ซีอีโอ AWS ชี้การแทนที่พนักงานจบใหม่ด้วย AI คือ “แนวคิดโง่ที่สุด”

Amazon Web Services (AWS) ในฐานะนผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ของโลก ออกมาแสดงจุดยืนชัดเจนต่อกระแสการใช้ AI แทนที่พนักงานระดับเริ่มต้น โดย Matt Garman ซีอีโอของ AWS ระบุว่าแนวคิดดังกล่าวคือ “the dumbest thing I’ve ever heard” หรือ “แนวคิดที่โง่ที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา”
เขาอธิบายในรายการพอดแคสต์กับ Matthew Berman ว่าการตัดตำแหน่งงานสำหรับเด็กจบใหม่ออกไปแล้วใช้ AI มาทำงานแทนนั้น เป็นการตัดโอกาสการสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักขององค์กรในอนาคต
“ถ้าคุณตัดพนักงานจบใหม่ออกไปทั้งหมด แล้วในอีก 10 ปีข้างหน้าคุณจะมีใครที่มีทักษะและความรู้เพียงพอที่จะเติบโตขึ้นมาเป็นผู้เชี่ยวชาญ?” Matt Garman กล่าว
พนักงานจบใหม่: แรงงานคุณภาพ ไม่ใช่ต้นทุนที่ควรตัดทิ้ง
Garman ย้ำว่า พนักงานระดับเริ่มต้นไม่ได้เป็นเพียง “ต้นทุนราคาถูก” แต่คือแหล่งพลังงานและความคิดสร้างสรรค์ที่สำคัญต่อการพัฒนาองค์กร โดยเฉพาะในยุคที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานอย่างรวดเร็ว เขาเปิดเผยว่าข้อมูลภายใน AWS แสดงให้เห็นว่า กว่า 80% ของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในบริษัทใช้ AI อยู่แล้ว ทั้งในงานเขียนโค้ด การสร้างเอกสาร การทำ unit test และ workflow อัตโนมัติ ซึ่งสะท้อนว่าพนักงานรุ่นใหม่เป็นผู้ใช้งาน AI อย่างกระตือรือร้นที่สุด
AI เป็นเครื่องมือ ไม่ใช่ตัวแทน
ซีอีโอของ AWS ยังตั้งข้อสังเกตว่า ตัวชี้วัดที่ใช้วัดความสำเร็จของ AI เช่น “AI เขียนโค้ดได้กี่เปอร์เซ็นต์” เป็นการวัดผลที่ไม่เข้าท่า เพราะจำนวนโค้ดไม่ได้สะท้อนคุณภาพงานจริง
สิ่งที่สำคัญคือ AI ต้องทำงาน ร่วมกับมนุษย์ เพื่อเสริมศักยภาพ ไม่ใช่เพื่อแทนที่คนทั้งหมด
มุมมองที่ต่างจากอุตสาหกรรม
คำพูดของซีอีโอ AWS เกิดขึ้นในช่วงที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีหลายแห่ง เช่น Meta และ Microsoft เริ่มปรับลดหรือชะลอการจ้างพนักงานจบใหม่ โดยให้เหตุผลว่าการใช้ AI สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพได้
นอกจากนี้ยังมีผู้นำด้าน AI เช่น Dario Amodei ซีอีโอของ Anthropic ที่คาดการณ์ว่า งาน entry-level อาจหายไปถึงครึ่งหนึ่งภายใน 5 ปีเพราะถูกแทนที่ด้วย AI
อย่างไรก็ตาม Garman ของ AWS เชื่อว่ามุมมองเช่นนั้นเป็นการมองระยะสั้น และอาจปิดกั้นโอกาสสร้างคนรุ่นใหม่ที่องค์กรต้องพึ่งพาในอนาคต