รัฐในเยอรมันทิ้ง Microsoft ย้ายไปโอเพ่นซอร์ส ประหยัดค่าลิขสิทธิ์ปีละกว่า 500 ล้านบาท
รัฐ Schleswig-Holstein ทางตอนเหนือสุดของเยอรมนีประกาศความสำเร็จในการย้ายจากซอฟต์แวร์ Microsoft ไปสู่โซลูชันโอเพนซอร์ส โดยสามารถประหยัดงบประมาณค่าลิขสิทธิ์ได้ถึง 15 ล้านยูโร (ประมาณ 585 ล้านบาท) ต่อปี หลังจากดำเนินโครงการนี้มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2021
ย้ายไปแล้วกว่า 80% ประหยัดจริง
Dirk Schrödter รัฐมนตรีกระทรวงการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลของรัฐ ระบุว่าตัวเลขค่าใช้จ่ายที่ลดลงพิสูจน์ความคุ้มค่าของการใช้โอเพนซอร์สในภาครัฐอย่างชัดเจน ปัจจุบันเกือบ 80% ของเครื่องคอมพิวเตอร์ในหน่วยงานราชการของรัฐได้เปลี่ยนไปใช้ LibreOffice แทน Microsoft Office แล้ว โดยส่วนที่เหลืออีก 20% ยังคงใช้ Word และ Excel อยู่บ้าง แต่กระทรวงฯ วางแผนลงทุนครั้งเดียวประมาณ 9 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 315 ล้านบาท) ในปี 2023 เพื่อทำการย้ายให้เสร็จสมบูรณ์
เรื่องอธิปไตยดิจิทัลและความปลอดภัย
นอกจากประเด็นการประหยัดงบประมาณแล้ว ความมั่นคงด้านข้อมูลและอธิปไตยดิจิทัลเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลเยอรมนีและเดนมาร์กต่างกังวลเรื่อง US Cloud Act ที่กำหนดให้บริษัทเทคโนโลยีอเมริกันต้องส่งมอบข้อมูลที่เก็บไว้ในต่างประเทศให้กับหน่วยงานความมั่นคงสหรัฐฯ หากมีการร้องขอ ซึ่งขัดกับหลักการอธิปไตยของประเทศอย่างเห็นได้ชัด
ไม่ใช่แค่ Office ยังมีอะไรอีก
โครงการย้ายระบบไม่ได้จำกัดแค่ชุดโปรแกรม Office เท่านั้น Schleswig-Holstein ยังดำเนินการแทนที่ Outlook ด้วยระบบอีเมลโอเพนซอร์ส กำลังทดสอบ Linux เพื่อใช้แทน Windows บนเดสก์ท็อป และเปลี่ยนจาก Microsoft SharePoint ไปใช้ Nextcloud โดยรัฐบาลสร้าง Open Source Program Office เพื่อประสานงานและดูแลกลยุทธ์โอเพนซอร์สทั้งหมด
คลื่นลูกใหม่ในยุโรป
Schleswig-Holstein ไม่ได้เดินหน้าคนเดียว เพราะอย่างที่เราเคยนำเสนอข่าวไปก่อนหน้าที่ว่า เดนมาร์กประกาศเมื่อต้นปีว่า กระทรวงกิจการดิจิทัลจะเปลี่ยนจาก Microsoft ไปใช้ LibreOffice เช่นกัน ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์ก็ประกาศว่าบริการคลาวด์ระหว่างประเทศไม่เหมาะสมสำหรับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล สะท้อนแนวโน้มที่รัฐบาลในยุโรปพยายามลดการพึ่งพิงเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากอเมริกา และหันมาใช้โซลูชันโอเพนซอร์สเพื่อสร้างความเป็นอิสระทางดิจิทัลมากขึ้น

