เซอร์ทิสเปิดกลยุทธ์ปี 2566 ในฐานะ AI Engine เน้นขับเคลื่อน 6 กลุ่มธุรกิจ เสมือนมันสมองสำคัญในการช่วยผลักดันและต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ
บริษัท เซอร์ทิส จำกัด เดินหน้าผลักดันธุรกิจในการเป็นผู้ให้คำปรึกษาและพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลโซลูชันให้ตอบโจทย์ความต้องการและช่วยแก้ปัญหาที่เหมาะสมให้กับแต่ละกลุ่มธุรกิจอย่างครบวงจร พร้อมเปิดกลยุทธ์ปี 2566 กำหนดจุดยืนของบริษัท หวังช่วยผลักดันและยกระดับธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมให้ก้าวสู่ยุค Digital Transformation อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างการเติบโตให้กับทุกธุรกิจอย่างยั่งยืน
จากความสำเร็จของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมา และความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่สำคัญในประเทศไทย ส่งผลให้มีจำนวนงานโปรเจกต์และการให้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่า ข้อมูลและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ เป็นสิ่งที่ธุรกิจทุกภาคส่วนได้มองเห็นบทบาทและความสำคัญในการนำไปใช้ดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน จึงทำให้มีโอกาสในการเติบโตอย่างมากในปีนี้และต่อไปในอนาคต
นายธัชกรณ์ วชิรมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท เซอร์ทิส จำกัด บริษัทให้คำปรึกษาและพัฒนาด้านข้อมูล เทคโนโลยี และนวัตกรรมดิจิทัลโซลูชันสัญชาติไทย ที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ และการจัดการข้อมูล ให้บริการลูกค้ากลุ่มธุรกิจหลากหลายอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สำหรับกลยุทธ์ในปี 2566 นี้ เซอร์ทิส ได้ปรับจุดยืนของบริษัทฯ ให้เปรียบเสมือนเป็น AI Engine หรือ มันสมองสำคัญในการเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนให้ธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ สามารถบริหารจัดการองค์กรให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และยั่งยืน ด้วยการใช้นวัตกรรมจากปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ จึงได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของบริษัทในการมุ่งเน้นการบริการไปที่ 6 กลุ่มธุรกิจหลัก ซึ่งประกอบด้วย
AI Retail – เอไอเพื่อกลุ่มธุรกิจค้าปลีก
ด้วยประสบการณ์มากกว่า 8 ปี ที่ให้บริการในภาคธุรกิจค้าปลีกกับบริษัทชั้นนำในประเทศไทย ทำให้กลุ่มธุรกิจค้าปลีกเป็นหนึ่งในธุรกิจที่เรามีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการส่งมอบบริการและโซลูชัน ทั้งเรื่องการจัดการข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มลูกค้า การตลาด การเลือกสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ความสัมพันธ์ของแบรนด์กับลูกค้า จึงออกมาเป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์ เช่น การคาดการณ์ความต้องการของลูกค้า (Demand Forecasting) การบริหารจัดการคลังสินค้า (AI Ordering) การเลือกสินค้าเพื่อวางขาย (AI Assortment) การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพาณิชย์ (Data Commercialization) และบริการแบบ Customization อื่น ๆ ที่ตอบโจทย์ตามความต้องการและช่วยแก้ปัญหาของลูกค้าได้ตรงจุด
AI Manufacturing – เอไอเพื่อกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต
เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมถึงผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป (FMCG) รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมหนักขนาดใหญ่อื่น ๆ ซึ่งถือเป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่เราให้ความสำคัญในการส่งมอบบริการ ทั้งในเรื่องการควบคุมกระบวนการผลิต การปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน ที่ล้วนช่วยต่อยอดการเติบโตของธุรกิจด้วยการใช้เอไอในการช่วยบริหารจัดการอุตสาหกรรมการผลิตอย่างครบวงจร
AI Banking & Finance – เอไอเพื่อกลุ่มธนาคารและการเงิน
เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ที่ทางเซอร์ทิสมุ่งขยายการบริการเนื่องจากเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีการใช้ข้อมูลมากมายมหาศาล ตั้งแต่การให้บริการเอไอที่สามารถช่วยอนุมัติสินเชื่อ (Credit Approval Platform) และบริการอื่น ๆ ที่เป็นแกนหลักของกลุ่มธนาคารและการเงิน รวมไปถึงบริการวิเคราะห์อารมณ์และความรู้สึกของลูกค้า (Sentiment Analysis) ที่ล้วนเป็นขอบเขตความสามารถของเอไอที่จะทำหน้าที่ช่วยแบ่งเบางานบริหารของธนาคารได้อย่างดีเยี่ยม
AI Energy – เอไอเพื่อกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน
เป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่ทางบริษัทฯ ได้ร่วมงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปี โดยหากอิงจากปริมาณการใช้พลังงานในระดับประเทศที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี จึงส่งผลให้มีความต้องการในการนำเอไอไปใช้งานกับธุรกิจกลุ่มพลังงานในระดับประเทศในหลากหลายรูปแบบ เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน เกิดการใช้พลังงานหมุนเวียนจากสิ่งแวดล้อมและพลังงานทางเลือก และรับกับกระแสการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งมีการนำเอไอไปใช้ในกระบวนการจัดการและคาดการณ์การใช้พลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยในการทำธุรกรรมด้านพลังงานภายในอุตสาหกรรมพลังงาน และช่วยสร้างสมดุลด้านสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นจริงอย่างยั่งยืน โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทฯ ได้มีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนด้านการซื้อขายพลังงานเสรีในนาม “บริษัท รีเนกซ์ เทคโนโลยี จำกัด” (RENEX TECHNOLOGY) เพื่อดำเนินการประกอบธุรกิจพัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าโดยตรงสำหรับลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมและผู้ใช้บริการอื่น ๆ ระหว่างผู้ผลิตและผู้ใช้ไฟฟ้า (Peer-to-Peer) หรือการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าโดยไม่ผ่านคนกลาง โดยใช้ระบบ Two-Sided Bidding Algorithm ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน
AI Security – เอไอเพื่อกลุ่มธุรกิจด้านความปลอดภัย
เป็นกลุ่มธุรกิจที่เรามีศักยภาพในการขยายการบริการได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ทางบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญ และให้ความสำคัญทั้งการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นมาโดยตลอด ทั้งในส่วนของเทคโนโลยี Computer Vision และกล้องตรวจจับอัจฉริยะจากเอไอ ซึ่งรวมถึงการให้บริการในระบบยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (NDID) และการยืนยันตัวบุคคลผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-KYC) เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมมออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ และในอนาคตอันใกล้ เรามุ่งต่อยอดไปสู่บริการด้านระบบความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ เพื่อช่วยสร้างความปลอดภัยให้ธุรกิจจากภัยคุกคามทางดิจิทัล
AI Asset Management – เอไอเพื่อกลุ่มธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์
ด้วยบุคคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและรอบรู้ในเรื่องการบริหารจัดการกองทุน โดยการใช้เครื่องมือเอไอในการบริหารสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งบริษัทฯ เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับผู้จัดการกองทุน ด้วยการใช้เครื่องมือเอไอในการบริหารจัดการกองทุนในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งกองทุนภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเรามีความมุ่งมั่นจะดำเนินการขยายการบริการให้กับกลุ่มธุรกิจนี้ต่อไปเพื่อช่วยผลักดันให้ธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ในการบริหารกองทุนให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด
“จากกลยุทธ์ในปี 2566 ที่มุ่งเน้นการเป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจทั้ง 6 ประเภทนี้ ประกอบกับความเชี่ยวชาญของบุคคลากรด้านไอทีจากหลากหลายสัญชาติและความเชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจในแต่ละอุตสาหกรรมของเซอร์ทิส บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่า จะสามารถดำเนินการตามแผนธุรกิจและต่อยอดการบริการให้ครอบคลุมถึงความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องแบบก้าวกระโดด” นายธัชกรณ์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินธุรกิจในปี 2565 ที่ผ่านมา ตอกย้ำถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทได้เป็นอย่างดี กับความเชื่อมั่นว่า การบริการด้านที่ปรึกษาและการจัดการข้อมูล รวมถึงการสร้างระบบหรือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่เหมาะสมกับแต่ละองค์กรนั้นจะยังคงเป็นสิ่งที่มีความต้องการสูงและสามารถขยายการบริการได้อย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยรวมถึงภูมิภาคใกล้เคียง เปรียบเสมือนกลไกสำคัญที่เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้ดำเนินต่อไปอย่างไม่สะดุด ในยุคที่มีการแข่งขันที่สูงขึ้นในโลกยุคดิจิทัลที่ทุกธุรกิจต่างต้องปรับตัวและปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการด้วยตัวช่วยทางเทคโนโลยี ถือเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญเพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้ทันคู่แข่งและบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน