“อีเธอเรนดี้” เปิดตัวคอลเลกชัน NFT ใหม่ ผสานรวมผลงานศิลปะแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีบล็อกเชนล้ำสมัย
“อีเธอเรนดี้” (Etherendy) เป็นแบรนด์แรกที่เชื่อมโยงคอลเลกชันศิลปะแบบดั้งเดิมกับเทคโนโลยีบล็อกเชนล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกัน นำเสนอชุดกระเบื้องแฮนด์เมดสุดคลาสสิกไม่ซ้ำลายจำนวนจำกัดเพียง 500 ชิ้น พร้อมวางจำหน่ายในรูปแบบคอลเลกชันงานศิลปะโทเคน “ฟิจิทัล” (phygital) ชุดแรกของโลก
ขณะที่สื่อต่าง ๆ ให้ความสนใจกับการที่ NFT และของสะสมดิจิทัลได้กลายเป็นแหล่งรวมผลงานศิลปะดิจิทัลและผลงานของจริงมากขึ้นในปี 2566 “อีเธอเรนดี้” ได้เตรียมเปิดตัวแคมเปญคอลเลกชันศิลปะชุดแรกในเดือนเมษายนนี้ ที่ซึ่งเทคโนโลยี NFT จะมาบรรจบกันกับผลงานศิลปะดั้งเดิมเพื่อสร้างคุณค่าที่ไม่เหมือนใคร
“อีเธอเรนดี้” มีคุณสมบัติพิเศษที่แปลกใหม่ทั้งในแง่ของรูปลักษณ์และมูลค่า แม้กระทั่งสำหรับผู้ที่ติดตามตลาด NFT มาแล้วอย่างยาวนาน คอลเลกชันนี้แตกต่างจาก NFT แบบดั้งเดิมตรงที่มีการผลิตทั้งในรูปแบบดิจิทัลและในรูปแบบวัตถุที่จับต้องได้ ซึ่งหมายความว่า NFT แต่ละชิ้นในคอลเลกชัน “อีเธอเรนดี้” คือผลงานศิลปะที่มีคุณค่าและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นโทเคนที่มีความพิเศษและมีคุณค่าเนื่องจากมีจำนวนจำกัด รวมถึงเป็นผลงานศิลปะสไตล์ยุโรปที่ควรค่าแก่การยกย่องและการสะสม กระเบื้องทุกแผ่นผ่านการลงสีและปิดทองด้วยมือ มาพร้อมหมายเลขซีเรียลแยกตามคอลเลกชันและหมายเลขจากผู้ผลิตผลงานศิลปะสไตล์ยุโรปคลาสสิกอายุกว่า 197 ปี
โทเคน “อีเธอเรนดี้” สามารถใช้งานได้หลากหลาย โดยส่วนใหญ่สามารถใช้เป็นส่วนลดจำนวนมากสำหรับโทเคนอีเธอเรนดี้ชุดต่อไป มูลค่าคอลเลกชันของอีเธอเรนดี้จะเป็นพื้นฐานสำหรับความร่วมมือเชิงโต้ตอบในอนาคต ที่ซึ่งโทเคนอีเธอเรนดี้สามารถนำมาใช้เป็นไอเทมบูสเตอร์หรือโทเคนกล่องสมบัติในโปรเจกต์อื่น ๆ
แม้ว่าคอลเลกชันนี้จะเป็นการผสานรวมระหว่างผลงานศิลปะคลาสสิกและเทคโนโลยีดิจิทัล ทางผู้สร้างยังเข้าใจถึงความคาดหวังของลูกค้าเกี่ยวกับสิ่งพิเศษเพิ่มเติมจากโครงการนี้
ผู้ที่ซื้อโทเคนจะได้รับผลงานศิลปะจริงฟรีในฐานะส่วนหนึ่งของโทเคน และจะได้เข้าร่วมเล่นเมต้าเกมพร้อมลุ้นรับรางวัลใหญ่ โดยอิงจากสีเฉพาะบนโทเคนซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเกมนี้
ผู้สร้าง “อีเธอเรนดี้” ตั้งเป้าดึงดูดนักสะสมผลงานศิลปะด้วยคอลเลกชันซูเปอร์ลิมิเต็ดอื่น ๆ ในอนาคต ดังนั้นคอลเลกชันนี้ที่เปิดตัวแล้วในปัจจุบันจึงเปรียบเสมือนเป็นการเริ่มต้น พวกเขาเชื่อว่าการผสมผสานระหว่างศิลปะคลาสสิกกับเทคโนโลยีบล็อกเชนล้ำสมัยจะสร้างมูลค่าและต่ออายุให้กับตลาดผลงานศิลปะคลาสสิกและผลงานดิจิทัล
นักสะสมและนักลงทุนที่สนใจในคอลเลกชันนี้สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของอีเธอเรนดี้