อิสราเอลเตือนประชาชน! ควรปิดกล้องวงจรปิดในบ้าน หวั่นอิหร่านแฮกใช้ช่วยเล็งเป้าขีปนาวุธ
ความตึงเครียดในตะวันออกกลางไม่เพียงเกิดขึ้นในสนามรบจริง แต่กำลังขยายเข้าสู่ “สนามไซเบอร์” อย่างชัดเจน ล่าสุด หน่วยงานด้านความมั่นคงของอิสราเอลออกประกาศเตือนประชาชนให้ “ปิดกล้องวงจรปิดภายในบ้านทันที” หลังพบว่าแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับอิหร่านกำลังพยายามเจาะเข้าระบบกล้องเพื่อใช้สอดแนมแบบเรียลไทม์
ข้อมูลจาก เรฟาเอล ฟรังโก อดีตรองหัวหน้าหน่วยงานไซเบอร์แห่งชาติของอิสราเอล เปิดเผยว่า อิหร่านอาจใช้วิธีแฮกกล้องวงจรปิดในบ้านพลเรือนเพื่อดูภาพสดและคาดการณ์จุดตกของขีปนาวุธอย่างแม่นยำขึ้น โดยใช้กล้องที่เจ้าของเปิดเชื่อมต่อไว้กับอินเทอร์เน็ตโดยไม่เปลี่ยนรหัสผ่านเริ่มต้น
เขาแนะนำให้พลเรือน ปิดกล้องหรือเปลี่ยนรหัสผ่านทันที “กล้องหลายพันตัวถูกแฮกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งกล้องสาธารณะและกล้องส่วนตัว และกล้องเหล่านี้ถูกใช้เพื่อรวบรวมข่าวกรอง”
โดยในปี 2022 หน่วยงานไซเบอร์ของอิสราเอลเตือนว่ากล้องวงจรปิดส่วนตัว 66,000 ตัวในอิสราเอลใช้รหัสผ่านเริ่มต้น และอาจถูกแฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย
ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับกล้องที่ไม่มีการรักษาความปลอดภัยไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในอิสราเอลเท่านั้น กลวิธีที่คล้ายคลึงกันนี้พบเห็นในพื้นที่ขัดแย้งอื่นๆ รวมถึงในยูเครน ซึ่งทางการได้สั่งห้ามใช้กล้องวงจรปิดในประเทศยูเครน หลังจากค้นพบว่ารัสเซียใช้กล้องเหล่านี้ในการวางแผนโจมตีทางอากาศและปรับเปลี่ยนการโจมตีแบบเรียลไทม์
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เตือนว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับราคามากกว่าความปลอดภัยเมื่อซื้อระบบเฝ้าระวัง โดยมักมองข้ามความเสี่ยงต่างๆ “ระบบกล้องวงจรปิดคุณภาพสูงจากผู้จำหน่ายที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างจริงจังจะมีการตั้งค่าคอนฟิกที่ครอบคลุม ทำให้ปรับแต่งอุปกรณ์และการสื่อสารได้มากขึ้น” Geoff Kohl จาก Security Industry Association อธิบาย