ซัมซุงซื้อกิจการ Xealth สตาร์ทอัพอเมริกัน เตรียมลุยตลาดสุขภาพดิจิทัล
บริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ประกาศแผนเข้าซื้อกิจการบริษัท Xealth สตาร์ทอัพจากสหรัฐอเมริกาที่เชี่ยวชาญด้านบริการสุขภาพดิจิทัล โดยการเข้าซื้อครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อขยายขีดความสามารถของซัมซุงในการสร้างแพลตฟอร์มสุขภาพที่เชื่อมโยงอุปกรณ์สวมใส่ เช่น Galaxy Watch เข้ากับระบบโรงพยาบาลและการดูแลผู้ป่วยกว่า 500 แห่งทั่วสหรัฐฯ
แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะยังไม่เปิดเผยมูลค่าดีลอย่างเป็นทางการ แต่แหล่งข่าวระบุว่านี่คือก้าวสำคัญของซัมซุงในการรุกเข้าสู่ตลาดสุขภาพดิจิทัลอย่างจริงจัง หลังจากที่บริษัทพยายามกระจายธุรกิจไปนอกเหนือจากสมาร์ทโฟนและชิปเซมิคอนดักเตอร์ โดยมุ่งสู่ภาคบริการที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต
Xealth เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาแพลตฟอร์มซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพจากอุปกรณ์สวมใส่เข้ากับระบบข้อมูลทางคลินิกในโรงพยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ แพลตฟอร์มนี้ได้รับการใช้งานแล้วในโรงพยาบาลกว่า 500 แห่งทั่วสหรัฐฯ ครอบคลุมผู้ป่วยมากกว่า 120 ล้านราย และสามารถช่วยให้แพทย์ติดตามอาการของผู้ป่วยนอกโรงพยาบาล รวมถึงให้คำแนะนำด้านสุขภาพผ่านข้อมูลจากอุปกรณ์ที่ผู้ป่วยสวมใส่อยู่ที่บ้าน
นายทีเอ็ม โรห์ (TM Roh) ประธานฝ่ายดีไวซ์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ ของซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า การรวมเทคโนโลยีของ Xealth เข้ากับระบบอุปกรณ์ของซัมซุงจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ที่บ้านจนถึงโรงพยาบาล พร้อมเสริมว่าเป้าหมายคือการสร้างระบบนิเวศด้านสุขภาพที่ราบรื่นและไร้รอยต่อ
ด้านนายไมค์ แม็กเชอร์รี (Mike McSherry) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Xealth ระบุว่า การร่วมมือกับซัมซุงจะช่วยผลักดันวิสัยทัศน์ของบริษัทให้เป็นจริงในระดับโลก โดยการนำข้อมูลจากอุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันของผู้ป่วยมาเชื่อมโยงกับระบบการตัดสินใจทางการแพทย์อย่างเป็นระบบ
การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ระยะยาวของซัมซุงในการขยายธุรกิจสู่ภาคส่วนใหม่ๆ โดยก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม 2025 ซัมซุงเพิ่งเข้าซื้อกิจการ FläktGroup ผู้ผลิตระบบระบายอากาศและควบคุมอุณหภูมิสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ในยุโรป มูลค่ากว่า 1.5 พันล้านยูโร
นายเจย์ วาย ลี (Jay Y. Lee) ประธานบริษัทซัมซุง เคยกล่าวไว้ว่า บริษัทจะเร่งลงทุนในดีลเชิงกลยุทธ์ในปีนี้ โดยมุ่งเน้นในสาขาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ พลังงาน และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน หลังจากที่รายได้จากชิป AI ยังไม่สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
อย่างไรก็ตาม ดีลนี้ยังอยู่ระหว่างกระบวนการขออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากการเข้าสู่ตลาดสุขภาพต้องเผชิญกับข้อจำกัดหลายด้าน เช่น กฎหมายความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ป่วย (HIPAA) และความเข้ากันได้ของระบบไอทีในโรงพยาบาลที่มีความหลากหลายสูง
หากดีลนี้เสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2025 ตามแผน ซัมซุงจะกลายเป็นผู้เล่นหลักที่น่าจับตามองในตลาดสุขภาพดิจิทัลระดับโลก ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะเปลี่ยน “ข้อมูลจากข้อมือของผู้ใช้” ให้กลายเป็น “ข้อมูลในการรักษา” ที่มีคุณค่าในระบบโรงพยาบาลอย่างแท้จริง