เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมัน เผยแผน “ทิ้ง Microsoft” เดินหน้าใช้โอเพนซอร์ส
รัฐบาลเดนมาร์กกำลังเดินหน้าแผนการใหญ่เพื่อเปลี่ยนผ่านจากซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ไปใช้ระบบโอเพนซอร์สเต็มรูปแบบ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมความมั่นคงของระบบราชการ ลดภาระค่าใช้จ่ายระยะยาว และเพิ่มความสามารถในการควบคุมข้อมูลภายในประเทศ
ไม่ใช่แค่เดนมาร์ก แต่ที่ผ่านมา หลายภูมิภาคในยุโรปเริ่มหันมาใช้แนวทางเดียวกัน เช่น รัฐ Schleswig-Holstein ของเยอรมนีที่กำลังย้ายระบบทั้งหมดไปยัง Linux และ LibreOffice รวมถึงเมือง Toulouse ในฝรั่งเศสที่สามารถประหยัดงบประมาณได้กว่าล้านยูโรหลังเลิกใช้ Microsoft Office
ตามรายงานของ PCMag และ Heise Online ระบุว่ากระทรวงดิจิทัลของเดนมาร์กอยู่ระหว่างการดำเนินแผนติดตั้ง LibreOffice บนคอมพิวเตอร์ของภาครัฐมากกว่า 25,000 เครื่องภายในปี 2027 พร้อมทั้งเตรียมทดสอบและปรับเปลี่ยนระบบปฏิบัติการจาก Windows เป็น Linux รวมถึงซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สอื่น ๆ ที่สามารถทดแทนบริการของ Microsoft ได้ทั้งหมด เช่น Nextcloud, Thunderbird, Open-Xchange และระบบไดเรกทอรีทดแทน Active Directory
เบื้องหลังของแผนการนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการลดค่าใช้จ่ายจากไลเซนส์ Microsoft 365 เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความพยายามปกป้องความเป็นส่วนตัวและสิทธิ์ในการควบคุมข้อมูลของประชาชน โดยเฉพาะเมื่อหลายบริการของ Microsoft ยังมีการโฮสต์และจัดการข้อมูลในต่างประเทศ ซึ่งอาจขัดกับแนวทางของยุโรปในเรื่องการคุ้มครองข้อมูล
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกกรณีจะประสบความสำเร็จ ตัวอย่างจากเมืองมิวนิก ที่เคยเป็นต้นแบบของการย้ายไปใช้ Linux ตั้งแต่ปี 2004 แต่ต้องกลับมาใช้ Windows อีกครั้งในปี 2017 หลังเผชิญปัญหาด้านประสิทธิภาพและการปรับตัวของผู้ใช้
อย่างไรก็ตาม การประกาศแผนในครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่ารัฐบาลยุโรปหลายประเทศกำลังมองหาแนวทางใหม่ที่ไม่ขึ้นกับซอฟต์แวร์จากบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ โดยหวังให้เทคโนโลยีที่ใช้งานในภาครัฐต้องอยู่ภายใต้การควบคุมและตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส ทั้งในมุมของต้นทุน ความปลอดภัย และอธิปไตยทางดิจิทัล