September 8, 2024

AWS ได้ประกาศเปิดตัว AWS App Studio บริการใหม่ที่ช่วยสร้างแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็วและง่ายที่สุด

ในงาน AWS Summit New York ของบริษัทอะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Amazon.com Inc. (NASDAQ: AMZN) ได้ประกาศเปิดตัว AWS App Studio ซึ่งเป็นบริการใหม่ที่ใช้ Generative AI ในการสร้างแอปพลิเคชันระดับองค์กรด้วยการใช้ภาษาธรรมชาติ ผู้ใช้สามารถอธิบายรายละเอียดแอปพลิเคชันที่ต้องการ ระบุฟังก์ชันการทำงานที่คาดหวัง และแหล่งข้อมูลที่จะเชื่อมต่อ ภายในเวลาไม่กี่นาที 

App Studio จะสร้างแอปพลิเคชันขึ้นมาให้ ซึ่งหากนักพัฒนาต้องสร้างจากเริ่มต้นด้วยตนเอง อาจต้องใช้เวลาหลายวัน การปรับแต่งแอปพลิเคชันของ App Studio ทำได้ง่ายด้วยการคลิกและลากวางอย่างง่ายดาย (point-and-click) ผู้ใช้ยังสามารถขอคำแนะนำจากผู้ช่วยที่มีความสามรถจาก Generative AI ได้ทันที เพื่อให้แอปพลิเคชันทำงานตามผู้ที่พัฒนาต้องการ ด้วย App Studio แม้ไม่มีพื้นฐานการเขียนโค้ดหรือทักษะด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ ผู้ใช้งานทั่วไปในองค์กร เช่น ผู้จัดการโครงการ วิศวกรข้อมูล และ Enterprise Architect ก็สามารถสร้างแอปพลิเคชันเพื่อใช้งานภายในองค์กรได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยมี AWS เป็นผู้ดูแลด้านความปลอดภัย การจัดการดูแลแอปพลิเคชัน และการดำเนินการต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญด้านการปฏิบัติการเหล่านั้น ผู้ใช้จึงสามารถโฟกัสไปที่การออกแบบและสร้างแอปพลิเคชันเพื่อแก้ไขปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง โดยไม่ต้องกังวลกับรายละเอียดด้านเทคนิคของแอปพลิเคชัน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AWS App Studio ได้ที่ aws.amazon.com/appstudio

ทุกองค์กรมีกระบวนการทำงานและกิจกรรมต่าง ๆ ภายในที่พนักงานต้องดำเนินการเป็นประจำ เพื่อให้องค์กรสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่น ตัวอย่างเช่น ทีมจัดซื้อของโรงพยาบาลจำเป็นต้องติดตามสต็อกวัสดุทางการแพทย์ และสั่งซื้อเพิ่มเมื่อมีจำนวนน้อย ผู้บริหารบัญชีในบริษัทโฆษณาต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการออกแบบ ตรวจสอบ และอนุมัติโฆษณา ส่วนผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์ต้องควบคุมสต็อกห้องพักให้เช่า และดูแลการซ่อมแซมห้องพักเมื่อจำเป็น กระบวนการดังกล่าวมีขั้นตอนที่ยืดยาว และมักดำเนินการผ่านสเปรดชีตหรือเอกสารซึ่งยากต่อการปรับปรุงและบำรุงรักษา นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงสูงต่อข้อผิดพลาด จากการป้อนข้อมูลที่ผิดพลาด ขาดมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม และไม่สามารถรองรับการใช้งานจากผู้ใช้จำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากพนักงานมีแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะด้านต่าง ๆ ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ เนื่องจากแอปพลิเคชันดังกล่าวจะทำให้การป้อนข้อมูลง่ายขึ้น สามารถจัดการกระบวนการที่ซับซ้อนได้ และเชื่อมต่อกับระบบที่น่าเชื่อถือ อาทิ Amazon Simple Storage Service (Amazon S3) หรือ Salesforce อย่างไรก็ดี การพัฒนาแอปพลิเคชันตามความต้องการเฉพาะนั้นต้องใช้ทรัพยากรค่อนข้างมาก จึงทำให้มีแอปพลิเคชันภายในองค์กรจำนวนไม่น้อยไม่ได้รับการพัฒนาขึ้นมา เนื่องจากข้อจำกัดดังกล่าว พนักงานที่มีความรู้ด้านเทคนิคจึงหันมาใช้เครื่องมือสร้างแอปพลิเคชันแบบโค้ดน้อย (Low-code) เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันตามความต้องการด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม เครื่องมือเหล่านี้ก็มีข้อจำกัดและข้อท้าทายหลายประการ ได้แก่ มีความยากในการเรียนรู้และต้องใช้ความรู้เฉพาะของแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ แอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นมักไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของบริษัท จนทำให้แผนกไอทีต้องระงับการใช้งาน และเมื่อมีผู้ใช้งานจำนวนมากขึ้น แอปพลิเคชันเหล่านี้ก็มักประสบปัญหาในการรองรับปริมาณการใช้งานมาก ๆ จนต้องส่งมอบการโฮสต์และการรันให้กับทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ของบริษัทดำเนินการแทน ส่งผลให้พนักงานจำนวนมากประสบปัญหา โดยต้องเลือกระหว่างการใช้เครื่องมือสร้างแอปพลิเคชันแบบโค้ดน้อยที่มีข้อจำกัด หรือจัดการกระบวนการต่าง ๆ อย่างยากลำบากผ่านสเปรดชีตและเอกสารในรูปแบบเดิม

ด้วย AWS App Studio ผู้ใช้สามารถสร้างแอปพลิเคชันระดับองค์กรได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย แม้จะมีประสบการณ์ด้านเทคนิคเพียงเล็กน้อย ซึ่งในอดีตการสร้างแอปพลิเคชันเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยนักพัฒนาโปรแกรมมืออาชีพ ด้วยผู้ช่วยที่มีความสามรถจาก Generative AI ของ App Studio จะช่วยขจัดความยุ่งยากในการเรียนรู้เครื่องมือเขียนโค้ดแบบดั้งเดิม ทำให้กระบวนการสร้างแอปพลิเคชันรวดเร็วขึ้น และทำให้งานทั่วไปเช่น การออกแบบหน้าจอ (User interface: UI) การสร้างวิธีการทำงาน และการทดสอบแอปพลิเคชันง่ายขึ้น ผู้ใช้สามารถระบุแหล่งข้อมูลขององค์กรที่แอปพลิเคชันควรเชื่อมต่อได้ จากนั้นให้คำสั่ง กับ App Studio เช่น  “สร้างแอพสำหรับติดตามสินค้าคงคลังของร้านค้า” App Studio จะสร้างโครงร่างเพื่อให้ผู้พัฒนาตรวจสอบ จากนั้นสร้างแอปพลิเคชันที่อาจมีหน้าจอ UI หลายหน้า รวมถึงรูปแบบข้อมูลและลอจิกทางธุรกิจ หลังจากนั้นผู้ใช้สามารถถามคำถามเพื่อขอคำอธิบายเพิ่มเติม เช่น “อยากแสดงปุ่ม ‘อนุมัติ’ ให้กับผู้ที่มีสิทธิตรวจสอบเท่านั้น” และ App Studio จะให้คำแนะนำอย่างละเอียดว่าจะแก้ไขโดยใช้ระบบการคลิกและลากวางเพิ่มให้ได้สิ่งที่ผู้สร้างต้องการ เพื่อทดสอบแอปพลิเคชัน ผู้ใช้เพียงแค่คลิกปุ่ม “สร้างข้อมูลตัวอย่าง” เพื่อสร้างข้อมูลตัวอย่างที่จะแสดงให้เห็นว่าแอปพลิเคชันจัดการข้อมูลกับข้อมูลอย่างไรแบบ นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชันกับแหล่งข้อมูลภายในองค์กรได้อย่างง่ายดาย โดยใช้คอนเนกเตอร์ที่มีให้สำหรับบริการของ AWS (เช่น Amazon Aurora, Amazon DynamoDB และ Amazon S3) และ Salesforce รวมถึงบริการจากผู้ให้บริการรายอื่น (เช่น HubSpot, Slack และ Zendesk) โดยใช้คอนเนกเตอร์ application programming interface (API) ด้วย App Studio ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่อง code อีกไป App Studio จะดูแลการดำเนินการ การปฏิบัติงาน และการบำรุงรักษาทั้งหมดให้ เมื่อแอปพร้อมใช้งาน App Studio จะสร้าง URL ที่สามารถปรับแต่งได้ให้ ผู้ใช้สามารถเข้าถึง URL นี้ได้อย่างปลอดภัย โดยมีการตรวจสอบสิทธิ์และควบคุมการเข้าถึงตามบทบาทหน้าที่ของผู้ใช้

ดิลิป คุมาร์ รองประธานฝ่ายแอปพลิเคชันของ AWS กล่าวว่า “AWS App Studio เปิดโอกาสให้ผู้สร้างรุ่นใหม่สามารถพัฒนาแอปพลิเคชันระดับองค์กรได้อย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที เนื่องจากได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ารายใหญ่และสตาร์ทอัพที่เติบโตเร็วที่สุด App Studio เป็นตัวเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่พนักงานด้านเทคนิคในทุกองค์กร ในปัจจุบันผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ด้านเทคนิคเพียงเล็กน้อยสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย โดย App Studio จะดำเนินกระบวนการพัฒนาและส่งมอบแอปพลิเคชันที่พร้อมใช้งานได้ทันที ซึ่งสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์เฉพาะของธุรกิจเป็นสิ่งที่ไม่เคยสะดวกและง่ายดายเช่นนี้มาก่อน นวัตกรรมการใช้ภาษาธรรมชาตินี้เปิดโอกาสให้องค์กรทุกขนาดเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากขึ้น”

ทุกแอปพลิเคชันที่ถูกนำไปใช้งานผ่าน App Studio มีความปลอดภัยสูง สามารถขยายขนาดได้ และมีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างนวัตกรรมแทนการจัดการแอปพลิเคชัน ด้วย App Studio ทีมงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสามารถมองเห็นภาพรวมของแอปพลิเคชันทั้งหมดได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถติดตามพฤติกรรมการใช้งาน ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลและผู้ใช้งาน รวมถึงกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยให้สอดคล้องกับนโยบายขององค์กร การสร้างแอปพลิเคชันด้วย App Studio นั้นไม่มีค่าใช้จ่าย โดยลูกค้าจะจ่ายเงินเฉพาะเวลาที่พนักงานใช้งานแอปพลิเคชันที่เผยแพร่เท่านั้น ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับบริการสร้างแอปพลิเคชันแบบ low-code อื่น ๆ App Studio พร้อมให้บริการในรูปแบบ Preview ในภูมิภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกา (Oregon) ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป

Campus Life & Style ช่วยเหลือนักศึกษากว่า 28,000 คน ในกว่า 50 สถานที่ต่าง ๆ ให้หาห้องพัก สก๊อตต์ พุนเทนนีย์ ผู้จัดการด้านรายได้ระดับประเทศของ Campus Life & Style กล่าวว่า “ด้วย App Studio ทีมงานเพียงสองคนสามารถสร้างแอปพลิเคชันครบวงจรได้ ซึ่งช่วยให้การรับข้อมูล การจัดการ และการรายงานสำหรับทีมงานกว่า 150 คนของเรา ราบรื่นยิ่งขึ้น กระบวนการสำรวจตลาดของเราให้ข้อมูลในการกำหนดสถานที่ต่อไปที่จะจัดหาที่พักนักศึกษา แต่กระบวนการนี้เป็นงานที่ต้องทำด้วยมือซึ่งใช้เวลามาก เนื่องจากมีผู้เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวมข้อมูล การป้อนข้อมูล และการตรวจสอบข้อมูลมากกว่า 150 คนผ่านแฟ้มงาน แบบฟอร์ม และแดชบอร์ดหลาย ๆ อย่าง เราคาดว่าแอปพลิเคชันประมวลผลข้อมูลนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการเก็บรวบรวมและกระจายข้อมูลสำรวจตลาดของเราได้ถึง 20% และลดข้อผิดพลาดจากการป้อนข้อมูลด้วยมือได้ถึง 98% ตอนนี้เราวางแผนจะนำ App Studio มาปรับปรุงระบบข้อมูลด้านการเงินและทรัพยากรบุคคลด้วย และจะใช้บริการ Generative AI อื่น ๆ ของ AWS เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานต่าง ๆ ของเราให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก”

Deloitte เป็นผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านการตรวจสอบและการให้ความเชื่อมั่น รวมถึงการให้คำปรึกษาในด้านต่าง ๆ เช่น การเงิน ความเสี่ยง ภาษี และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เจบี แมคจินนิส ผู้นำด้านพันธมิตร AWS ของสหรัฐฯ ที่ Deloitte Consulting LLP กล่าวว่า “App Studio ช่วยให้ทีมงานด้านเทคนิคของเราสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่มีความปลอดภัยและสามารถขยายได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ซึ่งทำให้การทำงานราบรื่นและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ในฐานะผู้ให้บริการระดับโลกที่ทำงานร่วมกับแบรนด์จากทั่วโลกในหลากหลายอุตสาหกรรม ทีมงานของเราจำเป็นต้องทำงานกับลูกค้าที่หลากหลาย ซึ่งมีงานและกระบวนการที่แตกต่างกันออกไป ด้วย App Studio ทีมงานด้านเทคนิคของเราสามารถเป็นผู้นำและสร้างแอปพลิเคชันจากแนวคิดได้อย่างง่ายดายเพียงไม่กี่ประโยค ทำให้กิจกรรมเหล่านี้ราบรื่นสำหรับทั้งทีม เมื่อทีมงานเติบโตและเป้าหมายทางธุรกิจเปลี่ยนแปลงไป แอปพลิเคชันจาก App Studio สามารถปรับขนาดและเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพตามความต้องการของพนักงานของเรา ช่วยให้เราส่งมอบบริการที่ดียิ่งขึ้นสำหรับลูกค้า”

HealthVerity ให้บริการด้านสุขภาพและข้อมูลผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เพื่อช่วยสร้างเส้นทางการรักษาของผู้ป่วยและปรับปรุงผลลัพธ์ทางการรักษา เจเรมี สจ๊วร์ต รองประธานฝ่ายวิศวกรรมของ HealthVerity กล่าวว่า “App Studio เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้บริษัทสามารถสร้างแอปพลิเคชันได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดมากนัก ทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากการลงทุนใน AWS ที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่ และยังช่วยเพิ่มศักยภาพให้พนักงานของเราพัฒนาแอปได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยมีผู้ช่วยที่มีความสามรถจาก Generative AI คอยให้ความช่วยเหลือ ในอดีตเราต้องพัฒนาเครื่องมือทั้งหมดด้วยตนเองตั้งแต่เริ่มต้น เนื่องจากโซลูชัน low-code ที่มีอยู่ไม่สามารถตอบสนองข้อกำหนดด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดของเราได้ ทีมนักพัฒนาเพียงแค่ 5 คน จึงต้องรับภาระในการดูแลโครงสร้างพื้นฐานนี้ไปด้วยนอกเหนือจากงานประจำ ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น และทำให้พวกเขาต้องละทิ้งภารกิจหลักไป ด้วย App Studio ในปัจจุบัน แอปพลิเคชันทั้งหมดมีความปลอดภัยและได้รับการจัดการโดย AWS อย่างครบวงจร ช่วยให้พนักงานของเราสามารถมุ่งเน้นไปที่โครงการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น”

LaunchDarkly ช่วยให้ทีมที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถปล่อย ติดตาม และปรับปรุงซอฟต์แวร์ในสภาพแวดล้อมการผลิตได้อย่างราบรื่น แคลร์ โว ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ LaunchDarkly กล่าวว่า “การผสานรวมระหว่างหน้าจอผู้ใช้งานที่ใช้งานง่าย กับผู้ช่วยที่มีความสามรถจาก Generative AI ใน App Studio ช่วยลดช่องว่างทางด้านทักษะ ทำให้พนักงานด้านเทคนิคที่เข้าใจปัญหาทางธุรกิจเป็นอย่างดีมีอำนาจในการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกระบวนการทางธุรกิจจำนวนมากที่สามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยแอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นเองตามความต้องการ ดังนั้น แทนที่จะจ้างผู้ให้บริการภายนอกที่มีความเฉพาะเจาะจงและต้องแบกรับค่าใช้จ่ายสูง ธุรกิจส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะลดอุปสรรคในการพัฒนาแอปพลิเคชันภายในองค์กรของตนเอง พนักงานด้านเทคนิคที่มีความเข้าใจในปัญหาเหล่านี้เป็นอย่างดีจะสามารถออกแบบและพัฒนาโซลูชันที่ปลอดภัย สามารถรองรับการขยายตัวได้อย่างราบรื่น และตรงตามความต้องการขององค์กรได้อย่างรวดเร็ว”

TrustPortal เป็นแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ประเภท Software-as-a-Service (SaaS) ที่ใช้ระบบอัตโนมัติอัจฉริยะแบบไม่ต้องเขียนโค้ด ให้บริการที่มีประสิทธิภาพสูงแก่พนักงานศูนย์บริการลูกค้าและลูกค้าผ่านทุกช่องทาง คริส แลมเบอร์ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ TrustPortal กล่าวว่า “App Studio ถือเป็นนวัตกรรมสำคัญสำหรับพนักงานด้านเทคนิค ในการสร้างแอปพลิเคชันธุรกิจที่มีคุณภาพสูง น่าดึงดูดใจทางด้านกราฟิก และใช้งานง่าย ด้วยคำแนะนำจาก Generative AI ตลอดกระบวนการพัฒนา เรามีโอกาสได้ทำงานร่วมกับบริษัทชั้นนำหลายแห่ง ทำให้นักพัฒนาของเรามีเวลาจำกัดในการสร้างและดำเนินการแอปพลิเคชันภายในองค์กร App Studio ช่วยลดต้นทุนและความซับซ้อนในการพัฒนาและดำเนินการเครื่องมือภายในของเราเอง ทำให้นักพัฒนามีเวลามากขึ้นในการสร้างนวัตกรรมเพื่อลูกค้า”

You may have missed