OPPO จัดแสดงสมาร์ตโฟนจอพับระดับแฟลกชิปรุ่นล่าสุด OPPO Find N2 Flip และชุดนวัตกรรม Smart Living ที่งาน MWC 2023
OPPO จัดแสดงเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดมากมายที่งาน Mobile World Congress 2023 (MWC2023) ภายในงาน OPPO ไม่เพียงแต่จัดแสดงอุปกรณ์ระดับแฟลกชิปที่ได้รับการคัดสรรอย่าง OPPO Find N2 Flip ขนาดพกพา แต่ยังนำเสนอนวัตกรรมชั้นนำจาก Smart Initiatives อย่าง smart entertainment, smart productivity, smart health และ smart learning เช่น OPPO Wi-Fi 6 Router AX5400, OPPO Zero-Power Tag, MariSilicon Y Bluetooth audio SoC, OHealth H1 family health monitor, OPPO Air Glass 2 และอื่นๆ ด้วยการมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่ดีขึ้นผ่านนวัตกรรมอันทรงคุณค่าเหล่านี้ OPPO พร้อมตอกย้ำจุดยืนในฐานะบริษัทที่มุ่งเน้นความพยายามในการปลดล็อกความเป็นไปได้ใหม่ๆ สำหรับการใช้ชีวิตแบบอัจฉริยะในอนาคต
“ในฐานะแบรนด์สมาร์ตโฟนที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก OPPO ได้จัดแสดงนวัตกรรมที่งาน MWC 2023 ตั้งแต่สมาร์ตโฟนจอพับระดับแฟลกชิปไปจนถึงเทคโนโลยีล่าสุดที่อยู่เบื้องหลัง Internet of Experience ด้วยการนำความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่ๆ มาสู่ตลาด เรากำลังปลดล็อกความเป็นไปได้ใหม่ๆ สำหรับการใช้ชีวิตแบบอัจฉริยะ เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ของเราทั่วโลกได้ดียิ่งขึ้น” Billy Zhang, President of Overseas Sales and Service, OPPO กล่าว
ปฏิวัติประสบการณ์ใช้งานสมาร์ตโฟนพับได้แบบแนวตั้ง OPPO Find N2 Flip พร้อมเปลี่ยนสมาร์ตโฟนฝาพับให้เป็นตัวเลือกแรกของผู้ใช้
OPPO Find N2 Flip สมาร์ตโฟนจอพับแนวตั้งเครื่องแรกของ OPPO ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ลอนดอน ได้กลายเป็นจุดดึงดูดที่สำคัญสำหรับบูธของ OPPO
สมาร์ตโฟนจอพับระดับแฟลกชิปขนาดพกพานี้จะวางจำหน่ายในยุโรปตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ด้วยการออกแบบที่พลิกโฉมและสร้างสรรค์ รวมถึงประสบการณ์การใช้งานที่เหนือชั้น คาดว่าจะทำให้สมาร์ตโฟนจอพับเป็นรูปแบบที่ผู้ใช้จำนวนมากขึ้นทั่วโลกเลือกใช้
OPPO Find N2 Flip และ OPPO Find N2 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาร์ตโฟนผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของ UEFA Champions League โดยได้ Michael Owen และ Luis Garcia แอมบาสเดอร์ของ UEFA Champions League และดาวเด่นในวงการฟุตบอลมาร่วมงานกับ OPPO ในวันแรกของงาน MWC กลายเป็นผู้ใช้ทั่วโลกรายแรกที่ได้สัมผัส OPPO Find N2 Flip อันน่าทึ่ง
นอกจาก OPPO Find N2 Flip แล้ว ผู้เข้าชมบูธ OPPO ยังจะได้สัมผัสกับสมาร์ตโฟนระดับแฟลกชิปของ OPPO เช่น OPPO Find N2 และผลิตภัณฑ์ IoT เช่น OPPO Enco X2, OPPO Watch 3 Pro, OPPO Pad และ OPPO 45W Liquid Cooler
OPPO มุ่งเน้น Smart Living Initiatives โชว์ความสำเร็จใน “Virtuous Innovation”
โดยมุ่งเน้นที่ Smart Living Initiatives ทั้งสี่อย่าง smart entertainment, smart productivity, smart health, และ smart learning โดย OPPO ได้นำความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจำนวนมากมาสู่งาน มอบวิธีการที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ที่ชาญฉลาดและเชื่อมต่อกันในอนาคต
ใน “smart productivity” OPPO ได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีการสื่อสารเพิ่มเติม OPPO Wi-Fi 6 Router AX5400 ซึ่งใช้แพลตฟอร์ม Qualcomm® Immersive Home 216 เป็นผลิตภัณฑ์เราเตอร์ Wi-Fi ตัวแรกของ OPPO ที่รองรับมาตรฐาน Wi-Fi 6 AX5400 และสามารถให้บริการ Wi-Fi dual-band 2.4GHz+5GHz สัญญาณ Wi-Fi ในเวลาเดียวกัน การรวมกันของเสาสัญญาณรับสัญญาณสูง อัลกอริธึมป้องกันการรบกวนที่พัฒนาขึ้นเองของ OPPO และเทคโนโลยีการเร่งทิศทางเครือข่ายช่วยให้ Wi-Fi มีความครอบคลุมที่กว้างขึ้น ความเสถียรและความเร็วที่มากขึ้น รูปลักษณ์ทรงกระบอกที่สง่างามพร้อมเสาสัญญาณที่ซ่อนไว้ทำให้เข้ากับบ้านสมัยใหม่สไตล์มินิมอลได้อย่างลงตัว ในขณะที่โครงสร้างภายในที่เป็นเอกลักษณ์ช่วยกระจายความร้อนได้ดีขึ้น ทำให้มั่นใจได้ถึงการเชื่อมต่อที่ต่อเนื่องครอบคลุมทุกมุมของบ้าน
OPPO Zero-Power Tag เป็นอุปกรณ์ต้นแบบเครื่องแรกที่ใช้เทคโนโลยี OPPO Zero-power Communication โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่สำคัญ เช่น การเก็บเกี่ยวสัญญาณ RF การกระจายสัญญาณย้อนกลับ และการประมวลผลที่ใช้พลังงานต่ำ โดยจะรวบรวมคลื่นวิทยุจากพื้นที่โดยรอบเพื่อขับเคลื่อนการทำงานของตนเอง และสื่อสารโดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของ IoT ในยุค 6G ที่กำลังจะมาถึง นี่เป็นครั้งแรกที่ OPPO ได้แสดงความสามารถของ OPPO Zero-Power Tag ในการวิเคราะห์และระบุตำแหน่ง และการรวบรวมข้อมูลจากเซ็นเซอร์อุณหภูมิซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงาน RF
OPPO ยังจัดแสดงความสำเร็จในโครงการ Smart Initiatives อื่น ๆ เช่น Bluetooth audio SoC ระดับแฟลกชิปตัวแรกของ OPPO ที่พัฒนาขึ้นเอง, MariSilicon Y, AR glasses น้ำหนักเบารุ่นใหม่, OPPO Air Glass 2, อุปกรณ์แนวคิดการตรวจสอบสุขภาพครอบครัวเครื่องแรกของ OPPO OHealth H1 และชิปจัดการพลังงานแบบครบวงจรตัวแรกของ OPPO SUPERVOOC S เป็นต้น
นอกจากนี้ OPPO ยังได้ร่วมจัดแสดงความสำเร็จทางเทคโนโลยีกับพันธมิตรต่างๆ รวมถึงข้อเสนอที่ได้รับการคัดเลือกจาก OPPO Research Institute Innovation Accelerator: EEG Hearables จาก IDUN Technologies และถุงมือของ Cynteract ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บที่มือสามารถฟื้นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เทคโนโลยี Ray Tracing ที่เร่งด้วยฮาร์ดแวร์บน Snapdragon® 8 Gen 2 Mobile Platform; ฟีเจอร์ใหม่ของ Android เช่น Nearby Share และ Fast Pair บนสมาร์ตโฟนระดับแฟลกชิปของ OPPO และการทดลองใช้ Google One และ YouTube Premium นานสูงสุด 6 เดือนกับอุปกรณ์ OPPO บางรุ่น
OPPO ยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคมและมุ่งมั่นที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในการดำเนินงานทั่วโลกภายในปี 2050
ภายใต้พันธกิจขององค์กรอย่าง “Technology for Mankind, Kindness for the World” OPPO ได้ดำเนินการเพื่อรวมความยั่งยืนเข้ากับกลยุทธ์การพัฒนาระยะยาว โดยภายในสิ้นปี 2022 OPPO สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานได้ 6,000 ตันต่อปี เริ่มต้นที่ตลาดยุโรปในปี 2023 OPPO จะนำพลาสติกเกือบทั้งหมดออกจากบรรจุภัณฑ์ภายนอกของผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ และจะรับรองว่าวัสดุบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดทำจากวัสดุที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ 100%
OPPO commits to achieving carbon neutrality across its operations by 2050
ในวันเปิดงาน MWC2023 OPPO ยังได้เผยแพร่รายงาน Climate Action Report ฉบับแรก นั่นคือ OPPO Climate Action Report: Climate Pledges and Low Carbon Development Strategy ซึ่งพัฒนาร่วมกับ Deloitte ที่ปรึกษาระดับโลก โดยรายงานได้เสนอเป้าหมายของ OPPO ในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในการดำเนินงานทั่วโลกภายในปี 2050 และร่างแผนในอนาคตสำหรับการพัฒนาคาร์บอนต่ำ ด้วยแผนเหล่านี้ OPPO พร้อมเปลี่ยนธุรกิจทั้งหมดให้เป็นองค์กรคาร์บอนต่ำ