ไมโครซอฟท์ออกแพตช์เจ้าปัญหา ปรับการแจ้งเตือน Windows Update และกระตุ้นผู้ใช้ Windows 10 ย้ายไป Windows 11

ไมโครซอฟท์ได้ปล่อยแพตช์ KB5001716 ซึ่งแม้จะไม่ใช่อัปเดตฟีเจอร์หรือแพตช์ความปลอดภัยโดยตรง แต่กลับกลายเป็น “เจ้าปัญหา” ที่สร้างเสียงวิจารณ์และความยุ่งยากให้ผู้ใช้รวมถึงผู้ดูแลระบบไอทีในองค์กรที่ใช้ Windows 10 และ Windows 11 ไม่น้อย
โดยแพตช์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อ ปรับปรุงการแจ้งเตือนของ Windows Update และกระตุ้นผู้ใช้ Windows 10 ให้เตรียมพร้อมย้ายไปใช้ Windows 11 ก่อนที่ Windows 10 จะสิ้นสุดการซัพพอร์ตในวันที่ 14 ตุลาคม 2025

แพตช์นี้เป็นการอัปเดตระบบเบื้องหลังของ Windows Update ที่เพิ่มฟีเจอร์แจ้งเตือนผู้ใช้ว่าเครื่องกำลังจะหมดอายุซัพพอร์ต หรือไม่สามารถอัปเกรดไป Windows 11 ได้เนื่องจากฮาร์ดแวร์ไม่รองรับ พร้อมทั้งปรับปรุงการแจ้งเตือนให้แสดงในเวลาที่ไม่รบกวนการใช้งาน เช่น ไม่แสดงระหว่างเล่นเกมหรือพรีเซนต์งาน
แตกต่างระหว่างผู้ใช้ Windows 10 กับ Windows 11
- สำหรับ Windows 10 แพตช์นี้ทำหน้าที่เป็นกลไก กระตุ้นและเตือน ให้ผู้ใช้รับรู้ว่า Windows 10 กำลังจะหมดซัพพอร์ตและควรเตรียมย้ายไป Windows 11 หรือทางเลือกอื่น ๆ
- สำหรับ Windows 11 รุ่น 21H2 จะเน้นการ ปรับปรุงการแจ้งเตือน ให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง เพื่อไม่ให้รบกวนผู้ใช้ในช่วงเวลาสำคัญ
อย่างไรก็ตามแพตช์นี้ก็มีปัญหาจุกจิกตามมา เพราะมีผู้ใช้ Windows 10 บางรายอัปเดตไม่สำเร็จ โดยแจ้งข้อผิดพลาดรหัส 0x80070643 ขณะติดตั้ง ซึ่งเกิดจากการติดตั้งซ้ำหรือความขัดแย้งของคอมโพเนนต์ในระบบ
วิธีแก้ไขเบื้องต้นคือถอนการติดตั้งตัวเดิมก่อน รีสตาร์ทเครื่อง แล้วติดตั้งใหม่ หรือรีเซ็ตคอมโพเนนต์ Windows Update โดยใช้ Command prompt นี้
textnet stop wuauserv
net stop bits
ren C:\Windows\SoftwareDistribution SoftwareDistribution.old
net start wuauserv
net start bits
หรืออาจเลี่ยงไม่ติดตั้ง แพตช์ KB5001716 ตัวนี้ก็ได้
ปัญหาจุกจิกดังกล่าวเกิดจากการที่แพตช์เป็นการนำแพตช์เก่าที่ออกมาตั้งแต่ปี 2024 ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่น่าจะมีการอัปเดตไปนานแล้ว มาอัปเดตเพิ่มเติม โดยมีการผสมผสานไฟล์ใหม่ของปี 2025 และไฟล์เก่าของปี 2024 รวมกันในแพคเกจเดียว จึงอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดรหัส 0x80070643 ขึ้นระหว่างติดตั้งอัปเดตซ้ำได้