October 21, 2025

ศาลสหรัฐฯ สั่งห้าม NSO Group บริษัทสปายแวร์อิสราเอล สอดแนมผู้ใช้ WhatsApp

ศาลแขวงสหรัฐอเมริกาออกคำสั่งห้ามแบบถาวรต่อบริษัท NSO Group ผู้พัฒนาสปายแวร์ชื่อดังจากอิสราเอล ไม่ให้เข้าโจมตีผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน WhatsApp อีกต่อไปหลังจากศาลพิจารณาว่าการกระทำของบริษัทก่อให้เกิด “ความเสียหายที่ไม่อาจแก้ไขได้” แม้ว่าศาลจะลดจำนวนเงินค่าเสียหายที่บริษัทต้องจ่ายลงอย่างมหาศาลจาก 168 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เหลือเพียง 4 ล้านเหรียญก็ตา

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2025 ผู้พิพากษา Phyllis Hamilton จากศาลแขวงสหรัฐอเมริกาแคลิฟอร์เนียภาคเหนือได้ออกคำสั่งศาลยาว 25 หน้า ซึ่งบังคับให้ NSO Group ยุติการพยายามเจาะเข้าสู่ระบบ WhatsApp ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มสื่อสารที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลกด้วยผู้ใช้กว่า 2,000 ล้านคนทั่วโลก

ผู้พิพากษาระบุว่า NSO Group ได้ reverse-engineer หรือวิเคราะห์ย้อนกลับโค้ดของ WhatsApp เพื่อติดตั้งสปายแวร์ Pegasus เข้าสู่อุปกรณ์ของผู้ใช้งานอย่างลับๆ และบริษัทได้ปรับปรุงเครื่องมือนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับและการอัปเดตความปลอดภัยของ WhatsApp

การต่อสู้ทางกฎหมายตลอด 6 ปี

คดีนี้เริ่มต้นในปลายปี 2019 เมื่อ Meta บริษัทแม่ของ WhatsApp ยื่นฟ้อง NSO Group ในศาลแขวงแคลิฟอร์เนีย โดยกล่าวหาว่าบริษัทได้พยายามบุกรุกเข้าสู่อุปกรณ์ประมาณ 1,400 เครื่องของนักข่าว ทนายความ นักกิจกรรมสิทธิมนุษยชน และเจ้าหน้าที่รัฐบาลในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก โดยใช้สปายแวร์ Pegasus

Pegasus เป็นสปายแวร์ที่มีความสามารถสูง สามารถควบคุมไมโครโฟนและกล้องของโทรศัพท์ รวมถึงขโมยข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลตำแหน่งของเจ้าของเครื่องได้ NSO Group อ้างว่าเครื่องมือนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในการต่อสู้กับอาชญากรรมและการก่อการร้าย และขายให้เฉพาะหน่วยงานรัฐบาลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานจากหลายองค์กรอิสระ รวมถึง Amnesty International ที่ระบุว่า Pegasus ถูกนำไปใช้ในการสอดแนมนักกิจกรรม นักข่าว และบุคคลที่คัดค้านรัฐบาลในหลายประเทศ

ผลกระทบต่อ NSO Group และอุตสาหกรรมสปายแวร์

แม้ว่าจำนวนค่าเสียหายจะลดลง แต่คำสั่งห้ามแบบถาวรถือเป็นการตัดสินที่สำคัญและอาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อ NSO Group เนื่องจาก WhatsApp เป็นหนึ่งในช่องทางหลักที่สปายแวร์ Pegasus ใช้ในการเข้าถึงอุปกรณ์เป้าหมาย ในเอกสารที่ยื่นต่อศาลก่อนหน้านี้ NSO Group ได้เตือนว่าหากศาลออกคำสั่งห้ามไม่ให้โจมตี WhatsApp จะ “ทำให้ธุรกิจทั้งหมดของ NSO ตกอยู่ในความเสี่ยง” และอาจ “บังคับให้ NSO ต้องปิดกิจการ

อย่างไรก็ตาม NSO Group ออกแถลงการณ์ว่าคำสั่งห้ามนี้ไม่มีผลบังคับใช้กับลูกค้าของบริษัท ซึ่ง “จะยังคงใช้เทคโนโลยีของบริษัทต่อไปเพื่อช่วยปกป้องความปลอดภัยสาธารณะ” และบริษัทกำลังพิจารณาคำตัดสินและ “จะกำหนดขั้นตอนต่อไปอย่างเหมาะสม”

Will Cathcart หัวหน้าฝ่าย WhatsApp ออกมาแสดงความยินดีกับคำตัดสินครั้งนี้บนแพลตฟอร์ม X (เดิมชื่อ Twitter) โดยระบุว่า “คำตัดสินห้าม NSO Group ผู้ผลิตสปายแวร์จากการโจมตี WhatsApp และผู้ใช้ทั่วโลกของเราอีกต่อไป เรายกย่องการตัดสินครั้งนี้ที่เกิดขึ้นหลังจากการต่อสู้ทางกฎหมายตลอด 6 ปีเพื่อให้ NSO รับผิดชอบต่อการโจมตีสมาชิกของสังคม

ที่มา