Kaspersky งานงอก โดนอเมริกาสั่งแบน อ้างกังวลความปลอดภัย
วันนี้ รัฐบาลของประธนาธิบดี โจ ไบเดน ออกประกาศแบนซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสสัญชาติรัสเซียอย่าง Kaspersky โดยให้เวลาผู้ใช้ในอเมริกาจนถึงวันที่ 29 กันยายน 2024 ในการหาซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยทางเลือกมาใช้แทน
“สำนักงานอุตสาหกรรมและความปลอดภัย (BIS) ของกระทรวงพาณิชย์ประกาศคำตัดสินขั้นสุดท้ายห้าม Kaspersky Lab, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือในสหรัฐฯ ของบริษัทซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและความปลอดภัยทางไซเบอร์จากรัสเซีย ให้บริการซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและผลิตภัณฑ์หรือบริการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในสหรัฐฯ หรือแก่บุคคลในสหรัฐฯ โดยตรงหรือโดยอ้อม” ประกาศฉบับใหม่จากหน่วยงาน BIS ของสหรัฐฯ ระบุ
การแบนนี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการขายผลิตภัณฑ์ของ Kaspersky เท่านั้น แต่ยังป้องกันไม่ให้บริษัทส่งมอบโปรแกรมป้องกันไวรัสและการอัปเดตด้านความปลอดภัยให้กับลูกค้าอีกด้วย ทำให้ลูกค้าจำเป็นต้องจัดหาซอฟต์แวร์ทางเลือกอื่นภายในสิ้นเดือนกันยายน
“รัสเซียแสดงให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่าพวกเขามีความสามารถและความตั้งใจที่จะแสวงหาประโยชน์จากบริษัทของรัสเซีย เช่น Kaspersky Lab เพื่อรวบรวมและนำข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของสหรัฐฯ มาใช้เป็นเครื่องมือ และเราจะยังคงใช้ทุกเครื่องมือที่มีอยู่เพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติสหรัฐฯ และประชาชนชาวอเมริกันต่อไป”
แม้ว่า Kaspersky จะปฏิเสธความสัมพันธ์ใดๆ กับรัฐบาลรัสเซีย แต่รัฐบาลสหรัฐฯ ก็ยังคงเห็นว่าศักยภาพทางไซเบอร์ของรัฐบาลรัสเซีย อาจมีอิทธิพลต่อการดำเนินงานของ Kaspersky จึงไม่มีทางที่จะบรรเทาความเสี่ยงได้หากไม่ได้ห้ามให้บริการของบริษัทในสหรัฐฯ อย่างสมบูรณ์
ทั้งนี้ ประเด็นใหญ่ที่สร้างความกังวลในอเมริกามาจากการที่ Kaspersky เข้าซื้อเครื่องมือรักษาความปลอดภัยและช่องโหว่ที่เชื่อมโยงกับ Equation Group ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแผนกปฏิบัติการไซเบอร์ของ NSA
ในขณะนั้น Kaspersky ระบุว่าซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสของตนจะดึงไฟล์ของ NSA โดยอัตโนมัติหลังจากตรวจพบไฟล์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแต่มีแนวโน้มจะเป็นอันตราย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสจะอัปโหลดไฟล์ที่ต้องสงสัยว่าเป็นอันตรายไปยังเซิร์ฟเวอร์ของตนเพื่อทำการวิเคราะห์เพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ FSB ของรัสเซียหรือบุคคลภายใน Kaspersky รายอื่นใช้ Kaspersky Antivirus เป็นเครื่องมือค้นหาแบบโต้ตอบเพื่อสแกนคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเพื่อค้นหาไฟล์ที่น่าสนใจ
ตั้งแต่นั้นมา รัฐบาลสหรัฐฯ ก็เริ่มสั่งห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ของ Kaspersky ในหน่วยงานของรัฐบาลกลางอย่างช้าๆ และตอนนี้ด้วยการประกาศในวันนี้ ก็ได้สั่งห้ามใช้ทั่วประเทศ
ที่มา : bleepingcomputer