Citigroup ใช้ Agentic AI ช่วยงานนักพัฒนา 40,000 คน สร้างนวัตกรรมและยกระดับการแข่งขัน
ธนาคารยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Citigroup หรือ Citi ซึ่งมีรายได้รวมกว่า 2.8 ล้านล้านบาท และมีพนักงานทั่วโลกประมาณ 229,000 คน ดำเนินธุรกิจในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ได้เริ่มปรับใช้เทคโนโลยี Agentic AI ซึ่งเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถช่วยงานมนุษย์ในระดับสูงขึ้น โดยนำมาใช้สนับสนุนทีมนักพัฒนาซอฟท์แวร์ภายในองค์กรกว่า 40,000 คน
ระบบ Agentic AI ดังกล่าว มีชื่อว่า “Devin” พัฒนาโดยบริษัท Cognition และถูกออกแบบมาเพื่อทำงานซ้ำ ๆ อย่างอัตโนมัติ เช่น การอัปเดตแพตช์ การแปลงภาษาโปรแกรม การสร้างเอกสารประกอบโค้ด ตลอดจนการทดสอบโปรแกรม เพื่อช่วยให้นักพัฒนาสามารถโฟกัสกับงานที่มีความซับซ้อนและใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างนวัตกรรมด้านธุรกิจมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ Citi เองก็ได้ใช้ GitHub Copilot ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาประหยัดเวลาได้มากกว่า 100,000 ชั่วโมงต่อสัปดาห์จากการตรวจสอบโค้ดโดยอัตโนมัติกว่า 740,000 ครั้งภายในองค์กร
แต่การมาของ Devin คือก้าวกระโดดครั้งใหม่ที่เปลี่ยน AI จาก “ผู้ช่วย” มาเป็น “ผู้ดำเนินการ” ที่สามารถรับคำสั่ง วิเคราะห์ และดำเนินการให้เสร็จในตัวเอง โดยผลลัพธ์ยังคงต้องผ่านการกลั่นกรองจากทีมงานมนุษย์ในขั้นสุดท้าย เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดหรือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อระบบขององค์กร
Agentic AI แตกต่างจาก AI แบบเดิมที่ใช้ในงานช่วยเหลือ เช่น GitHub Copilot ซึ่งทำหน้าที่แนะนำโค้ดหรือเติมคำในโปรแกรม โดย Devin ขยับขีดความสามารถไปอีกขั้นด้วยการลงมือทำตามคำสั่งที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูลภายในโค้ดเบสขององค์กร การวิเคราะห์ปัญหา และเสนอแนวทางแก้ไขพร้อมลงมือปรับแก้โค้ดแบบอัตโนมัติ
โดยที่ผลลัพธ์ทั้งหมดจะถูกนำเสนอต่อนักพัฒนาเพื่อทำการตรวจสอบก่อนนำไปใช้งานจริง ซึ่งเป็นแนวทางการออกแบบระบบที่ให้ AI ช่วยงานได้มาก แต่ยังคงความปลอดภัยและการควบคุมจากมนุษย์ไว้อย่างเข้มงวด
การใช้งานจริง
ในการทดลองใช้งานจริง Citi ได้มอบหมายให้ Devin เริ่มมีบทบาทในงานระดับพื้นฐานก่อน เช่น การอัปเดตโค้ดเวอร์ชันใหม่ การปรับโค้ดจากภาษาโปรแกรมหนึ่งไปยังอีกภาษา และการสร้าง test case สำหรับซอฟท์แวร์ ซึ่งทั้งหมดนี้เคยเป็นงานที่นักพัฒนาต้องใช้เวลาและแรงงานจำนวนมาก
โดย Devin สามารถผลิต “ชิ้นงาน” หรือผลลัพธ์เบื้องต้นให้นักพัฒนาเข้าตรวจสอบ ช่วยลดเวลาในการทำงาน และเพิ่มความสม่ำเสมอในกระบวนการพัฒนาอย่างเห็นได้ชัด โดยการควบคุมยังคงอยู่ภายใต้หลักความปลอดภัยขององค์กร เช่น การห้ามไม่ให้ AI ใช้โค้ดหรือข้อมูลภายนอก ตลอดจนระบบการเข้าถึงข้อมูลที่จำกัดไว้เฉพาะในเอกสารและโค้ดเบสของ Citi เท่านั้น
การนำ Agentic AI เข้ามาใช้งานในระดับนี้ จำเป็นต้องมีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานและแนวทางการใช้งานที่สอดคล้องกับนโยบายองค์กร Citi จึงพัฒนาโมเดลการทำงานให้ Devin สามารถเข้าถึงและเรียนรู้จากคู่มือภายใน มาตรฐานการเขียนโค้ด และข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของธนาคารโดยเฉพาะ รวมถึงใช้แนวทาง AI แบบ Retrieval-Augmented Generation (RAG) ที่ไม่เปิดให้ AI ค้นหาข้อมูลจากภายนอก เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและทรัพย์สินทางปัญญา
ในมุมมองของอุตสาหกรรมการเงิน Agentic AI กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีที่ธนาคารชั้นนำให้ความสนใจมากขึ้น รายงานจาก Accenture ระบุว่าธนาคารใหญ่หลายแห่งในสหรัฐอเมริกา เช่น Goldman Sachs และ JPMorgan Chase ต่างกำลังทดสอบหรือเริ่มนำ AI ประเภทนี้มาใช้งานเช่นกัน โดยพบว่าเกือบหนึ่งในสามของสถาบันการเงินในอเมริกาได้เพิ่มงบประมาณด้าน AI มากกว่า 20% ของงบไอทีทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทิศทางการลงทุนที่ชัดเจนสู่การเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคใหม่ของการพัฒนาระบบด้วยพลังของ AI
แม้ว่า Agentic AI อย่าง Devin จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการใช้งานจริง และยังคงต้องพึ่งพาการตรวจสอบจากนักพัฒนา แต่ศักยภาพของมันได้จุดประกายความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในโลกการพัฒนาโปรแกรม ไม่เพียงแค่เพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำ แต่ยังเปิดทางให้ทีมพัฒนาสามารถโฟกัสกับการคิดเชิงกลยุทธ์ และพัฒนานวัตกรรมได้มากขึ้นในอนาคต