February 21, 2025

เจาะลึกแนวโน้มเทคโนโลยี พลิกเกมธุรกิจแห่งอนาคต

NTT DATA เผยแพร่รายงานประจำปี NTT DATA Technology Foresight 2025 นำเสนอเทรนด์เทคโนโลยีล่าสุด พร้อมบทวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับบทบาทของ IT ในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่อนาคต

รายงาน NTT DATA Technology Foresight 2025 นำเสนอข้อมูลที่เป็นกลางและครอบคลุมทุกมิติ เพื่อวิเคราะห์ภูมิทัศน์ทางธุรกิจในปัจจุบันที่ใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งยังเป็นแนวทางสำหรับภาคธุรกิจในการปรับตัวรับมือกับอนาคต

สำหรับปีนี้ รายงานเน้นมุมมองในระดับโลกที่กว้างขึ้นโดยอ้างอิงข้อมูลเชิงลึกเพื่อระบุเทรนด์ พร้อมนำเสนอแนวทางปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ได้จริง เพื่อช่วยให้องค์กรปรับกลยุทธ์และใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด

รายงานฉบับนี้ยังคงอัดแน่นด้วยข้อมูลเชิงลึกเช่นเดียวกับปีก่อน ๆ และเสริมด้วยจุดเด่นใหม่สองประการ เพื่อให้การวิเคราะห์แนวโน้มเทคโนโลยีครอบคลุมและแม่นยำยิ่งขึ้น

1.    มุมมองระดับโลกที่กว้างขึ้น

ด้วยโครงสร้างองค์กรแบบ Global One Team ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รายงานฉบับนี้สามารถสะท้อนเทรนด์เทคโนโลยีล่าสุดและมุมมองจากภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลกได้มากกว่าที่เคย โดยนำลักษณะเฉพาะของแต่ละภูมิภาคมาประกอบการวิเคราะห์ ทำให้สามารถระบุแนวโน้มได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

2.    จากการระบุเทรนด์สู่แนวทางปฏิบัติ

แทนที่จะนำเสนอเทรนด์เพียงอย่างเดียวเหมือนในรายงานฉบับก่อน ๆ รายงานฉบับปีนี้ได้เพิ่มข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติสำหรับการดำเนินงานตามเทรนด์ที่ระบุ โดยมีการนำเสนอขั้นตอนที่ชัดเจน ซึ่งองค์กรสามารถนำไปใช้จริงเพื่อเชื่อมโยงเทคโนโลยีกับผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ NTT DATA สนับสนุนให้องค์กรก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ แม้ในสภาวะที่การเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

เทรนด์ที่ต้องจับตา

NTT DATA Technology Foresight 2025 นำเสนอ 5 เทรนด์ที่บ่งชี้ทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่มีเทคโนโลยีเป็นจุดศูนย์กลาง โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยี ธุรกิจ และสังคม รายงานแต่ละบทนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยและกรณีศึกษาที่เกี่ยวข้อง พร้อมแนะแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่อเตรียมความพร้อมสู่อนาคต โดยเน้นให้ภาคธุรกิจสามารถนำไปใช้ได้จริง

1.    มนุษย์เสริมศักยภาพ (Enhanced Humans): จินตนาการถึงอนาคตที่ศักยภาพของคุณไม่ถูกจำกัดด้วยเวลา งาน หรือความรู้

เทรนด์ Enhanced-Humans กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้โลกธุรกิจ ด้วยการนำ AI เข้ามาเสริมศักยภาพของมนุษย์  พนักงานสามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ และองค์กรสามารถปรับตัวได้รวดเร็วสอดรับกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

2.    ประสบการณ์สภาพแวดล้อมอัจฉริยะ  (Ambient Intelligent Experiences): ลองนึกถึงโลกที่ปลดล็อกประสบการณ์ของลูกค้าด้วยการบริการที่ถูกปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคลในทุกช่องทางที่ลูกค้าสัมผัสกับแบรนด์หรือบริการ และเปลี่ยนทุกปฏิสัมพันธ์ให้เป็นความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน

เทรนด์ Ambient Intelligent Experiences กำลังพลิกโฉมวิธีที่ธุรกิจมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าและปรับปรุงกระบวนการทำงานขององค์กร โดยใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อสร้างการตอบสนองที่ลื่นไหล เป็นธรรมชาติ และปรับแต่งตามลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคลในทุกแพลตฟอร์ม

องค์กรที่ออกแบบเทคโนโลยีโดยเน้นระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ และ ประสบการณ์ที่ผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง จะสามารถดึงดูดลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความพึงพอใจ พร้อมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.    ความยั่งยืนทางดิจิทัลเพื่อความยืดหยุ่น พร้อม ตอบสนอง และปรับตัวฉับไวทางเศรษฐกิจ (Digital Sustainability for Economic Resilience): จินตนาการถึงความยืดหยุ่นและปรับตัวฉับไวที่ถูกกำหนดใหม่ด้วยเทคโนโลยี ซึ่งจะเชื่อมโยงผู้คน โลก และความมั่นคงทางเศรษฐกิจเข้าด้วยกัน

เทรนด์ Digital Sustainability for Economic Resilience ผสานแนวคิดด้านความยั่งยืนเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย ช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แนวโน้มสำคัญนี้กำลังพลิกโฉมธุรกิจด้วยโซลูชันนวัตกรรมที่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร ยกระดับความโปร่งใส และส่งเสริมแนวปฏิบัติที่มีจริยธรรม

องค์กรที่ผสานความยั่งยืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลักจะสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ มีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อม และเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว

4.    การผสานรวมของเทคโนโลยีเชิงปัญญากับระบบคลาวด์ (Cognitive Cloud Convergence): ลองวาดภาพโลกที่เต็มไปด้วยโอกาสไร้ขีดจำกัด ณ จุดที่เทคโนโลยีและความคิดมาบรรจบกัน

การผสานรวม เทคโนโลยีเชิงปัญญา เข้ากับ โครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ เป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่แห่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลจำนวนมหาศาล ประมวลผลด้วยความเร็วและความชาญฉลาดที่เหนือชั้น เพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริงแบบเรียลไทม์ การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ทำให้องค์กรสามารถปรับปรุงกรอบการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเร่งกระบวนการที่สนับสนุนการสร้างนวัตกรรม

การรวมเทคโนโลยีเชิงปัญญากับระบบคลาวด์เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานผ่านการประมวลผลข้อมูลที่ดีขึ้น ระบบงานแบบอัตโนมัติ และการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ องค์กรที่ใช้การวิเคราะห์ขั้นสูงสามารถปรับปรุงกระบวนการภายใน จัดสรรทรัพยากรอย่างเหมาะสม และเสริมสร้างความร่วมมือภายในทีมให้ดียิ่งขึ้น ทำให้สามารถคาดการณ์ความต้องการในการดำเนินงาน รับมือกับความท้าทายเชิงรุก และส่งเสริมความคล่องตัวและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน

5.    เร่งผสานความปลอดภัย (Accelerated Security Fusion): จินตนาการถึงอนาคตที่ความปลอดภัยกลายเป็นพลังที่มองไม่เห็นและปรับตัวได้ล่วงหน้าหนึ่งก้าวเสมอ

การเร่งผสานความปลอดภัยกำลังกำหนดทิศทางใหม่ให้กับความปลอดภัยทางไซเบอร์ ด้วยการผสานเทคโนโลยีและระเบียบวิธีขั้นสูงเพื่อสร้างระบบป้องกันที่สามารถปรับตัวและตอบสนองเชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนวทางนี้ขจัดการทำงานแบบแยกส่วนภายในองค์กรและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านความปลอดภัย พร้อมใช้ประโยชน์จากนวัตกรรม เช่น ระบบความปลอดภัยที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้นด้วยแนวทางที่ แม่นยำ ยืดหยุ่น พร้อมตอบสนอง และปรับตัวฉับไว

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ NTT DATA Technology Foresight 2025