จีนเปลี่ยนระบบควบคุมไฮเทคในเขื่อนยักษ์ จากของตะวันตก เป็นเทคโนโลยีในประเทศทั้งหมด

เขื่อนซีหลกโต๋ว (Xiluodu) หนึ่งในเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดของจีน ได้ประกาศเลิกใช้ระบบควบคุมอุตสาหกรรมจากผู้ผลิตตะวันตก เช่น Siemens และ Schneider Electric พร้อมเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีภายในประเทศอย่างเต็มรูปแบบ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการเสริมความมั่นคงด้านไซเบอร์และลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของรัฐบาลปักกิ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ระบบควบคุมใหม่ของเขื่อนพัฒนาโดย Loongson Technology ผู้ผลิตชิปสัญชาติจีนที่ออกแบบและผลิตทุกส่วนด้วยตนเอง โดยใช้โปรเซสเซอร์รุ่น Loongson 3C6000 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ไม่ขึ้นกับเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ หรือยุโรป การติดตั้งระบบดังกล่าวช่วยให้จีนสามารถควบคุมห่วงโซ่อุปทานได้อย่างมั่นใจมากขึ้น และลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีผ่านช่องโหว่ในระบบควบคุมอุตสาหกรรมที่มีต้นกำเนิดจากต่างประเทศ
ความกังวลด้านความปลอดภัยนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างไร้เหตุผล ย้อนกลับไปเมื่อกว่าทศวรรษก่อน เหตุการณ์ไวรัส Stuxnet ซึ่งเจาะระบบควบคุมของ Siemens ได้แสดงให้เห็นว่าช่องโหว่ในอุปกรณ์ควบคุมสามารถถูกใช้เป็นเครื่องมือทำลายโครงสร้างพื้นฐานสำคัญได้จริง จีนจึงมองว่าการพึ่งพาเทคโนโลยีจากภายนอกในโครงการขนาดใหญ่ เช่น เขื่อนหรือโรงไฟฟ้า อาจกลายเป็นความเสี่ยงเชิงยุทธศาสตร์
เขื่อนซีหลกโต๋วตั้งอยู่บนแม่น้ำจินซา บริเวณพรมแดนระหว่างมณฑลยูนนานและเสฉวน มีกำลังการผลิตรวมสูงถึง 13.86 กิกะวัตต์ จัดเป็นเขื่อนพลังน้ำที่ใหญ่เป็นอันดับสามของจีนและอันดับสี่ของโลก ด้วยศักยภาพการผลิตไฟฟ้าขนาดมหึมา เขื่อนแห่งนี้จึงเป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่มีความสำคัญยิ่งต่อเศรษฐกิจของประเทศ
การเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีภายในประเทศทั้งหมดของเขื่อนซีหลกโต๋ว จึงไม่เพียงแต่เป็นการอัปเกรดระบบเพื่อให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเดินหน้าอย่างมุ่งมั่นของจีนในการสร้างความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี ลดความเปราะบางจากแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ และเพิ่มความมั่นใจว่าระบบพลังงานสำคัญของประเทศจะสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ถูกแทรกแซงจากภายนอก