ทรัมป์เปิดแผน “Winning the AI Race” ดันสหรัฐฯ ขึ้นผู้นำ AI โลก เร่งเกมท้าชนจีน

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดตัวแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติ AI ภายใต้ชื่อ “Winning the AI Race: America’s AI Action Plan” โดยประกาศอย่างชัดเจนว่าสหรัฐอเมริกาจะต้องเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในสนามแข่งขันระดับโลกด้าน AI แผนนี้เน้นการปลดล็อกข้อจำกัดเดิม ๆ ด้วยการลดกฎระเบียบ เพิ่มความเร็วในการพัฒนา และเร่งขยายโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง พร้อมชูความมั่นคงและความเป็นผู้นำเหนือจีนเป็นเป้าหมายหลัก
แผนความยาว 28 หน้านี้ถูกออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนสหรัฐฯ ให้กลายเป็น “มหาอำนาจ AI” โดยอาศัยสามแนวทางหลัก ได้แก่
- การยกเลิกกฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของเทคโนโลยี
- การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับระบบ AI เช่น ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่และแหล่งพลังงานใหม่
- การเสริมความมั่นคงผ่านการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของ AI ในภาครัฐ โดยเฉพาะในกระทรวงกลาโหม พลังงาน และความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ
ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมต้องมาก่อน” แผนของทรัมป์จะพยายามกระตุ้นให้ภาคเอกชนและสตาร์ทอัพสามารถทดลองเทคโนโลยี AI ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องกังวลกับกฎระเบียบที่ซับซ้อน รัฐบาลกลางจะพิจารณาทบทวนกฎหมายหรือข้อบังคับที่ “ไม่จำเป็น” และเรียกร้องให้รัฐต่าง ๆ ปรับกฎหมายให้เอื้อต่อการเติบโต หากรัฐใดออกกฎหมายที่เข้มงวดเกินไป รัฐบาลอาจพิจารณาตัดลดงบประมาณสนับสนุนด้าน AI ในรัฐนั้น
แผนดังกล่าวยังรวมมาตรการด้านความมั่นคงไซเบอร์ โดยมีการเสนอให้จัดตั้งศูนย์วิเคราะห์ภัยคุกคามด้าน AI (AI-ISAC) จัดกิจกรรม Hackathon ระดับชาติเพื่อค้นหาช่องโหว่ในระบบ และให้ผู้พัฒนาโมเดล AI ชั้นนำร่วมประเมินความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การสร้างอาวุธชีวภาพหรือเครื่องมือโจมตีทางไซเบอร์ โดยเฉพาะหากโมเดลเหล่านี้หลุดไปอยู่ในมือฝ่ายตรงข้าม
อีกจุดที่ถูกจับตามองคือแนวนโยบายที่ต่อต้านความ “ตื่นรู้” (anti-woke) โดยทรัมป์ชี้ว่า AI ที่รัฐบาลจัดซื้อไม่ควรมี “อคติแบบสั่งลงมา” เช่น การแทรกเนื้อหาเพื่อสนับสนุนแนวคิดความหลากหลายหรือความเท่าเทียม (DEI: Diversity, Equity, Inclusion) รัฐบาลจึงจะยกเลิกเงื่อนไขบางอย่างที่เกี่ยวกับการควบคุมข้อมูลผิด (misinformation) หรือประเด็นสิ่งแวดล้อมออกจากแนวทางจัดซื้อของหน่วยงานรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงอิทธิพลของ “อุดมการณ์ฝ่ายซ้าย” ที่อาจฝังอยู่ในโมเดล AI
ในเวทีระหว่างประเทศ แผนนี้ยังเน้นการแข่งขันกับจีนอย่างชัดเจน โดยมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ตรวจสอบโมเดล AI จากจีนว่ามีเนื้อหาสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์หรือไม่ พร้อมทั้งสนับสนุนให้บริษัทสหรัฐฯ ส่งออกเทคโนโลยี AI ไปยังพันธมิตรสำคัญทั่วโลก เพื่อชิงพื้นที่และบทบาทในการกำหนดมาตรฐาน AI ระดับโลก
แผน “Winning the AI Race” ได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในสหรัฐฯ ทั้ง Google, Meta, Amazon, Palantir และกลุ่มนักลงทุนจากซิลิคอนวัลเลย์ ที่เห็นว่าแผนนี้จะช่วยลดแรงต้านด้านกฎหมาย เปิดทางให้เทคโนโลยีใหม่เกิดเร็วขึ้นในระดับที่แข่งขันกับจีนได้
อย่างไรก็ดี นักวิชาการและองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนจำนวนมากได้ออกมาแสดงความกังวลว่า แผนดังกล่าวมุ่งเน้นผลประโยชน์ทางธุรกิจและการแข่งขันระดับโลก โดยละเลยประเด็นสำคัญอย่างจริยธรรม ความโปร่งใส การป้องกันการเลือกปฏิบัติ และผลกระทบทางสังคมที่อาจเกิดจากการนำ AI มาใช้โดยไม่มีการกำกับดูแลที่เหมาะสม อีกทั้งยังอาจเปิดช่องให้เกิดการใช้ AI ไปในทางที่เป็นอันตรายโดยไม่มีระบบตรวจสอบถ่วงดุลที่เพียงพอ