จุดเปลี่ยนพาวเวอร์แบงค์ทั่วโลก! จีนเตรียมงัด “มาตรฐานโหด” บังคับติดจอ LCD โชว์สุขภาพแบตฯ ฝ่าฝืนห้ามผลิต
ใครที่เคยเจอปัญหาซื้อพาวเวอร์แบงค์มาแล้วใช้ไม่ทน ไส้ในไม่ตรงปก เตรียมเฮได้เลยครับ เพราะล่าสุดกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) เตรียมปฏิวัติวงการแบตเตอรี่สำรองครั้งใหญ่ด้วยร่างกฎหมายความปลอดภัยฉบับใหม่ ที่สื่อไอทีหลายสำนักขนานนามว่าเป็น “มาตรฐานที่เข้มงวดที่สุดในประวัติศาสตร์
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ได้แค่ขู่ แต่เป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยระดับชาติ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตลาดพาวเวอร์แบงค์ทั่วโลก (รวมถึงในไทยที่นำเข้าจากจีนเป็นหลัก) อย่างแน่นอน
และคำถามสำคัญที่หลายคนสงสัยคือ “แล้วของที่เรามีอยู่ล่ะ จะยังใช้ได้ไหม?”
มาตรฐานใหม่ “โหด” กว่าเดิมอย่างไร?
เดิมทีเราอาจคุ้นเคยกับเครื่องหมาย CCC แต่ภายใต้กฎระเบียบใหม่ที่จะบังคับใช้ (คาดการณ์ช่วงปี 2026) มาตรฐานเดิมๆ จะไม่เพียงพออีกต่อไป โดยมีข้อกำหนดสำคัญที่ผู้ผลิตต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด:
1. เลิกเป็น “กล่องดำ” ต้องโปร่งใสด้วยจอ LCD
ข้อนี้ถือเป็น Game Changer! พาวเวอร์แบงค์รุ่นใหม่ต้องมี หน้าจอ LCD หรือเชื่อมต่อแอปฯ ได้ เพื่อแสดงค่าสถานะแบบ Real-time เช่น Battery Health (สุขภาพแบตฯ) และ Usage Cycles (รอบการชาร์จ) ให้ผู้บริโภคเห็นไส้ในกันชัดๆ
2. ระบุตัวตนผู้ผลิตชัดเจน & อายุขัยที่แนะนำ
ต้องระบุ “ชื่อโรงงานผู้ผลิต” บนตัวเครื่องให้ตรวจสอบย้อนกลับได้ และต้องแจ้ง ระยะเวลาใช้งานที่แนะนำ เพื่อให้รู้ว่าเมื่อไหร่ควรทิ้ง ป้องกันอันตรายจากแบตฯ เสื่อม
3. การทดสอบความปลอดภัยระดับสูง
มาตรฐานการทดสอบจะโหดหินขึ้นมาก ทั้งการทนความร้อนที่สูงขึ้น (135°C) แรงดันไฟเกิน และการทดสอบเจาะทะลุเพื่อป้องกันการระเบิด

กระทบผู้ใช้และนักท่องเที่ยวไหม?
เมื่อมาตรฐานเปลี่ยน สิ่งที่ตามมาคือความกังวลเรื่องการเดินทาง โดยเฉพาะ “การนำขึ้นเครื่องบิน” ซึ่งเป็นเรื่องซีเรียสสำหรับนักเดินทางทุกคน
- ของเก่า (Legacy Devices) ยังใช้ได้ไหม?:
ในระยะสั้น “ยังใช้ได้และนำขึ้นเครื่องได้ตามปกติ” ครับ กฎหมายใหม่นี้มีผลบังคับใช้กับ “การผลิตและการจำหน่าย” สินค้าล็อตใหม่เท่านั้น พาวเวอร์แบงค์ตัวเก่งที่คุณมีอยู่ หากมีฉลากระบุความจุ (Wh) ชัดเจนตามกฎการบินสากล (IATA) ก็ยังพกพาได้เหมือนเดิม - กฎการบินอาจเข้มงวดขึ้นในอนาคต มีรายงานความกังวลว่า หากมาตรฐานใหม่นี้ถูกบังคับใช้เต็มรูปแบบ สายการบินในจีนอาจเริ่มนำเกณฑ์นี้มาใช้คัดกรองอุปกรณ์ ในระยะยาว เช่น อาจมีการตรวจสอบสภาพภายนอกที่เข้มงวดขึ้น หรือพาวเวอร์แบงค์ที่ไม่มีฉลากชัดเจนอาจถูกปฏิเสธเด็ดขาดกว่าเดิม (ซึ่งปกติก็ห้ามอยู่แล้ว แต่จะเข้มขึ้นอีก)
ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า มาตรฐานใหม่นี้อาจทำให้โรงงานผลิตพาวเวอร์แบงค์กว่า 70% ที่ไม่ได้มาตรฐานต้องปิดตัวลง ราคาตลาดอาจขยับสูงขึ้นจากการต้องใส่จอ LCD และชิ้นส่วนเกรดพรีเมียม แต่แลกมาด้วยความอุ่นใจว่า “ระเบิดเวลา” ในกระเป๋าเราจะกลายเป็นแค่แบตเตอรี่สำรองที่ปลอดภัยจริงๆ เสียที

