OpenAI เตรียมเปิดตัว GPT‑5 โมเดล AI เรือธง ตัวเดียวจบ ครบทุกอย่างที่ต้องการ

OpenAI ประกาศแผนเปิดตัว GPT‑5 อย่างเป็นทางการภายในเดือนสิงหาคม 2025 โดย GPT‑5 จะเป็นโมเดล AI เรือธงแบบ “รวมทุกฟีเจอร์ไว้ในตัวเดียว” ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์เชิงเหตุผล (Reasoning), ความสามารถมัลติโมดัล (Multimodal) ที่รองรับภาพ เสียง ข้อความ และความสามารถใช้งานร่วมกับเครื่องมือต่างๆ เช่น Code Interpreter หรือ Browsing—all in one
แนวคิดเบื้องหลัง GPT‑5 คือการ “รวมความก้าวหน้าทาง AI จากหลายโมเดลเข้าด้วยกัน” แก้ปัญหาสำคัญที่ผู้ใช้ต้องสลับไปมาระหว่างโมเดล เช่น GPT‑4, GPT‑4o หรือ O‑series ซึ่งอาจมีจุดเด่นแต่ละด้าน แต่สร้างความสับสนในการใช้งานจริง
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา OpenAI ได้เปิดตัวโมเดลสาย O‑series (เช่น o1, o3, o4‑mini) ที่เด่นด้านความสามารถ reasoning เชิงลึก เช่นการตอบคำถามวิเคราะห์ หรือแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ขณะที่ GPT‑4o กลายเป็นโมเดลมัลติโมดัลที่ตอบโต้ภาพ เสียง และข้อความได้พร้อมกัน
GPT‑5 จึงถูกออกแบบมาเพื่อรวมจุดแข็งทั้งสองสายเข้าด้วยกัน โดยจะเป็นโมเดลหลักเพียงตัวเดียวในแพลตฟอร์ม ChatGPT ที่รองรับทั้งผู้ใช้แบบฟรีและผู้ใช้ระดับ Plus หรือ Enterprise โดยอัตโนมัติ
Jerry Tworek, รองประธานฝ่ายวิจัย OpenAI ระบุว่า “GPT‑5 จะทำได้ทุกอย่าง…และไม่ต้องสลับโมเดลไปมาอีกต่อไป”
OpenAI ระบุว่าหนึ่งในเป้าหมายหลักของ GPT‑5 คือ “ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นโดยไม่ต้องเปลี่ยนโมเดล” นั่นหมายความว่า ผู้ใช้จะสามารถใช้ GPT‑5 ตัวเดียวทำงานได้ทั้งวิเคราะห์ข้อมูล สร้างภาพ เข้าใจเสียง พูดโต้ตอบ และเรียกใช้งานฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น DALL·E, code interpreter หรือการเชื่อมต่อ API ได้ทันที
โดยคาดว่า GPT‑5 จะมาแทนที่โมเดลปัจจุบันทั้ง GPT‑4 และ GPT‑4o ในระดับ Plus ขณะที่เวอร์ชันฟรีอาจได้ใช้ความสามารถบางส่วนเช่นกัน
การเปิดตัว GPT‑5 ยังมาพร้อมยุทธศาสตร์ใหม่ของ OpenAI ที่จะลดความซับซ้อนของแบรนด์ภายใน โดยค่อยๆ ยกเลิกชื่อโมเดลย่อยจำนวนมาก เช่น o‑series, mini‑series หรือโค้ดเนมต่างๆ และรวมเข้าสู่โครงสร้าง GPT‑5 ที่เข้าใจง่ายกว่า ช่วยให้ผู้ใช้ทั่วโลกไม่ต้องสับสนกับชื่อโมเดลหรือความสามารถของแต่ละรุ่นอีกต่อไป