OPERATION KHAO SAN : ตำรวจไซเบอร์ร่วม AIS จับแก๊งสแกม SMS ปลอม ผ่านเครื่องจำลองสถานีฐานเคลื่อนที่

เมื่อเร็ว ๆ นี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) พร้อมด้วย นายวิสิษฐศักดิ์ เจริญไชย ผู้จัดการองค์กรสัมพันธ์จาก AIS และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการครั้งสำคัญภายใต้ชื่อ “OPERATION KHAO SAN” หลังจากสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวไทย 2 ราย ที่รับจ้างขับรถซ่อนอุปกรณ์ เครื่องจำลองสถานีฐาน (False Base Station – FBS) เพื่อตระเวนส่งข้อความ SMS ปลอมไปยังประชาชนทั่วกรุงเทพมหานคร
เบื้องหลังการสืบสวน
คดีนี้เริ่มต้นจากการที่ตำรวจไซเบอร์ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีข้อความ SMS น่าสงสัยถูกส่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ประสานงานกับวิศวกรของ AIS และหน่วยงานด้านโทรคมนาคมเพื่อสืบหาต้นตอ จนกระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัยขับอยู่ในย่านสุขุมวิท และขณะติดตามก็พบว่ามี SMS ปลอมส่งเข้ามายังโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจแบบเรียลไทม์ ตำรวจจึงประสาน สน.ชนะสงคราม เพื่อช่วยสกัดจับ และสามารถหยุดรถคันดังกล่าวได้ที่ลานจอดรถกองสลากเก่า

อุปกรณ์และวิธีการของคนร้าย
จากการตรวจค้นพบผู้ต้องหาสองราย ได้แก่ นายนพรัตน์ อายุ 25 ปี ผู้ขับขี่ และนายมังกร อายุ 23 ปี ผู้โดยสาร โดยภายในรถมีการติดตั้งเครื่อง FBS และกล่องรับส่งสัญญาณ Wi-Fi เชื่อมต่อกับเครื่องจ่ายไฟพกพา พร้อมอุปกรณ์กระจายสัญญาณที่ซ่อนอยู่บนหลังคารถซึ่งดัดแปลงเป็นครีบฉลามเพื่อพรางสายตาเจ้าหน้าที่ ผู้ต้องหาให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากบอสชาวจีนผ่านเพื่อนชาวกัมพูชาที่รู้จักกันในย่านถนนข้าวสาร

โดยผู้ว่าจ้างส่งพัสดุอุปกรณ์ทั้งหมดมาให้ พร้อมโอนเงินค่าฝากเครื่อง 2,000 บาท และสอนวิธีติดตั้งกับการใช้งานในรถยนต์ จากนั้นให้ขับรถเพื่อตระเวนส่ง SMS ปลอมวันละ 5,000 ถึง 10,000 ข้อความ โดยจะได้รับค่าจ้างครั้งละ 3,300–3,500 บาท ต่อมาเปลี่ยนรูปแบบการจ้างเป็นการเช่ารถให้พร้อมจ่ายเงินวันละ 1,350 บาท แต่ทำได้ไม่นานก็มาถูกจับกุม
กลโกง SMS ปลอมและภัยแฝงจาก FBS
พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า เครื่อง FBS มีความสามารถในการดึงข้อความที่ผู้เสียหายเคยได้รับจากบริษัทหรือธนาคารมาใช้เลียนแบบ ทำให้ข้อความปลอมดูเหมือนข้อความจริงและหลอกผู้ใช้ได้ง่ายขึ้น โดยมิจฉาชีพมักแนบลิงก์ในข้อความเพื่อหลอกให้เหยื่อกดและกรอกข้อมูลสำคัญ ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียทรัพย์สิน จึงเตือนประชาชนว่าหากได้รับข้อความใดที่มีลิงก์แนบมา ควรตั้งข้อสงสัยและหลีกเลี่ยงการกดทันที
ในขณะเดียวกัน นายวิสิษฐศักดิ์ จาก AIS อธิบายว่า ข้อความที่ส่งผ่านเครื่อง FBS ไม่ได้ผ่านระบบของ AIS ทำให้ไม่สามารถผ่านกระบวนการคัดกรองและป้องกันเหมือนข้อความปกติได้ จึงยืนยันว่าการป้องกันที่มีประสิทธิภาพที่สุดอยู่ที่การระมัดระวังของผู้ใช้เอง โดยไม่กดลิงก์ใด ๆ ที่น่าสงสัย และหากพบความผิดปกติควรแจ้งผู้ให้บริการหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทันที
ปัจจุบันตำรวจไซเบอร์กำลังเร่งสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามบอสชาวจีนผู้อยู่เบื้องหลัง และตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับขบวนการที่เคยถูกจับกุมก่อนหน้านี้หรือไม่ โดยมุ่งหวังที่จะสกัดกั้นเครือข่ายสแกมเมอร์ที่อาศัยเทคโนโลยีโทรคมนาคมในการหลอกลวงประชาชนให้สิ้นซาก
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของภัยไซเบอร์ยุคใหม่ที่ผสมผสานการใช้เทคโนโลยีเข้ากับการหลอกลวงเชิงสังคม ซึ่งทำให้การตรวจสอบยากขึ้นและส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง การบูรณาการระหว่างหน่วยงานรัฐ ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และความตื่นตัวของผู้ใช้จึงเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือภัยคุกคามลักษณะนี้