อัปสกิลสาย IT ด้วย 9 Certificate ด้าน Linux ที่ต้องมี

Linux ถือเป็นหนึ่งในระบบปฏิบัติการที่สำคัญที่สุดของโลก ไม่ว่าจะเป็นเซิร์ฟเวอร์ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ คลาวด์ หรืออุปกรณ์ IoT ล้วนมี Linux อยู่เบื้องหลัง การมีทักษะด้าน Linux อย่างเป็นทางการจึงเป็น “บัตรผ่าน” สำคัญของสายงาน IT โดยเฉพาะตำแหน่ง System Administrator, DevOps, Cloud Engineer และ Cybersecurity

ในปัจจุบันมีใบรับรอง Linux ระดับสากลหลายแบบที่ได้รับการยอมรับจากทั้งองค์กรขนาดใหญ่และบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำทั่วโลก บทความนี้จะพาไปรู้จัก 9 ใบรับรอง Linux ที่น่าสนใจที่สุดในปีนี้ พร้อมรายละเอียดครบถ้วน ทั้งราคา รูปแบบการสอบ เนื้อหาที่ครอบคลุม เงินเดือนเฉลี่ย และการต่ออายุ

.

1. CompTIA Linux+

CompTIA เป็นองค์กรโนโลยีสารสนเทศระดับโลกที่มีชื่อเสียงในด้านการอบรมและการออกใบรับรองด้าน IT โดยมีใบรับรอง Linux เพียงใบเดียวคือ CompTIA Linux+ ซึ่งออกแบบมาเพื่อยืนยันทักษะของ System Administrator ระดับเริ่มต้น ที่ต้องดูแลระบบบน Linux หลายดิสทริบิวชัน

หลักสูตรครอบคลุมการจัดการระบบ ความปลอดภัย การแก้ไขปัญหา และการทำงานแบบอัตโนมัติ (automation) ในแนวทางที่ไม่ขึ้นกับผู้ผลิตใดๆ (vendor-neutral)

• ค่าใช้จ่าย: 369 ดอลลาร์ (13,650 บาท)
• รูปแบบการสอบ: 90 นาที จำนวน 90 ข้อ (แบบปรนัยและแบบปฏิบัติ)
• คุณสมบัติ: ไม่มีข้อบังคับ แต่แนะนำให้มีประสบการณ์ Linux อย่างน้อย 12 เดือน
• หัวข้อสำคัญ: System management, Security, Troubleshooting, Automation
• ช่วงเงินเดือน: 79,000 – 105,000 ดอลลาร์/ปี ประมาณ 2.5 – 3.4 ล้านบาท/ปี
• เหมาะสำหรับ: ผู้ที่เปลี่ยนสายงานเข้าสู่ IT และ IT generalist
• การต่ออายุ: ใบรับรองมีอายุ 3 ปี ต้องสะสม 50 CEUs (หน่วยพัฒนาวิชาชีพต่อเนื่อง) จาก CompTIA เพื่อขอต่ออายุ

.

2. Red Hat Certified System Administrator (RHCSA)

Red Hat เป็นหนึ่งในดิสทริบิวชัน Linux ระดับองค์กรที่ใช้แพร่หลาย ใบรับรอง RHCSA ถือเป็นใบเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าผู้ถือมีทักษะการจัดการระบบ Red Hat Enterprise Linux (RHEL)

• ค่าใช้จ่าย: 400 ดอลลาร์ ประมาณ 14,800 บาท
• รูปแบบการสอบ: ปฏิบัติจริง 2.5 ชั่วโมง
• คุณสมบัติ: ไม่มีข้อบังคับ
• หัวข้อสำคัญ: Installation, User management, Networking, Storage, Security basics
• ช่วงเงินเดือน: 90,000 – 130,000 ดอลลาร์/ปี ประมาณ 2.9 – 4.2 ล้านบาท/ปี
• เหมาะสำหรับ: Admin และ Engineer ที่ดูแลระบบองค์กร
• การต่ออายุ: มีอายุ 3 ปี

.

3. Red Hat Certified Engineer (RHCE)

ขั้นต่อจาก RHCSA คือ RHCE ที่เจาะลึกการจัดการระบบเครือข่ายและระบบที่ซับซ้อน รวมถึงการทำ automation ด้วย Ansible

• ค่าใช้จ่าย: 400 ดอลลาร์ ประมาณ 14,800 บาท
• รูปแบบการสอบ: ปฏิบัติจริง 4 ชั่วโมง
• คุณสมบัติ: ต้องมี RHCSA ก่อนสอบ
• หัวข้อสำคัญ: Networking services, Security, Automation (Ansible)
• ช่วงเงินเดือน: 97,000 – 144,000 ดอลลาร์/ปี ประมาณ 3.1 – 4.66 ล้านบาท/ปี
• เหมาะสำหรับ: Senior Engineer, Architect
• การต่ออายุ: มีอายุ 3 ปี

.

4. SUSE Certified Administrator (SCA)

SUSE Linux อาจไม่ดังเท่า Red Hat แต่เป็นดิสทริบิวชันที่องค์กรใหญ่ในยุโรปใช้จำนวนมาก ใบรับรอง SCA ช่วยยืนยันว่าผู้ถือสามารถติดตั้งและดูแล SUSE Linux Enterprise Server ได้

• ค่าใช้จ่าย: 149 ดอลลาร์ ประมาณ 5,500 บาท
• รูปแบบการสอบ: ออนไลน์ 90 นาที
• คุณสมบัติ: ไม่มีข้อบังคับ
• หัวข้อสำคัญ: Installation, Configuration, Administration basics
• ช่วงเงินเดือน: 60,000 – 90,000 ดอลลาร์/ปี ประมาณ 1.6 – 2.9 ล้านบาท/ปี
• เหมาะสำหรับ: Admin ที่ใช้ SUSE Linux ในองค์กร
• การต่ออายุ: มีอายุ 3 ปี

.

5. Oracle Linux Certified Implementation Specialist

Oracle Linux เป็นอีกดิสทริบิวชันที่นิยมในองค์กร โดยเฉพาะผู้ใช้ Oracle Database และ Middleware ใบรับรองนี้ช่วยยืนยันว่าผู้ถือสามารถติดตั้ง กำหนดค่า และจัดการระบบ Oracle Linux ได้อย่างมืออาชีพ

• ค่าใช้จ่าย: 245 ดอลลาร์ ประมาณ 9,065 บาท
• รูปแบบการสอบ: 85 ข้อ ใช้เวลา 150 นาที
• คุณสมบัติ: ไม่มีข้อบังคับ
• หัวข้อสำคัญ: Installation, Configuration, System management, Security
• ช่วงเงินเดือน: 89,000 – 135,000 ดอลลาร์/ปี ประมาณ 2.8 – 4.3 ล้านบาท/ปี
• เหมาะสำหรับ: Admin ในองค์กรที่ใช้ Oracle
• การต่ออายุ: ไม่กำหนด (แต่แนะนำให้อัปเกรดเมื่อมีเวอร์ชันใหม่)

.

6. Linux Professional Institute: LPIC-1

LPI (Linux Professional Institute) เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่สร้างใบรับรอง Linux หลายระดับ โดย LPIC-1 ถือเป็นระดับเริ่มต้นที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก

ผู้สอบจะต้องผ่านข้อสอบ 2 ชุด โดยเน้นทักษะการติดตั้งและกำหนดค่า Linux บนคอมพิวเตอร์ รวมถึงการบำรุงรักษาระบบและการตั้งค่าเครือข่ายพื้นฐาน

• ค่าใช้จ่าย: 200 ดอลลาร์ต่อการสอบหนึ่งครั้ง รวมสองครั้ง ประมาณ 14,800 บาท
• รูปแบบการสอบ: สอบสองครั้ง ข้อสอบ 60 ข้อ ใช้เวลา 90 นาที/ครั้ง
• คุณสมบัติ: ไม่มีข้อบังคับ
• หัวข้อสำคัญ: Installation, System Maintenance, Networking basics
• ช่วงเงินเดือน: 70,000 – 120,000 ดอลลาร์/ปี ประมาณ 2.3 – 3.9 ล้านบาท/ปี
• เหมาะสำหรับ: ผู้เริ่มต้นสายงาน Linux ที่ต้องการฐานความรู้กว้าง
• การต่ออายุ: มีอายุ 5 ปี

.

7. Linux Professional Institute: LPIC-2

LPIC-2 เป็นใบรับรองขั้นกลางต่อจาก LPIC-1 เหมาะสำหรับผู้ดูแลระบบที่ต้องทำงานในสภาพแวดล้อมองค์กร เช่น การจัดการระบบเครือข่าย การทำ Security Services และการปรับแต่งระบบให้มีประสิทธิภาพ

• ราคา: 200 ดอลลาร์ต่อข้อสอบ 2 ครั้ง รวม ประมาณ 14,800 บาท
• รูปแบบการสอบ: ข้อสอบ 60 ข้อต่อข้อสอบ, ใช้เวลา 90 นาที/ข้อสอบ
• คุณสมบัติ: ต้องผ่าน LPIC-1 ก่อน
• หัวข้อสำคัญ: Advanced system administration, Networking, Security, Performance tuning
• ช่วงเงินเดือน: 80,000 – 125,000 ดอลลาร์ ประมาณ 2.5 – 4 ล้านบาท
• เหมาะสำหรับ: System Administrator ระดับกลางถึงสูง
• การต่ออายุ: อายุ 5 ปี

8. Linux Foundation Certified System Administrator (LFCS)

Linux Foundation เป็นองค์กรที่พัฒนาและสนับสนุน Linux รวมถึงโปรเจ็กต์โอเพ่นซอร์สหลายร้อยโครงการ ใบรับรอง LFCS จึงถือเป็นหนึ่งในมาตรฐานสายงาน Linux ที่น่าเชื่อถือที่สุด

การสอบเป็นแบบปฏิบัติจริง ผู้เข้าสอบต้องจัดการงานจริง เช่น การตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ การจัดการผู้ใช้ และการแก้ไขปัญหาบน Linux

• ค่าใช้จ่าย: 375 ดอลลาร์ ประมาณ 13,875 บาท
• รูปแบบการสอบ: ออนไลน์ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง แบบปฏิบัติจริง
• คุณสมบัติ: ไม่มีข้อบังคับ
• หัวข้อสำคัญ: Essential commands, System operations, User management, Storage, Networking
• ช่วงเงินเดือน: 75,000 – 115,000 ดอลลาร์/ปี ประมาณ 2.4 – 3.7 ล้านบาท/ปี
• เหมาะสำหรับ: Admin ที่เริ่มต้นสายงานหรือ DevOps
• การต่ออายุ: มีอายุ 3 ปี

.

9. Canonical Ubuntu Sysadmin Qualification

ออกแบบโดย Canonical ผู้พัฒนา Ubuntu

• ราคา: ยังไม่ประกาศ
• รูปแบบการสอบ: ยังไม่ประกาศ
• คุณสมบัติ: แนะนำมีประสบการณ์ Ubuntu
• หัวข้อสำคัญ: Installation, Configuration, Package management, System operations
• ช่วงเงินเดือน: ขึ้นอยู่กับองค์กร แต่ทั่วไปสูงใกล้เคียง Linux admin ระดับกลาง
• เหมาะสำหรับ: Admin/Engineer ที่ทำงานกับ Ubuntu
• การต่ออายุ: ยังไม่ประกาศ

ที่มา