ไมโครซอฟท์ปลดบล็อกอัปเดต Windows 11 หลังแก้บักตรวจจับใบหน้าแล้ว

ไมโครซอฟท์ประกาศยกเลิกมาตรการ Safeguard Hold ที่เคยบล็อกไม่ให้อุปกรณ์บางรุ่นอัปเดตเป็น Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 หลังจากแก้ไขปัญหาบักที่เกี่ยวข้องกับการตรวจจับใบหน้าและวัตถุบนกล้องภายใน ซึ่งเคยทำให้แอปพลิเคชันบางตัวหยุดทำงานไปก่อนหน้านี้
ปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบกับอุปกรณ์ที่ใช้กล้องภายในและฟีเจอร์ตรวจจับใบหน้าของ Windows เช่น Windows Hello รวมถึงแอปกล้องหรือซอฟต์แวร์อื่นที่ใช้การประมวลผลใบหน้า โดยเมื่อฟังก์ชันดังกล่าวถูกเปิดใช้งาน แอปอาจเกิดการหยุดทำงานไม่ตอบสนอง ไมโครซอฟท์จึงออกมาตรการ Safeguard Hold รหัส 53340062 เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ที่มีความเสี่ยงติดตั้งอัปเดต 24H2 จนกว่าจะมีการแก้ไข
ล่าสุด ไมโครซอฟท์ยืนยันว่าได้แก้ไขปัญหานี้แล้ว ทำให้ผู้ใช้ที่เคยถูกบล็อกสามารถอัปเดตเป็น Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ได้ตามปกติ โดยระบบจะทยอยปล่อยอัปเดตผ่าน Windows Update และอาจใช้เวลาสูงสุด 48 ชั่วโมงกว่าที่ผู้ใช้ทุกคนจะเห็นการอัปเดต หากต้องการให้ตรวจสอบได้เร็วขึ้น ผู้ใช้สามารถรีสตาร์ทเครื่องเพื่อเร่งกระบวนการตรวจสอบอัปเดต
แม้ว่าจะยกเลิกบล็อกสำหรับบั๊กตรวจจับใบหน้าแล้ว แต่ยังคงมี Safeguard Hold อื่น ๆ ที่ไมโครซอฟท์ยังคงใช้งานอยู่ เช่น ปัญหาความเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์ปรับแต่งวอลเปเปอร์ บางเวอร์ชันของไดรเวอร์ Intel Smart Sound Technology (SST) รวมถึงซอฟต์แวร์ที่ใช้เทคนิค obfuscation บางประเภท ซึ่งอาจยังไม่สามารถอัปเดตเป็น 24H2 ได้จนกว่าจะมีการแก้ไขเพิ่มเติม