เหตุ DNS 1.1.1.1 ตั้งค่าผิด ทำเน็ตล่มทั่วโลก Cloudflare ยืนยันไม่ใช่ฝีมือแฮกเกอร์

เช้ามืดของวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกหลายล้านคนประสบปัญหาเข้าเว็บไซต์ไม่ได้ เพราะบริการ DNS 1.1.1.1 ของ Cloudflare ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบพื้นฐานของการใช้อินเทอร์เน็ต เกิดขัดข้องพร้อมกันทั่วโลกนานกว่าครึ่งชั่วโมง โดย Cloudflare ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันแล้วว่า เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดจากการโจมตีทางไซเบอร์หรือแฮกเกอร์ แต่เป็นเพราะความผิดพลาดในการตั้งค่าภายในของระบบเอง
DNS คืออะไร ทำไมล่มแล้วเน็ตพัง?
DNS (Domain Name System) เปรียบเสมือน “สมุดโทรศัพท์” ของอินเทอร์เน็ต ที่แปลงชื่อเว็บไซต์ที่เราพิมพ์ เช่น www.google.com ให้กลายเป็นตัวเลขที่คอมพิวเตอร์เข้าใจและเชื่อมต่อได้
Cloudflare เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ DNS ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยเลข 1.1.1.1 ซึ่งผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรจำนวนมากนิยมตั้งไว้ในเครื่องหรือเราท์เตอร์ของตน เพราะขึ้นชื่อว่าเร็วและปลอดภัย
เมื่อ DNS 1.1.1.1 ใช้งานไม่ได้ เว็บไซต์ทุกเว็บหรือแอปธนาคารจะโหลดไม่ขึ้น เพราะเครื่องไม่รู้จะไปหาบริการเหล่านั้นจากที่ไหน
เกิดอะไรขึ้นในวันนั้น?
ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 14 กรกฎาคม เวลาประมาณ 04.50 น. ตามเวลาประเทศไทย DNS ของ Cloudflare เริ่มล่มไปทั่วโลก ผู้ใช้งานจำนวนมากเข้าถึงเว็บไซต์ต่างๆ ไม่ได้ พร้อมเกิดความตื่นตระหนกในโลกออนไลน์
Cloudflare ออกมาชี้แจงในเวลาต่อมาว่า ระบบภายในของบริษัทมีการตั้งค่าบางอย่างผิดพลาดล่วงหน้าตั้งแต่เดือนก่อน โดยไม่รู้ว่าค่าดังกล่าวเกี่ยวพันกับเลข 1.1.1.1 เมื่อมีการอัปเดตระบบใหม่ในวันที่ 14 กรกฎาคม ค่าที่ผิดพลาดนั้นจึงไป “ดึง” DNS 1.1.1.1 ออกจากระบบโดยไม่ได้ตั้งใจ
ผลคือ DNS ไม่สามารถให้บริการได้ทั่วโลกนานประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะถูกแก้ไขให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ
มีใครโดนผลกระทบบ้าง?
สำหรับคนทั่วไปที่ตั้ง DNS เป็น 1.1.1.1 ของ Cloudflare ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ (เช่น บางเครื่องตั้งไว้ล่วงหน้า หรือบางคนเคยตั้งตามคำแนะนำออนไลน์) จะไม่สามารถเข้าเว็บไซต์ส่วนใหญ่ได้ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ แม้ว่าอินเทอร์เน็ตยังเชื่อมต่ออยู่ก็ตาม เช่น พิมพ์ www.facebook.com แล้วขึ้นว่า “ไม่พบเว็บไซต์” หรือ “DNS not found” เพราะระบบไม่รู้ว่าจะไปหาเว็บไซต์นั้นที่ไหน
กรณีของประเทศไทยถือว่าโชคดี เพราะเหตุการณ์เกิดในช่วง เช้ามืดเวลาประมาณ 04:50 – 05:50 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ยังไม่มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากนัก จึงไม่ค่อยมีรายงานผลกระทบมากนัก
แต่ถ้าเหตุการณ์เดียวกันนี้เกิดในช่วง เวลาทำงานหรือเรียนออนไลน์ตอนกลางวัน อาจทำให้คนจำนวนมากเข้าใจผิดว่า “เน็ตล่มทั้งประเทศ” ได้เลย เพราะเว็บไซต์และแอปที่ใช้งานอยู่โหลดไม่ขึ้นทั้งหมดพร้อมกัน
ในมุมขององค์กร โดยเฉพาะบริษัทที่ตั้ง DNS ภายในระบบเครือข่ายไว้เป็น 1.1.1.1 ทั้ง Primary และ Secondary จะได้รับผลกระทบโดยตรง ไม่สามารถเข้าระบบเว็บไซต์หรือระบบบริการลูกค้าได้
ธุรกิจที่มีบริการออนไลน์ เช่น ธนาคาร อีคอมเมิร์ซ เกมออนไลน์ แอปจองคิว หรือบริการเรียกรถ ระบบ API สำหรับแอปพลิเคชันอื่น ๆ อาจหยุดให้บริการได้ทันที แม้ระบบหลังบ้านหรือเซิร์ฟเวอร์จะยังทำงานปกติ แต่ “ทางเข้าระบบ” หายไปเพราะ DNS ล่ม
แม้จะใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง แต่เหตุการณ์ DNS ล่มของ Cloudflare ครั้งนี้สร้างผลกระทบระดับโลก ทำให้เห็นว่าแม้ระบบอินเทอร์เน็ตจะดูแข็งแกร่งเพียงใด ก็ยังเปราะบางหากมีความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยในระดับโครงสร้างพื้นฐาน