กลาโหมออสเตรีย ‘บอกลา’ Microsoft Office หันซบ LibreOffice
กองทัพออสเตรีย (Austrian Armed Forces – Bundesheer) ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการยุติการใช้งาน Microsoft Office และเปลี่ยนไปใช้ LibreOffice ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สสำหรับงานเอกสารแทน โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ครอบคลุมคอมพิวเตอร์ทั้งหมดราว 16,000 เครื่อง ถือเป็นก้าวย่างที่สะท้อนถึงการสร้างความเป็นอิสระทางดิจิทัลและลดการพึ่งพาบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์รายใหญ่จากต่างประเทศ
เหตุผลเบื้องหลัง
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้กองทัพตัดสินใจเปลี่ยนระบบ คือแนวคิดเรื่อง Digital Sovereignty หรือความเป็นอิสระทางดิจิทัล กองทัพออสเตรียต้องการให้ข้อมูลและเอกสารสำคัญทั้งหมดถูกจัดเก็บและประมวลผลภายในระบบของตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาบริการคลาวด์จากภายนอก ซึ่งมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการควบคุมข้อมูล นอกจากนี้ยังเป็นการลดการผูกขาดกับผู้ให้บริการรายใหญ่ที่มักมาพร้อมข้อจำกัดในด้านการใช้งานและค่าใช้จ่ายระยะยาว
การเปลี่ยนผ่านที่ต่อเนื่อง
โครงการเปลี่ยนระบบเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2020 เมื่อมีการประเมินว่า Microsoft Office จะมุ่งไปสู่บริการบนคลาวด์มากขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นในปี 2022 บุคลากรเริ่มทดลองใช้ LibreOffice แบบสมัครใจ และต่อมาในปี 2023 ได้มีการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้ามาสนับสนุนด้านการฝึกอบรมและการปรับแต่งซอฟต์แวร์ให้ตอบโจทย์การใช้งานของกองทัพโดยเฉพาะ จนกระทั่งในเดือนกันยายน 2025 การย้ายระบบเสร็จสมบูรณ์และ Microsoft Office ถูกถอนออกจากเครื่องทุกเครื่อง
ผลลัพธ์และความท้าทาย
การเปลี่ยนมาใช้ LibreOffice ทำให้กองทัพสามารถควบคุมข้อมูลได้อย่างเต็มรูปแบบ มีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งซอฟต์แวร์ และยังสามารถตรวจสอบโค้ดเพื่อความมั่นใจด้านความปลอดภัยได้ อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายจากค่าลิขสิทธิ์และค่าบริการระยะยาว อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่ต้องเผชิญคือการปรับตัวของบุคลากร เนื่องจากบางเอกสารที่ใช้ฟีเจอร์เฉพาะของ Microsoft เช่นมาโครหรือฐานข้อมูล อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้ รวมถึงต้องมีการฝึกอบรมเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับเครื่องมือใหม่
ออสเตรียไม่ใช่ประเทศแรกที่เดินหน้าแนวทางนี้ หลายรัฐในยุโรป เช่น Schleswig-Holstein ของเยอรมนี ก็มีการย้ายระบบคอมพิวเตอร์หลายหมื่นเครื่องไปใช้ Linux และ LibreOffice เพื่อสนับสนุนมาตรฐานเปิดและลดการพึ่งพาซอฟต์แวร์จากต่างชาติ แนวโน้มนี้กำลังกลายเป็นทิศทางสำคัญของประเทศที่ต้องการสร้างความมั่นคงทางดิจิทัล และยังเป็นการมีส่วนร่วมในชุมชนโอเพนซอร์สระดับโลก