ถอดบทสัมภาษณ์ คุณ อยุช บาทรา ผู้อำนวยการฝ่าย Technology Enablement บริษัท อินเทล คอร์ปอเรชัน
บริษัท อินเทล ได้จัดงานแถลงข่าวใหญ่เปิดตัวผลิตภัณฑ์สำคัญหลายตัว หนึ่งในนั้นคือ Intel Xeon เจนเนอเรชั่น 4 ซีพียูระดับไฮเอนต์ ที่จะตอบโจทย์การประมวลผลแห่งอนาคต อกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การทำงานของดาต้าเซ็นเตอร์ยุคใหม่ รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI) คลาวด์ เครือข่ายและเอดจ์ และซูเปอร์คอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ
นอกจากจะเป็นการนำเสนอประสิทธิภาพของซีพียู Xeon แล้ว ยังมีการเปิดตัว โมบายซีพียู Intel Core เจนเนอเรชั่น 13 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ได้ผสานประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าเข้าไว้ด้วยกันในแพลตฟอร์มสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ พร้อมนำเสนอ Intel® Arc จีพียูแบบใช้งานแยกอีกด้วย
ภายในงานทีมกองบรรณาธิการของ Enterprise Tech Review ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณอยุช บาทรา หนึ่งในผู้บริหารคนสำคัญของภูมิภาค ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่าย Technology Enablement ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ของบริษัท อินเทล
โดยเราขอสรุปเนื้อหาจากการพูดคุยในวันนั้นมาให้ทราบกัน
ปัจจุบันอินเทลเปลี่ยนจากขายเพียงแค่ CPU แต่เพียงอย่างเดียว แต่มุ่งสร้างโซลูชันต่าง ๆ ให้กับลูกค้า
Ayush Batra: สิ่งสำคัญคือ เราต้องการแก้ปัญหาของลูกค้า ร่วมกับคู่ค้า เพราะลูกค้าของพวกเราไม่เพียงแค่ซื้อชิป แต่พวกเขาซื้อโซลูชันสำหรับผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ของพวกเขา
ดังนั้น ทีมของผมจึงทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะแก้ปัญหาเฉพาะของลูกค้าได้อย่างตรงจุดผ่านเทคโนโลยีของอินเทล และการจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้นั้น เราต้องมีโซลูชันที่มีความยืดหยุ่นเพื่อตอบโจทย์ต่อปริมาณความต้องการเวิร์กโหลดที่แตกต่างกัน และยังตอบโจทย์ความต้องการด้านการเร่งความเร็วที่เหมาะสมในลูกค้าแต่ละราย
ซีพียู Intel Xeon เจนเนอเรชั่น 4 มีบทบาทและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมในไทยอย่างไรบ้าง
Ayush Batra: โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว ลูกค้าของเราในประเทศไทย รวมถึงลูกค้าทั่วไปกำลังมองหาการปรับใช้ปริมาณงานตามขนาด และปริมาณงานเหล่านั้นก็กลายเป็นความท้าทายอย่างมากเช่นกัน พวกเขาต้องการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่นปัญญาประดิษฐ์ 5G หรือกำลังมองหาระบบที่สามารถช่วยขยายประสิทธิภาพการประมวลผลระบบของพวกเขาได้ ซึ่งแพลตฟอร์ม Intel Xeon ได้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้
อย่างที่คุณเห็น ปริมาณงานนั้นมีความแตกต่างกันออกไปตามลักษณะโครงสร้าง และองค์กร พวกเขาเหล่านี้กำลังมองหาพาร์ทเนอร์ที่สามารถส่งมอบประสิทธิภาพระดับสูงได้ผ่านโซลูชันที่มีคุณภาพสูงและยั่งยืน อย่างที่คุณเห็นจากการนำเสนอจากเหล่าพาร์ทเนอร์ของเรา ทุกคนต่างพูดและยึดถือคำว่า “ความยั่งยืน (Sustainability)” เป็นประเด็นสำคัญ
แพลตฟอร์ม Intel Xeon เจนเนอเรชั่น 4 จึงมาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่ ๆ มากมายเพื่อช่วยลูกค้าแก้ปัญหาสำคัญ ๆ ด้านการประมวลผลที่ท้าทาย ไม่ว่าจะเป็น AI, เครื่องมือวิเคราะห์, ระบบเครือข่าย, ความปลอดภัย, การจัดเก็บข้อมูล และระบบคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง (High Performance Computing: HPC)
ด้วยปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ หากคุณพิจารณาดู สิ่งเหล่านี้คือส่วนที่แพลตฟอร์ม Intel Xeon สามารถแก้ปัญหาเฉพาะด้านได้ ไม่ว่าจะเป็นตามเวิร์กโหลด เรากำลังนำเสนอแพลตฟอร์ม Intel 4th Gen Xeon ซึ่งเป็น Xeon ที่มีความยั่งยืนที่สุดเท่าที่เคยมีมา เรากำลังบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนเหล่านั้น และในขณะเดียวกัน เรากำลังมอบความยืดหยุ่นและโซลูชันที่สามารถปรับได้ ให้แก่ลูกค้าของเราเพื่อให้พวกเขาสามารถปรับใช้ได้ตามขนาด
สุดท้ายนี้ Intel Xeon มาพร้อมกับฟีเจอร์ความปลอดภัยที่หลากหลาย และเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าพวกเขาสามารถมีแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ เพื่อช่วยปกป้องข้อมูลในขณะที่ปลดล็อกโอกาสใหม่สำหรับข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจ
กราฟผลการทดสอบ ที่แสดงประสิทธิภาพที่ดีขึ้น อยู่ที่แอปพลิเคชันได้รับการ Optimized มาแล้วใช่ไหม
Ayush Batra: โดยทั่วไปแล้ว เวลาที่เรานำเสนอคุณสมบัติใหม่ ๆ บนแพลตฟอร์ม Xeon®เราก็จะทำงานร่วมกับผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อิสระ (Independent Software Vendors) และเหล่านักพัฒนาซอฟต์แวร์ Open Sourceไปพร้อม ๆ กันเพื่อให้พวกเขาและแอปพลิเคชันของพวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากโปรเซสเซอร์ใหม่และแพลตฟอร์มใหม่ที่เราพัฒนาขึ้นมาได้ ทั้งในแง่ของซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ และนั่นคือโซลูชันทั้งหมดที่มารวมกันเพื่อแก้ปัญหาความท้าทายของเหล่าลูกค้าของเรา
ซีพียู Xeon Sapphire Rapids ตัวใหม่นี่จะถูกนำไปใช้ที่ Edge ด้วยหรือไม่
หรืออยู่บน Data Centre อย่างเดียว
Ayush Batra: อย่างที่ทุก ๆ คนทราบว่าเรากำลังผลักดันให้ศูนย์ข้อมูลเข้าสู่ยุคใหม่ ตั้งแต่ Edge ไปจนถึง Hyperscale Cloud ดังนั้น เราจึงให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์จำพวก IPU และหน่วยความจำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผลิตภัณฑ์สำหรับศูนย์ข้อมูลของเรา
เหตุผลที่เราเรียกโปรเซสเซอร์ Xeon Scalable ของเราว่า “Scalable” เพราะมันได้รับการออกแบบเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของสถานที่สำหรับรองรับ Edge Computing (Edge locations) เหล่านั้นได้ โดยมันยังถูกออกแบบมาเพื่อการจัดการพลังงานและการระบายความร้อนที่ดี
ในขณะเดียวกัน เราก็ยังคงตั้งใจที่จะตอบโจทย์ความคาดหวังในการปฏิบัติงานขั้นสูง สำหรับระบบคลาวด์และศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ ที่จำเป็นต้องมีการประมวลผลระดับสูง ความสามารถในการ “Scale” ที่มากกว่า นี่จึงเป็นข้อพิสูจน์ว่าแพลตฟอร์ม Xeon ของมีความยืดหยุ่นมาก เพื่อให้ผู้ใช้งานของเราสามารถประยุกต์ใช้งานได้อย่างราบรื่น ไร้รอยต่อ
ที่คุณได้พบในวันนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพาร์ทเนอร์ของเรา โดยพวกเขาเป็นพาร์ทเนอร์รายใหญ่ที่คุณน่าจะรู้จักในประเทศไทย นอกจากนี้ เรายังมีพาร์ทเนอร์อีกมากมายในประเทศไทยที่กำลังนำแพลตฟอร์ม Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่น 4 ที่อยู่บนพื้นฐานของคลาวด์ไปใช้
ซีพียู Intel Xeon ได้ถูกจำหน่ายให้ผู้บริการ Edge หรือคลาวด์และลูกค้า ในประเทศไทยแล้วหรือยัง
Ayush Batra: แพลตฟอร์มที่มีโปรเซสเซอร์Intel® Xeon® สามารถพบได้แล้วในหลาย ๆ อุตสาหกรรมในประเทศไทย แม้ Intel® Xeon® Scalable เจนเนอเรชั่น 4จะเพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน แต่คุณก็สามารถพบมันได้แล้วในลูกค้าหลาย ๆ รายของเรา ในหลาย ๆ แพลตฟอร์ม โดยอินเทลมุ่งมั่นที่จะรับฟังความคิดเห็นจากเหล่าผู้ใช้และลูกค้าของเรา เพื่อทำให้ โปรเซสเซอร์Intel® Xeon®เจนเนอเรชั่นนี้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด
การทำงานร่วมกับ Software Vendor/Developer อย่างเช่นการ Optimize product ให้สามารถทำงานกับตัว Intel Xeon ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปกติแล้วจะมีระยะเวลาในการดำเนินการ การเตรียมงาน การทดสอบก่อนจะเปิดตัวจริง นานแค่ไหน
Ayush Batra: เราได้มีการเริ่มทดสอบและลองผิดลองถูกไปกับเหล่าผู้ใช้และลูกค้าของเรามาหลายปีเพื่อให้แพลตฟอร์มที่มีโปรเซสเซอร์ Xeon® สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด
รายละเอียดเชิงเทคนิคเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และ ISA สามารถดูได้จากที่นี่
- Open Source Software Ready to Maximize Value of New Intel Hardware
- oneAPI 2023 Tools Maximize Value of Intel Hardware
ส่วนในเรื่องของการใช้งานและระยะเวลาในการปรับแต่งต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพแวดล้อมและการปรับแต่งระบบของลูกค้า