Louis Vuitton ออกมาพูดแล้ว ยันเหตุข้อมูลลูกค้ารั่วหลายครั้ง เกิดจากการโจมตีเดียวกัน
หลังตกเป็นข่าวโดนแฮก 3 ครั้ง ใน 3 เดือน จนสั่นคล่อนความเชื่อมั่นของกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง ล่าสุด Louis Vuitton แบรนด์แฟชั่นหรูชื่อดังระดับโลก ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการว่า เหตุการณ์ข้อมูลลูกค้ารั่วไหลในหลายภูมิภาคที่เกิดขึ้นช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีจุดเริ่มต้นจากการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งเดียวกัน โดยแฮกเกอร์สามารถเจาะเข้าสู่ระบบไอทีของบริษัทผ่านช่องโหว่จากผู้ให้บริการภายนอก ส่งผลให้ข้อมูลลูกค้าในสหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ และตุรกี รั่วไหลพร้อมกันในระยะเวลาใกล้เคียง
Louis Vuitton ได้แจ้งเตือนลูกค้าในประเทศเหล่านั้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมชี้แจงว่า ข้อมูลที่รั่วไหลประกอบด้วยชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และประวัติการซื้อสินค้า อย่างไรก็ตาม บริษัทยืนยันว่ายังไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าข้อมูลบัตรเครดิตหรือข้อมูลทางการเงินอื่น ๆ ถูกเข้าถึงหรือรั่วไหลจากเหตุการณ์นี้
มีข้อมูลชี้ให้เห็นว่า การโจมตีครั้งนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในโลกไซเบอร์อย่าง ShinyHunters ซึ่งเคยมีประวัติเจาะระบบบริษัทขนาดใหญ่มาแล้วหลายแห่ง อาทิ PowerSchool, Santander, Ticketmaster และล่าสุดคือ Adidas โดยใช้วิธีการแฮ็กผ่านช่องโหว่ของผู้ให้บริการระบบภายนอกหรือ third-party vendor เพื่อเข้าถึงฐานข้อมูลของลูกค้า
ในกรณีของสหราชอาณาจักร Louis Vuitton ได้รายงานต่อสำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ICO) และออกจดหมายแจ้งลูกค้าโดยตรง เพื่อแนะนำให้เฝ้าระวังอีเมลฟิชชิงหรือข้อความที่อาจพยายามแอบอ้างเป็นแบรนด์เพื่อขโมยข้อมูลเพิ่มเติม ในขณะที่ลูกค้าในเกาหลีใต้และตุรกีก็ได้รับแจ้งเตือนในลักษณะเดียวกันตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องกับอีกหลายแบรนด์ในเครือ LVMH Group เช่น Tiffany & Co. และ Christian Dior ซึ่งต่างก็มีเหตุข้อมูลลูกค้ารั่วไหลในเกาหลีใต้เมื่อเดือนเมษายนและพฤษภาคมตามลำดับ สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มแฮกเกอร์มุ่งเป้าโจมตีไปยังอุตสาหกรรมแฟชั่นและสินค้าลักซ์ชัวรี ซึ่งมักมีฐานข้อมูลลูกค้าระดับไฮเอนด์จำนวนมาก
Louis Vuitton ระบุว่า บริษัทได้ดำเนินการตอบสนองในทันที ทั้งการตัดการเชื่อมต่อระบบที่ถูกแฮก การร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ และการสอบสวนร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในแต่ละประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะเดียวกันซ้ำอีกในอนาคต ขณะเดียวกันก็เตือนให้ลูกค้าระมัดระวังการเปิดอีเมล ข้อความ หรือเว็บไซต์ต้องสงสัยที่แอบอ้างว่าเป็นตัวแทนของแบรนด์