November 23, 2024

SCB เร่งยกระดับศักยภาพด้าน Data และ AI ขององค์กรด้วยแพลตฟอร์ม Data Intelligence ของ Databricks

ธนาคารไทยพาณิชย์ หนึ่งในผู้นำด้านดิจิทัลแบงก์กิ้ง ผนึกกำลังDatabricks บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้าน Data และ AI มุ่งยกระดับขีดความสามารถด้าน Data และเทคโนโลยี AI ของทั้งองค์กร ด้วยแพลตฟอร์ม Data Intelligence ของ Databricks 

สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับดิจิทัลแบงก์ที่ขับเคลื่อนโดย AI ด้วยแพลตฟอร์ม Data Intelligence ของ Databricks 

ปัจจุบันธนาคารไทยพาณิชย์มีจำนวนลูกค้า 17 ล้านราย ยอดธุรกรรมกว่า 1.5 พันล้านรายการต่อเดือน ธนาคารจึงต้องสามารถรองรับปริมาณการประมวลผลข้อมูลที่แตะระดับเพตาไบต์ (petabytes) เพื่อที่จะใช้ในการตัดสินใจต่างๆ บนพื้นฐานของข้อมูล โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ด้วยเหตุนี้ ธนาคารจึงเลือกที่จะรวมศูนย์ (Centralize) และควบคุม Data และ AI Asset ทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม Databricks Data Intelligence บน Microsoft Azure เพื่อช่วย Personalize และจัดการบริการธนาคาร AI (AI banking services) สำหรับลูกค้าหลายล้านคน ไปพร้อมกับการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับดิจิทัลแบงก์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของเทคโนโลยี AI โดยแพลตฟอร์ม Data Intelligence จะเป็นรากฐานของแพลตฟอร์มข้อมูลองค์กรแบบครบวงจรของธนาคาร ซึ่งจะสนับสนุนกลยุทธ์ด้านการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล (Digital Transformation) ขององค์กร รวมถึงการพัฒนาระบบไอทีหลักของธนาคาร (Core Banking) และบริการธนาคาร AI (AI banking services) อีกด้วย 

แพลตฟอร์ม Data Intelligence ของ Databricks สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม Open Lakehouse ที่วางรากฐานแบบครบวงจรสำหรับข้อมูลและการกำกับดูแลทั้งหมด และเมื่อทำงานร่วมกับโมเดล AI จึงนำมาสู่ความเป็นลักษณะเฉพาะอันโดดเด่นขององค์กร 

การประยุกต์ใช้ Data ร่วมกับ AI เพื่อสร้างประสบการณ์ดิจิทัลแบงก์เฉพาะบุคคลแบบไร้รอยต่อแก่ลูกค้าหลายล้านราย

การร่วมมือกันระหว่างธนาคารและ Databricks สามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เช่น:

  • ยกระดับประสบการณ์ลูกค้าแบบ 360 องศาด้วย AI (AI-powered customer 360): แพลตฟอร์ม Data Intelligence ทำให้ธนาคารสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมรอบด้าน และช่วยสร้างประสบการณ์ด้านการเงินเฉพาะบุคคลแบบไร้รอยต่อให้แก่ลูกค้าในทุกช่องทางของธนาคาร อาทิ เว็บไซต์ โมบายแบงก์กิ้ง หรือที่สาขาของธนาคาร 
  • จัดระดับความน่าเชื่อถือของการอนุมัติสินเชื่อแบบทันทีด้วย AI (AI-powered credit scoring for instant loan approvals): จากเดิมที่การอนุมัติสินเชื่อต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ แต่ปัจจุบันลูกค้าสามารถทำธุรกรรมได้ทันทีเพียงคลิกเดียว เนื่องจากธนาคารสามารถวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ด้วยการใช้ข้อมูล ผนวกกับศักยภาพของ AI ที่มีอยู่เพื่อพิจารณาคุณสมบัติของลูกค้าแทนระบบเดิม ส่งผลให้ธนาคารสามารถอนุมัติสินเชื่อดิจิทัลใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มอัตราการอนุมัติได้มากขึ้นถึงสองเท่า

นายอรพงศ์ เทียนเงิน ผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Technology ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ Databricks เพื่อสร้างแพลตฟอร์มข้อมูลองค์กรแบบครบวงจรโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง สอดคล้องกับกลยุทธ์ “Digital Bank with Human Touch” ของธนาคาร ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลของทั้งองค์กรประสบความสำเร็จ และสร้างการเติบโตไปพร้อมกับการยกระดับประสบการณ์แบบไร้รอยต่อให้แก่ลูกค้า ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ ยังครอบคลุมถึงการฝึกอบรมเพื่อยกระดับความรู้ ความสามารถด้าน Data และ AI ให้กับพนักงานของเราอีกด้วย”

ด้าน เซซิลี อึ้ง รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของ Databricks (ASEAN และ Greater China) เปิดเผยว่า “เรารู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ธนาคารไทยพาณิชย์เลือกแพลตฟอร์ม Data Intelligence ของ Databricks สำหรับการสร้างกลยุทธ์ในการทรานส์ฟอร์มและปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ระบบดิจิทัลของธนาคาร โดยความร่วมมือครั้งนี้ เราจะร่วมกันสร้างคุณค่าเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการธนาคารแก่ลูกค้าของ ธนาคารให้มากยิ่งขึ้นผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์” 

ยกระดับทักษะด้าน Data และ AI ของพนักงานธนาคารกว่า 1,800 ราย 

ภายใต้กลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล (Digital Transformation) ของธนาคาร Databricks จะเปิดตัว Data and AI Academy ร่วมกับ IT Academy ของธนาคาร เพื่อฝึกอบรมพนักงานกว่า 1,800 คน ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับวิทยาการข้อมูล การวิเคราะห์ และ AI เพื่อเพิ่มทักษะความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยี Data และ AI ให้แก่พนักงาน อันจะนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นต่อไป โดยโครงการฝึกอบรมจะเริ่มขึ้นเร็วๆ นี้ และเมื่อพนักงานที่เข้ารับการอบรมจนจบโครงการจะได้รับมอบใบรับรองและประกาศนียบัตรอย่างเป็นทางการจาก Databricks โดยโครงการนี้จะช่วยเพิ่มพูนทักษะความสามารถด้าน Data และ AI ทั่วทั้งองค์กร ควบคู่ไปกับการยกระดับศักยภาพของพนักงาน