแนะนำให้รอจนกว่าจะทยอยอัพเดทมาที่เรา แม้ชาวแอนดรอยด์อาจจะต้องเหงือกแห้งกว่าไอโฟนหน่อยนึงก็ตาม และแม้จะใช้แอพเธิร์ดปาร์ตี้หรือตัวเสริมเอ็กซ์เทนชั่นบนบราวเซอร์มาใช้แทนพลางๆ แต่ก็เป็นแค่ความเชื่อความศรัทธาว่าจะได้ผล ดีไม่ดี ไม่ดูตาม้าตาเรืออาจไปโหลดมัลแวร์อันตรายแทนก็ได้ ถ้าจะใช้ก็ควรระวังตัวให้มาก สังเกตสิ่งผิดปกติที่ไม่ควรจะเป็นให้ดี เพราะรักและหวังดี

ที่มา : Techthirsty