Coca-Cola นำเทคโนโลยีสุดไฮเทคมาใช้ที่โรงานในมาเลเซีย
โรงงานแห่งใหม่ของโคคา – โคลาใน Bandar Enstek ประเทศมาเลเซียที่มีมูลค่า 500 ล้านริงกิตได้มีการผนวกระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานลงไปด้วยมากมาย ตั้งแต่การนำหุ่นยนต์มาใช้, โกดังเก็บสินค้าที่มาพร้อมเทคโนโลยี Data – driven ทำให้สามารถช่วยในการบริหารจัดการพื้นที่โกดังได้ดียิ่งขึ้น และอื่น ๆ อีกมากมาย
โดยเทคโนโลยีดิจิตอลที่นำมาใช้ในการทรานสฟอร์มโรงงาน ณ Bandar Enstek นั้น จะทำให้โรงงานดังกล่าวเป็นศูนย์กลางการผลิตน้ำอัดลมที่รองรับความต้องการของประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไน ภายใต้เครื่องหมายฮาลาล (Halal) ด้วย
Gareth McGeown ซีอีโอของ Coca-Cola Bottles ประจำประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไนกล่าวว่า เขารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นการนำเทคโนโลยีทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในการเพิ่มกำลังการผลิตในมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นการยกระดับให้สินค้าภายใต้เครื่องหมายฮาลาลให้ก้าวสู่การผลิตระดับเวิลด์คลาสได้อีกทางหนึ่ง
โดยเป้าหมายหลักของการพัฒนาครั้งนี้คือ PowerStore ซึ่งเป็นระบบอัจฉริยะผลงานของ Swisslog Malaysia นั่นเอง ประโยชน์ที่ได้จากการผนวกความสามารถระบบ PowerStore คือการช่วยให้โรงงานพร้อมสำหรับก้าวสู่ Industry 4.0 มากขึ้น โดยจะมีการ ผนวก PowerStore เข้าไปในซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มชื่อ SynQ ของ Swisslog อีกที และ SynQ
จะเชื่อมต่อและซิงโครไนส์ข้อมูลได้อัตโนมัติไปยังเครื่องมือ หุ่นยนต์ พนักงาน หรือกระบวนการต่าง ๆ ได้โดยอัตโนมัติ
ความสามารถหนึ่งที่เห็นได้เด่นชัดคือการเพิ่มพื้นที่ความจุ และประสิทธิภาพให้กับการบริหารโกดัง เมื่อเทียบกับการใช้ระบบเครน AR/RS แบบดั้งเดิม โดยทางโคคา – โคลา มาเลเซียคาดการณ์ว่า
เมื่อโปรเจ็คนี้เสร็จสมบูรณ์จะทำให้โรงงานแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาคได้เลยทีเดียว
ส่วน Swisslog นั้นถูกเลือกให้เป็นพาร์ทเนอร์ด้วยเหตุผลของความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมโรโบติกส์ และ Intralogistics ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การทำงาน เพิ่มพื้นที่จัดเก็บ และช่วยให้การจัดส่ง
Koh Seng Teck ผู้บริหารด้าน Warehouse & Distribution Solutions (WDS) ของ Swisslog ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เผยว่า Swisslog มีความสัมพันธ์อันดีกับโคคา-โคลามานานมาก โดยเคยช่วยนำเทคโนโลยีอัตโนมัติต่าง ๆ เข้ามาทำให้โคคา-โคลาประสบความสำเร็จในหลาย ๆ ตลาด เช่น จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเม็กซิโกด้วย