· SAP Leonardo IoT Bridge ศูนย์สั่งการดิจิตอลที่สามารถกำหนดค่าในการทำงานได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการสามารถมองเห็นการปฏิบัติงานและสามารถตอบสนองได้ทันทีแบบเรียลไทม์
· SAP Global Track and Trace โซลูชั่นคลาวด์ที่ช่วยจัดการเครือข่ายธุรกิจซัพพลายเชนได้แบบองค์รวม ตั้งแต่การติดตามผลตั้งแต่ต้นจนจบไปจนถึงการมอนิเตอร์และรายงานผลการทำงานของสิ่งของและขั้นตอนการดำเนินงานของธุรกิจโดยรวม
· SAP Leonardo IoT Edge ซอฟต์แวร์ที่มอบความสามารถในการประมวลผล การจัดเก็บข้อมูล และความสามารถในการทำ business semantics บนคลาวด์ ให้กับดีไวซ์อัจฉริยะต่างๆ ที่อยู่นอกดาต้า เซ็นเตอร์ โดยทำให้ธุรกิจดำเนินงานได้ในลักษณะใกล้เรียลไทม์
· SAP Digital Manufacturing Insights โซลูชั่นการบริหารจัดการประสิทธิภาพการดำเนินงานของอุตสาหกรรมการผลิตบนคลาวด์แบบรวมศูนย์ ช่วยมอบการมองเห็นกระบวนการทำงานด้านการผลิตแบบครอบคลุม ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด
ก้าวสู่การเป็นธุรกิจโลจิสติกส์แบบดิจิตอล ด้วย SAP Leonardoที่มอบทั้งการมองเห็น, ข้อมูลเชิงลึก, และผลกระทบต่อการทำธุรกิจ
SAP Leonardo IoT Bridge คือศูนย์ปฏิบัติการแบบไลฟ์ ซึ่งทำหน้าที่ควบรวมและเชื่อมต่อข้อมูลที่ได้จากเซ็นเซอร์ไอโอทีเข้ากับกระบวนการดำเนินธุรกิจและข้อมูลในลักษณะที่มีและไม่มีโครงสร้าง นอกจากนี้ยังมี SAP Global Track and Trace ซึ่งคือโมเดลที่ช่วยติดตามการดำเนินธุรกิจที่ถูกสร้างขึ้นบนโครงสร้างบิ๊ก ดาต้า เพื่อรองรับข้อมูลและการรับส่งข้อมูลในปริมาณสูง โดยจะแบ่งปันข้อมูลระหว่างพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจต่างๆ ในเครือข่ายการจัดหา (supply)
ทั้งสองโซลูชั่นดังกล่าว เมื่อทำงานร่วมกัน จะช่วยให้จำลองสถานการณ์การทำงานภายในส่วนต่างๆ ขององค์กรได้ เช่น แผนกโลจิสติกส์ขาออก (outbound logistics) ด้วยการใช้ข้อมูลการส่งมอบสินค้า การขนส่งสินค้า หมายเลขการส่งมอบสินค้า และหมายเลขยานพาหนะที่ได้จาก SAP Global Track and Trace รวมเข้ากับข้อมูลที่ได้จากซอฟต์แวร์ SAP Connected Goods เช่น ข้อมูลจากเซ็นเซอร์บนแท่นวางสินค้าและตู้คอนเทนเนอร์, ข้อมูลที่อยู่ในการจัดส่งที่ได้จากแอพพลิเคชั่น SAP Vehicle Insights, และข้อมูลออเดอร์สั่งซื้อที่ได้จากซอฟต์แวร์ SAP S/4HANA®ที่อยู่ในระบบคอร์เอ็นเตอร์ไพรซ์ขององค์กร SAP Leonardo IoT Bridge จะสามารถมอบการมองเห็นการดำเนินการธุรกิจแบบทั้งข้ามกระบวนการ และข้ามระบบ ในทุกภาคส่วนขององค์กรเอ็นเตอร์ไพรซ์ ซึ่งจะช่วยให้ศูนย์สั่งการและผู้นำภาคปฏิบัติการสามารถระบุได้ทันที เมื่อต้องการทราบว่า ขณะนั้นสินค้าที่ถูกจัดส่งอยู่ที่ไหนแล้ว หรือมีสินค้าอะไรบ้างที่อยู่ในการจัดส่งครั้งนั้นๆ รวมไปถึงสามารถระบุได้ว่า เงื่อนไขในการจัดส่งและประสิทธิภาพในการจัดส่งของพาหนะนั้นๆ เป็นอย่างไร
SAP Leonardo IoT Edgeใช้โครงสร้างคอนเทนเนอร์จาก SAP Cloud Platform IoT servicesเพื่อมอบการทำงานที่ไหลลื่นร่วมกับการใช้งานโซลูชั่นสำหรับสายธุรกิจอื่นๆ เช่น SAP Digital Manufacturing Insightsซึ่งเป็นโซลูชั่นคลาวด์ที่มาพร้อมกับการวิเคราะห์ข้อมูลหลายชั้น เพื่อการมองเห็นอุตสาหกรรมการผลิตได้ในหลายๆ ขั้นตอน ทั้งยังช่วยให้เกิดการเชื่อมต่อกับฝ่ายผลิตที่ไหลลื่นและปลอดภัย สิ่งนี้จะช่วยให้ข้อมูลที่มีความสำคัญสูงสามารถซ้อนทับกับข้อมูลด้านอื่นๆของธุรกิจ เพื่อก่อให้เกิดการตัดสินใจทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อทำงานร่วมกัน โซลูชั่นด้านอุตสาหกรรมการผลิต และไอโอที จากเอสเอพี จะช่วยให้เกิดการบริหารจัดการด้านการปฏิบัติการที่เชื่อมต่อกัน และเกิดการวางกลยุทธ์อุตสาหกรรม 4.0 ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเช่นกัน
การบริหารจัดการสินทรัพย์ด้วยไอโอที
จากความร่วมมือกับ Apple ของเอสเอพี ส่งผลให้ SAP Asset Manager ช่วยให้บุคลากรผู้มีทักษะจำนวนมาก สามารถระบุขั้นตอนการบริหารจัดการสินทรัพย์หลัก ทั้งนี้แอพพลิเคชั่นระดับองค์กรเอ็นเตอร์ไพรซ์ดังกล่าว ยังใช้งานได้ง่าย และสามารถใช้งานได้ผ่าน SAP Fiori® บนระบบ iOS
เอสเอพีมีจุดมุ่งหมายในการเชื่อมต่อกับโซลูชั่นดิจิตอลต่างๆ และต่อยอดความสามารถด้านไอโอทีของ SAP Leonardo เช่น SAP Asset Intelligence Networkและ SAP Predictive Maintenance and Serviceเพื่อขยายขีดความสามารถในการบริหารจัดการสินทรัพย์, เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานผ่านดีไวซ์ต่างๆ พร้อมทั้งเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกับระบบนิเวศของไอโอที และเครือข่ายนักพัฒนาต่างๆ