October 6, 2025

ซีอีโอ NVIDIA ระบุชิปจีนกำลังไล่บี้อเมริกา ยิ่งกีดกัน ยิ่งก้าวหน้า

เจนเซน หวง ซีอีโอของ NVIDIA ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านพอดแคสต์ BG2 เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา โดยกล่าวถึงการแข่งขันด้านการพัฒนาชิประหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนในเชิงที่สร้างแรงสั่นสะเทือนต่ออุตสาหกรรม เขาเปรียบเปรยว่าจีนกำลัง “หายใจรดต้นคอ” เพราะเทคโนโลยีชิปของแดนมังกรนั้นตามหลังสหรัฐฯ เพียงระดับ “นาโนวินาที” เท่านั้น

คำพูดนี้แม้จะเป็นการเปรียบเปรย แต่สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลว่า ช่องว่างทางเทคโนโลยีระหว่างสองประเทศอาจไม่ได้กว้างใหญ่เหมือนในอดีต เหวียงยังได้ใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ พิจารณาผ่อนปรนมาตรการควบคุมการส่งออกชิป AI ไปยังจีน โดยให้เหตุผลว่าการรักษาตลาดจีนเอาไว้จะช่วยขยายอิทธิพลทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และเป็นผลดีต่อภูมิรัฐศาสตร์ในระยะยาว

ปัจจุบัน NVIDIA ตกอยู่ท่ามกลางข้อจำกัดด้านกฎหมาย หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ สั่งห้ามส่งมอบชิปรุ่น H20 ให้กับจีน แต่ในช่วงที่ผ่านมา หน่วยงานด้านการค้าของสหรัฐฯ เริ่มออกใบอนุญาตเพื่อให้ชิปบางส่วนกลับเข้าสู่ตลาดจีน ขณะเดียวกัน NVIDIA ก็เร่งพัฒนาชิปรุ่นใหม่ที่สอดคล้องกับข้อกำหนดการส่งออก เพื่อให้ยังสามารถแข่งขันและรักษาฐานลูกค้าในแดนมังกรต่อไป กลยุทธ์นี้สะท้อนความพยายามของบริษัทที่จะไม่ปล่อยให้ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของตนถูกตัดขาดจากตลาดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ในอีกด้านหนึ่ง จีนเองก็กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีชิปภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาตะวันตก Huawei เพิ่งเปิดตัวระบบ Atlas 900 A3 SuperPoD ที่ใช้ชิป Ascend 910B ซึ่งออกแบบให้ทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพา CUDA ของ NVIDIA และเหมาะสมกับระบบซอฟต์แวร์ที่พัฒนาในประเทศ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Baidu, Alibaba, Tencent และ ByteDance ก็หันมาสนับสนุนการวิจัยและการผลิตชิปในประเทศ เพื่อสร้างอุตสาหกรรมซิลิคอนที่ไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้า

สถานการณ์นี้กลายเป็นสมรภูมิใหม่ทางภูมิรัฐศาสตร์ เพราะมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ แม้จะมีเป้าหมายเพื่อชะลอการเติบโตของจีน แต่กลับผลักดันให้จีนเร่งสร้างความเป็นอิสระทางเทคโนโลยีให้เร็วยิ่งขึ้น หากจีนสามารถก้าวทันหรือแซงหน้าสหรัฐฯ ในด้านการผลิตชิประดับแนวหน้าได้จริง นั่นจะเปลี่ยนดุลอำนาจทางเทคโนโลยีโลกไปโดยสิ้นเชิง

คำกล่าวของเจนเซน หวง จึงไม่ใช่เพียงถ้อยคำที่ใช้เรียกร้องเชิงนโยบายเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนต่อทั้งอุตสาหกรรมว่า “เกมชิปโลก” กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่สูสีและดุเดือดยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเทคโนโลยี การแข่งขันทางการค้า หรือการวางหมากในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ อนาคตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จึงไม่ใช่แค่เรื่องของประสิทธิภาพชิปอีกต่อไป แต่เป็นสมรภูมิที่กำหนดทิศทางของอำนาจโลกในศตวรรษนี้อย่างแท้จริง

ที่มา