December 8, 2025

Microsoft 365 ประกาศขึ้นราคาชุดใหญ่ทั่วโลก เริ่มกลางปี 2026 อ้างต้นทุน AI และความปลอดภัย

Microsoft ออกประกาศอย่างเป็นทางการว่า เตรียมปรับขึ้นราคา Microsoft 365 สำหรับลูกค้ากลุ่มองค์กร (Commercial), พนักงานหน้างาน (Frontline), และภาครัฐ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2026 เป็นต้นไป

​การขยับราคาครั้งนี้ Microsoft ให้เหตุผลว่าเป็น “การอัปเดต” เพื่อสะท้อนถึงมูลค่าของฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย การจัดการ และความสามารถด้าน AI ที่ถูกอัดฉีดเพิ่มเข้ามาในแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง

การประกาศครั้งนี้กระทบตั้งแต่ลูกค้ากลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก (SMB) ไปจนถึงลูกค้าระดับองค์กร (Enterprise) ภาครัฐ และกลุ่มพนักงานหน้างาน (Frontline Workers) โดย Microsoft ให้เหตุผลสำคัญว่า ตลอดปีที่ผ่านมาได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้าไปกว่า 1,100 รายการ โดยเฉพาะความสามารถด้าน AI (Copilot), ระบบความปลอดภัยขั้นสูง และเครื่องมือบริหารจัดการ ซึ่งของดีเหล่านี้… แน่นอนว่าไม่ได้มาฟรีๆ

สรุปราคาใหม่: เจ็บแค่ไหน? (เทียบราคา USD และประมาณการราคาไทย)

จากการตรวจสอบข้อมูล Global Pricing ล่าสุด ราคาจะมีการปรับขึ้นในหลายแพ็กเกจ โดยผมได้คำนวณราคาไทยบาทโดยประมาณ (Estimate) เพื่อให้เห็นภาพงบประมาณคร่าวๆ ดังนี้:

1. กลุ่มธุรกิจ (Business Plans)

กลุ่มยอดนิยมของ SME ไทย โดนปรับขึ้นในตัวเริ่มต้นและตัวมาตรฐาน

  • Microsoft 365 Business Basic:
    • ราคาเดิม: $6 (~215 บาท) ราคาใหม่: $7 (~250 บาท) เพิ่มขึ้นประมาณ 17%
  • Microsoft 365 Business Standard:
    • ราคาเดิม: $12.50 (~450 บาท) ราคาใหม่: $14 (~500 บาท) เพิ่มขึ้นประมาณ 12%
  • Microsoft 365 Business Premium:
    • ข่าวดี! ราคายังคงเดิมที่ $22 (~790 บาท)

2. กลุ่มพนักงานหน้างาน (Frontline Workers) – โดนหนักสุด

กลุ่มนี้มักซื้อจำนวนมาก (Volume License) การปรับขึ้นแม้จะดูน้อยในหลักดอลลาร์ แต่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงมาก

  • Microsoft 365 F1:
    • ราคาเดิม: $2.25 (~80 บาท) ราคาใหม่: $3 (~108 บาท) เพิ่มขึ้นถึง 33%
  • Microsoft 365 F3:
    • ราคาเดิม: $8 (~288 บาท) ราคาใหม่: $10 (~360 บาท) เพิ่มขึ้น 25%

3. กลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ (Enterprise)

  • Microsoft 365 E3:
    • ปรับขึ้น 8.3% เป็น $39 (~1,400 บาท) Microsoft 365 E5: ปรับขึ้น 5.3% เป็น $60 (~2,160 บาท)
  • Office 365 E3:
    • ปรับขึ้นประมาณ 13% เป็น $26 (~935 บาท)

ทำไมต้องขึ้นราคา?

Microsoft ระบุชัดเจนว่า “องค์กรต่างๆ กำลังเผชิญกับภัยคุกคามที่ซับซ้อน และมีความต้องการใช้ AI เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่เร่งด่วน” ดังนั้นการขึ้นราคาครั้งนี้จึงเป็นการสะท้อนต้นทุนของนวัตกรรมที่ใส่เพิ่มเข้ามา ทั้งในมุมของ Security และ AI Capabilities ที่ช่วยให้องค์กรรับมือกับโลกยุคใหม่ได้ดีขึ้น

ผลกระทบอื่นๆ ที่ต้องรู้

  • Non-profits (องค์กรไม่แสวงหากำไร): จะมีการปรับราคาขึ้นเช่นกัน โดยยังคงสัดส่วนส่วนลด (Discount) ตามเดิม
  • Government (ภาครัฐ): จะมีการปรับขึ้นราคา แต่หากรายการไหนปรับขึ้นเกิน 10% จะทยอยปรับขึ้นเป็นระยะๆ ในหลายปีเพื่อไม่ให้กระทบงบประมาณรุนแรงเกินไป

แม้ Microsoft จะเว้นระยะการขึ้นราคามาตั้งแต่ปี 2022 แต่การกลับมาขึ้นราคาในครั้งนี้ โดยเฉพาะกลุ่ม Frontline (F1/F3) ที่พุ่งสูงถึง 25-33% ถือเป็นยาขมสำหรับองค์กรที่มีพนักงานจำนวนมาก การอ้างถึงฟีเจอร์ AI อาจฟังดูสมเหตุสมผลในมุมผู้พัฒนา แต่สำหรับผู้จ่ายเงินที่อาจจะยังไม่ได้ใช้ Copilot อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย นี่คือต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) ที่บวมขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ที่มา