หัวเว่ย หนุนสร้างเมืองความเร็วสูง 10Giga แบบออปติกทั้งหมด ด้วยเทคโนโลยี F5.5G ใน 5 สถานการณ์

ที่งานหัวเว่ย โกลบอล อนาลิสต์ ซัมมิต (Huawei Global Analyst Summit) ประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 20 เมษายน หัวเว่ยได้เชิญองค์กรอุตสาหกรรม นักวิเคราะห์อุตสาหกรรม ผู้ให้บริการเครือข่าย และองค์กรชั้นนำ มาร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับกลยุทธ์การพัฒนาอุตสาหกรรม F5.5G และสถานการณ์การใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในเชิงลึก ระหว่างการประชุมหัวข้อ “เปิดรับ F5.5G เพื่อก้าวสู่เมือง 10Giga ด้วยนวัตกรรม” (Embracing F5.5G to Lead 10Giga City with Innovation)

เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดการเชื่อมต่อเครือข่ายสำหรับแบนด์วิดท์ที่สูงกว่ากิกะบิต ETSI จึงได้ออกรายงาน F5G Advanced and Beyond White Paper ในปี 2565 และ WBBA ได้ออกแผนงานการพัฒนาบรอดแบนด์แห่งอนาคต และด้วยจุดเริ่มต้นดังกล่าว วิวัฒนาการจาก 1 Gbps สู่ 10 Gbps จึงค่อย ๆ กลายเป็นความเห็นพ้องต้องกันในอุตสาหกรรม ริชาร์ด จิน (Richard Jin) ประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์ธุรกิจออปติกของหัวเว่ย กล่าวว่า “F5.5G หนุนการพัฒนาจากเครือข่าย Giga สู่เมือง 10Giga หัวเว่ยเชื่อว่า เมือง 10Giga แบบออปติกทั้งหมดจะเริ่มต้นในห้าสถานการณ์ ได้แก่ บ้าน องค์กร เครื่องจักร การประมวลผล และการตรวจจับ” นอกจากนี้ เขายังสนับสนุนให้ทั้งอุตสาหกรรมร่วมมือกันกำหนดมาตรฐาน ส่งเสริมนโยบาย สร้างนวัตกรรมเทคโนโลยี และใช้ระบบนิเวศ เพื่อร่วมกันสร้างเมือง 10Giga และก้าวไปสู่โลกอัจฉริยะ

·   บ้าน: การเกิดขึ้นของแอปพลิเคชันใหม่ ๆ เช่น วิดีโอความละเอียดสูงพิเศษ, XR, เมตาเวิร์ส และเดสก์ท็อปบนคลาวด์ ต่างต้องใช้บรอดแบนด์ภายในบ้านที่มีแบนด์วิดท์สูงขึ้น ความหน่วงต่ำ และความน่าเชื่อถือสูง ยกตัวอย่างทีวี 3 มิติแบบมองด้วยตาเปล่า ความละเอียดระดับ 8K นั้น ต้องใช้แบนด์วิดท์มากกว่า 3 Gbps เพื่อสร้างภาพหลายมุมมองที่ใช้มาตรฐานการบีบอัด H.264

·   องค์กร: แอปพลิเคชันแคมปัสอัจฉริยะต้องการความสามารถด้านเครือข่ายที่ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชันอย่างการวินิจฉัยและการรักษาที่ใช้ดิจิทัลช่วย การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาด้วยกล้องหลายตัว และการออกแบบโฮโลกราฟิก ล้วนแล้วแต่ต้องการเครือข่ายออปติก 10G เพื่อให้องค์กรต่าง ๆ มีแบนด์วิดท์ที่สูงกว่า 1 Gbps และความหน่วงของเครือข่ายต่ำกว่า 10 ms

·   เครื่องจักร: ด้วยการยกระดับเป็นดิจิทัลของอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น พลังงานไฟฟ้า การผลิต และท่าเรือ การผลิตภาคอุตสาหกรรมในอนาคตจึงจำเป็นต้องมีเครือข่ายการผลิต 10G ที่เป็นออปติกทั้งหมดเพื่อรองรับการเชื่อมต่ออัจฉริยะของทุกสิ่ง เครือข่ายดังกล่าวให้แบนด์วิดท์เกิน 10 Gbps ความหน่วงต่ำกว่า 1 ms และจิตเตอร์ต่ำกว่า 20 μs สำหรับการตรวจสอบคุณภาพ AOI แบบอัลตราเอชดี และ PLC ในสายการผลิต

·   การประมวลผล: ด้วยการพัฒนาอย่างรวดเร็วของคลาวด์คอมพิวติง แบนด์วิดท์ของเครือข่ายระหว่างศูนย์ข้อมูลและผู้ใช้จึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ข้อกำหนดด้านความหน่วงก็เข้มงวดมากขึ้น ๆ ทั้งนี้ เครือข่าย 10G ใช้สถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายของเครือข่ายแบ็กโบน 400G, การเข้าถึงเขตเมือง 100G และการเตรียมเครือข่ายแบบออปติกทั้งหมด เพื่อลดการใช้พลังงานในการส่งข้อมูล และทำให้คลาวด์คอมพิวติงพร้อมใช้งาน

·   การตรวจจับ: ความสามารถในการตรวจจับไฟเบอร์ออปติกรองรับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ และช่วยให้หาตำแหน่งที่ผิดพลาดได้อย่างแม่นยำ ทำให้ได้เครือข่ายไฟเบอร์ที่มองเห็นได้และจัดการได้ รวมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่าย ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีการตรวจจับออปติกด้วยเลเซอร์ 3 มิติบนเครือข่ายบรอดแบนด์ภายในบ้าน สามารถปกป้องสุขภาพของผู้สูงอายุได้ด้วยการติดตามดูแลผู้สูงอายุจากอุบัติเหตุหกล้ม

เพื่อสนับสนุนการพัฒนาบริการ 10G หัวเว่ยประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีและการใช้งานเชิงพาณิชย์ในหลายสาขา เช่น FTTR, 50G PON, Alps-WDM, 400G, OSU hard pipe และเครือข่ายออปติคัลอุตสาหกรรมสีเขียว ซึ่งช่วยให้ผู้ให้บริการพัฒนาเครือข่ายได้อย่างต่อเนื่อง

ริชาร์ด มาโฮนี (Richard Mahony) สมาชิกสมาคมบรอดแบนด์โลก (WBBA) และรองประธานบริษัท อินฟอร์มา เทค (Informa Tech) กล่าวว่า WBBA เร่งผลักดันการพัฒนาบรอดแบนด์แห่งอนาคตให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในทุก ๆ ที่ เพื่อมอบ ROI ที่ยั่งยืนในระยะยาวสำหรับทุกอุตสาหกรรม ด้านอาว หลี่ (Ao Li) หัวหน้าวิศวกรของสถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศจีน (China Academy of Information and Communications Technology: CAICT) กล่าวว่า ยุค F5G Advanced ที่มีเครือข่ายออปติก 10G เป็นตัวแทนนั้น กำลังพัฒนารวดเร็วขึ้น และจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งสำหรับบ้าน องค์กร คลาวด์ และบริการประมวลผลต่าง ๆ

ทอม ปัง (Tom Pang) รองประธานอาวุโสฝ่ายวางแผนเครือข่ายของฮ่องกง เทเลคอมมิวนิเคชันส์ (Hong Kong Telecommunications: HKT) กล่าวว่า HKT จะยังคงพัฒนา PON ให้เป็นเครือข่ายแห่งอนาคต ด้านอะบิเกล คาร์ดิโน (Abigail Cardino) หัวหน้าแผนกกำกับดูแลการเปลี่ยนแปลงและรองประธานฝ่ายธุรกิจบรอดแบนด์ของโกลบ เทเลคอท (Globe Telecom) กล่าวว่า โกลบ เทเลคอม สร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมภายในบ้านเพื่อให้ชาวฟิลิปปินส์มีทางเลือก เอาชนะความท้าทาย และค้นพบวิธีใหม่ ๆ ในการมีความสุขกับชีวิต และหวัง ซินผิง (Wang Xinping) ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลและเครือข่ายของมหาวิทยาลัยเซ็นทรัลเซาท์ (Central South University) กล่าวว่า มหาวิทยาลัยเซ็นทรัลเซาท์มุ่งหวังที่จะใช้เครือข่ายที่รวมทั้งแบบมีสาย, ไร้สาย, IoT และ 5G ด้วยความเร็วสูงผ่านโครงการ “One Network” และดำเนินการเครือข่ายหลายฟังก์ชันในรูปแบบที่เป็นหนึ่งเดียวเพื่อเชื่อมต่อข้อมูลแคมปัสและแอปพลิเคชันโดยสมบูรณ์

สำหรับในอนาคต บรรดาผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในอุตสาหกรรมส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมบริการและประสบการณ์รูปแบบใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาเครือข่ายแบบออปติกทั้งหมดไปสู่ 10G พร้อมก้าวเข้าสู่ยุค F5.5G ร่วมกัน เพือช่วยกันสร้างโลกอัจฉริยะที่ดีขึ้น