December 8, 2024

อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม เตรียมทุ่ม 50 ล้านบาท สร้าง ICO Portal เพื่อเชื่อมโยงผู้สนใจระดมทุน ICO

บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม (ITEL) รอความขัดเจนหลักเกณฑ์กำกับดูแลการระดมทุนด้วยการเสนอขาย ICO เพื่อเตรียมยื่นขอใบอนุญาตทำ ICO Portal หลังจากได้ทำการศึกษามาระยะหนึ่งแล้ว คาดว่าจะใช้งบลงทุนเบื้องต้นราว 50 ล้านบาท และน่าจะเปิดให้บริการได้ภายใน 3-5 เดือนข้างหน้า
ITEL_2
นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ ITEL

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการ Q1/61 คาดว่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากงานภาครัฐเข้ามาเร็วกว่าที่คาดไว้ รวมทั้งบริษัทสามารถรับรู้รายได้จากงานในมือ (backlog) ได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการต่อสัญญากับลูกค้าหลายราย ขณะที่บริษัทวางงบลงทุนในปี 61 ราว 300 ล้านบาทเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานหากมีลูกค้าเพิ่มเติม

นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ ITEL เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาระบบ Blockchain ในการทำ platform เพื่อการเป็น ICO portal เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวกลางนำเสนอข้อมูล เชื่อมโยงผู้ที่สนใจระดมทุนผ่าน ICO กับนักลงทุนที่สนใจ รวมทั้งการซื้อ-ขาย ICO ในตลาดรอง (Secondary market) ซึ่งบริษัทมีระบบการเก็บข้อมูลผ่าน Data Center อยู่แล้ว อีกทั้งยังมี Global connection ที่เป็นจุดแข็งของบริษัท

ปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยคาดว่ารูปแบบจะเป็นการลงทุนผ่านบริษัทย่อย เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 50 ล้านบาท โดยน่าจะได้ใบอนุญาตภายในเดือน มี.ค. นี้ และจะเริ่มเห็นการดำเนินธุรกิจภายใน 3-5 เดือนข้างหน้า

ขณะที่บริษัทคาดว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/61 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากงานภาครัฐที่เข้ามาเร็วกว่าคาดตั้งแต่ต้นปี นับเป็น record high ของบริษัท ซึ่งโดยปกติแล้วจะเข้ามาในช่วงเดือน ก.ย. อาทิ งานจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การประปาส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และงานราชการ ส่งผลให้บริษัทมีรายได้รอรับรู้ (backlog) เพิ่มขึ้นในปีนี้

ประกอบกับ บริษัทได้มีการต่อสัญญากับลูกค้าในการให้บริการ เช่น บมจ.คอมเซเว่น(COM7) มีการต่อสัญญาในเดือนนี้อีก 5 ปี และ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ AIS มีการต่อสัญญาอีก 3 ปี ซึ่งจะช่วยทำให้บริษัทมียอดรายได้รอรับรู้ที่แน่นอนเข้ามาในอนาคตด้วย

ทั้งนี้ บริษัทวางงบลงทุนปี 61 ไว้ราว 300 ล้านบาทสำหรับเป็นค้าใช้จ่ายในการดำเนินงานหากมีลูกค้าเพิ่มเติม โดยคาดว่าเม็ดเงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดที่อยู่ราว 40% ซึ่งคาดว่าเพียงพอต่อการลงทุนครอบคลุมถึงปี 62 ทั้งนี้มองว่าบริษัทไม่มีความจำเป็นต้องกู้สถาบันการเงิน หรือเพิ่มทุน