November 24, 2024

โซนี่ไทยเปิดตัวทีวี BRAVIA XR รุ่นใหม่ประจำปี 2022 ยกระดับความบันเทิงด้วยเทคโนโลยีประมวลผลอัจฉริยะ

บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เปิดตัวผลิตภัณฑ์ทีวีบราเวีย (BRAVIA) รุ่นใหม่ประจำปี 2022 กว่า 21 รุ่น นำโดย BRAVIA XR OLED TV (บราเวีย เอ็กซ์อาร์ โอแอลอีดี ทีวี) ในซี่รี่ส์ A90K, และ A80K รวมถึง BRAVIA 4K LED TV (บราเวีย โฟร์เค แอลอีดี ทีวี) ในซี่รี่ส์ X90K, X85K, X80K และ X75K ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีภาพและเสียงสุดล้ำ รวมถึงฟังก์ชั่นความบันเทิงที่ครบครัน ด้วยการออกแบบอย่างพิถีพิถันและเรียบง่ายสไตล์มินิมอล พร้อมสร้างประสบการณ์การรับชมได้อย่างมีอรรถรส และสมบูรณ์แบบ

จุดเด่นของ BRAVIA XR Line-up ปี 2022

  • ระบบประมวลผล Cognitive Processor XR™ – เป็นระบบประมวลผลที่อยู่บน Sony BRAVIA XR™ ที่พร้อมจะนำคุณไปสู่อีกระดับของภาพ และเสียง โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อจำลองแบบการมองเห็น และการได้ยินของมนุษย์ พร้อมสร้างประสบการณ์เสียงที่สมจริงได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งยังสามารถวิเคราะห์ปรับปรุงองค์ประกอบของภาพโดยเฉพาะจุดโฟกัส เพื่อให้ผู้ใช้เพลิดเพลินไปกับคอนทราสต์ของภาพที่โดดเด่น รวมถึงให้สีสันที่สดใสสมจริงในทุกมุมมอง
  • เทคโนโลยี Acoustic Surface Audio+™/ Acoustic Multi-Audio™ – จะทำหน้าที่เปลี่ยนหน้าจอให้เป็นลำโพงแบบ Multi-Channel ทำให้คุณได้ยินเสียงที่ตรงกับสิ่งที่อยู่บนหน้าจอได้อย่างแม่นยำ พร้อมมอบประสบการณ์ภาพและเสียงที่ชวนดื่มด่ำได้อย่างแท้จริง
  • เทคโนโลยี 360 Spatial Sound Personalizer – เมื่อใช้ร่วมกับทีวี BRAVIA XR™ จะมอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่ปรับให้เหมาะสมที่สุดเมื่อคุณใช้งานร่วมกับลำโพงไร้สายแบบคล้องคอ (Neckband) อาทิ SRS-NS7 รวมถึงหูฟังโซนี่ในรุ่นอื่น ๆ ที่รองรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์เสียงของโซนี่ – BRAVIA XR™ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์เสียงของโซนี่ อาทิ ระบบโฮมเธียเตอร์ และซาวด์บาร์ระดับเรือธงในตระกูล HT-A Series” ได้แก่ HT-A9 และHT-A7000 รวมถึง HT-A5000 (วางจำหน่ายตุลาคม 65) ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี 360 Spatial Sound Mapping ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่อยู่ในรุ่น HT-A7000 และ HT-A5000 จะสร้างลำโพง Phantom ที่ได้รับการจัดเรียงอย่างเหมาะสมจะช่วยสร้างสนามเสียงที่กว้างและสมจริงยิ่งขึ้น ผสานการทำงานร่วมกับ Acoustic Center Sync จะเป็นช่องสัญญาณกลางระหว่างระบบโฮมเธียเตอร์หรือซาวด์บาร์จะช่วยให้เสียงตรงกับการเคลื่อนไหวบนหน้าจอได้อย่างสมบูรณ์แบบ
  • รองรับ BRAVIA CAM – รองรับการเชื่อมต่อ BRAVIA XR TV เข้ากับ BRAVIA CAM ที่จำหน่ายแยกต่างหาก พร้อมมอบประสบการณ์การรับชมที่สมจริงยิ่งขึ้น โดย BRAVIA CAM จะจดจำวาคุณอยู่ตำแหน่งใดในห้องและคุณอยู่ห่างจากทีวีเท่าใด จากนั้นจึงทำการปรับการตั้งค่าเสียงและภาพให้เหมาะสม เพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับประสบการณ์ที่สนุกสนานด้วย BRAVIA CAM รวมถึงสามารถสั่งการผ่านท่าทาง, แชท, วิดีโอ และอื่นๆ อีกมากมายอีกด้วย
  • Ambient Optimization Pro – ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ BRAVIA XR TV กับ BRAVIA CAM เพื่อให้เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การรับชมได้อย่างมีอรรถรส ด้วยเทคโนโลยี Ambient Optimization Pro ที่ไม่เหมือนใครพร้อมเซนเซอร์แสงจะปรับภาพและเสียงให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของคุณได้โดยอัตโนมัติ
  • ระบบปฏิบัติการ Google TV – สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงรูปแบบใหม่จาก Google TV ในการรวบรวมภาพยนตร์และรายการที่ถ่ายทอดสดมากกว่า 700,000 รายการมาไว้ในแอปพลิเคชั่น ในขณะที่การสมัครรับข้อมูลและการจัดระเบียบคอนเทนต์ เพื่อให้ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการรับชมได้อย่างง่ายดาย โดยมาพร้อมคำแนะนำส่วนบุคคลและการบันทึกรายการ และภาพยนตร์ไว้ในเพลย์ลิสต์ สำหรับการติดตามและรับชมก็สามารถทำได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยผู้ใช้สามารถเพิ่มรายการที่ชื่นชอบลงในโทรศัพท์มือถือหรือแล็ปท็อปได้ด้วย Google Search อีกด้วย
  • รีโมทระดับพรีเมี่ยม – รีโมทอลูมิเนียมรูปแบบใหม่มาพร้อมปุ่มที่ใช้งานง่ายและไฟ Backlight ช่วยให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นทุกสิ่งได้อย่างชัดเจนแม้ในที่มืด หมดกังวลในการทำรีโมทหายอีกต่อไป ด้วยฟังก์ชัน Finder โดยผู้ใช้สามารถบอกให้ทีวีค้นหารีโมทได้อีกด้วย
  • โหมด BRAVIA CORE Calibrated – เป็นบริการสตรีมมิ่งที่มีภาพยนตร์จำนวนมากรอให้คุณรับชม ซึ่งถูกติดตั้งไว้เรียบร้อยแล้วบน BRAVIA XR รุ่นปี 2022 โดยคุณสามารถ Redeem ภาพยนตร์ได้สูงสุดถึง 10 เรื่อง และสตรีมมิ่งแบบไม่จำกัดสูงสุดถึง 24 เดือน ผ่านทาง BRAVIA XR TV นอกจากนี้เทคโนโลยี BRAVIA XR, Pure Stream™ และ IMAX® Enhanced ยังทำให้ทุกสิ่งที่คุณรับชมได้รับการถ่ายทอดด้วยภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจและคุณภาพเสียงที่น่าประทับใจ ด้วยโหมด BRAVIA CORE Calibrated จะทำการปรับการตั้งค่าภาพได้โดยอัตโนมัติ เพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ที่บ้านได้อย่างยอดเยี่ยม 
  • โหมด Netflix Adaptive Calibrated – เป็นโหมดการแสดงผลใหม่ที่ใช้ประโยชน์จากเซ็นเซอร์วัดแสงรอบข้างที่อยู่ใน BRAVIA XR ของโซนี่ ผสานการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่าง Sony กับ Netflix จะทำให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับเนื้อหา Netflix ในคุณภาพระดับสตูดิโอที่น่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยสีและคอนทราสต์ที่แม่นยำ รวมถึงการเคลื่อนไหวที่สมจริง ไม่ว่าเนื้อหาที่รับชมจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มืดหรือมีแสงสว่างเพียงพอก็ตาม
  • Perfect for PlayStation®5 – เมื่อจับคู่ BRAVIA XR TV กับคอนโซล PlayStation®5 คุณจะได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม รวมถึงสามารถปรับแต่งภาพให้เหมาะสมกับคอนโซล PlayStation®5 โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าคุณจะเล่นเกม หรือชมภาพยนตร์ คุณจะได้ภาพและเสียงที่สมจริงราวกับอยู่ในเกมหรือภาพยนตร์นั้นๆเลยทีเดียว ทั้งยังมาพร้อมจอแสดงผลแบบ 4K ที่ 120fps พร้อมช่องต่อแบบ HDMI ที่ให้คุณเพลิดเพลินไปกับการเคลื่อนไหวในเกมที่ราบรื่นและประสิทธิภาพในการตอบสนองที่ฉับไว
  • การออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม – โซนี่มุ่งมั่นในการพัฒนาตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงประสบการณ์ในการรับชม โดยในปีนี้โซนี่เลือกใช้พลาสติกรีไซเคิล  SORPLAS™ ที่พัฒนาโดยโซนี่ ซึ่งเป็นวัสดุรีไซเคิล 99% ช่วยให้ลดปริมาณการใช้พลาสติกบริสุทธิ์ลงไปได้ถึง 60% นอกจากนี้ขนาดบรรจุภัณฑ์สำหรับทีวียังลดลงประมาณ 15% ทำให้สามารถลดการใช้หมึกลงได้ถึง 90% และลดพลาสติกลงไปได้ถึง 35% เลยทีเดียว ในขณะเดียวกัน BRAVIA CAM ยังช่วยประหยัดพลังงานในขณะที่ผู้ชมไม่ได้อยู่ที่หน้าทีวีอีกด้วย

ผลิตภัณฑ์ทีวีบราเวียรุ่นใหม่จากโซนี่ ประกอบด้วย

  • BRAVIA XR OLED TV รุ่น A90K

เป็นทีวีระดับพรีเมี่ยมในตระกูล BRAVIA XR OLED TV ขนาดพิเศษ 48” ที่มาพร้อมชิปประมวลผลอันชาญฉลาดอย่าง Cognitive Processor XR™ ซึ่งเป็นระบบประมวลผลแบบใหม่ที่เหนือกว่า AI ทั่วไป ได้รับการออกแบบมาเพื่อจำลองแบบการมองเห็นและการได้ยินของมนุษย์ อีกทั้งยังทำการวิเคราะห์ข้อมูลปรับปรุงภาพในลักษณะเดียวกับที่สายตามนุษย์โฟกัส ทั้งยังผสานการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี XR OLED Contrast Pro ที่จะทำหน้าที่ปรับความสว่างให้สว่างเจิดจรัสในที่แสงจ้าและเงาในส่วนมืดที่ดำสนิท รวมถึง XR Triluminos Pro™ ช่วยให้จอแสดงผลที่เป็นเอกลักษณ์สามารถเข้าถึงขอบเขตสีที่กว้างขึ้น ทำให้การแสดงสีมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยได้อย่างครบถ้วน ทำให้เฉดสีสดใสและพื้นผิวที่สมจริงอีกด้วยในขณะที่โหมดBRAVIA CORE Calibrated จะทำหน้าที่ปรับการตั้งค่าภาพได้โดยอัตโนมัติ เพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ที่บ้านได้อย่างยอดเยี่ยม  รวมถึงเทคโนโลยี Acoustic Surface Audio+ และAcoustic Center Sync ยังมอบตำแหน่งเสียงที่แม่นยำยิ่งขึ้นและให้เสียง  เซอร์ราวด์แบบภาพยนตร์ ทำให้ภาพและเสียงมีความกลมกลืนกันอย่างสมบูรณ์แบบ  ทั้งยังรองรับอุปกรณ์เสริมอย่าง BRAVIA CAM และเทคโนโลยี Ambient Optimization Pro ที่ทำหน้าที่ปรับคุณภาพของภาพและเสียงให้เข้ากับทุกสภาพแวดล้อมของผู้รับชมโดยอัตโนมัติ อีกทั้งสามารถรับชมประสบการณ์ความบันเทิงรูปแบบใหม่จากระบบปฏิบัติการ Google TV ที่รวบรวมภาพยนตร์และรายการที่ถ่ายทอดสดมากกว่า 700,000 รายการมาไว้ในแอปพลิเคชั่น โดยผู้ใช้สามารถเพิ่มรายการที่ชื่นชอบลงในโทรศัพท์มือถือหรือแล็ปท็อปได้ด้วย Google Search อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังรองรับ Hand Free Voice Capabilities เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมได้อย่างมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น โดยมาพร้อมรีโมทแบบพรีเมี่ยมที่ได้รับการออกแบบมาให้มีปุ่มกดที่ใช้งานง่ายและไฟ Backlight ช่วยให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นทุกสิ่งได้อย่างชัดเจนแม้ในที่มืด หมดกังวลในการทำรีโมทหายอีกต่อไป ด้วยฟังก์ชัน Finder ทำให้ผู้ใช้สามารถบอกให้ทีวีค้นหารีโมทได้อีกด้วย โดย BRAVIA XR OLED TV Master Series รุ่น A90K ขนาดพิเศษ พร้อมวางจำหน่ายสิ้นเดือนกรกฎาคมศกนี้

  • BRAVIA XR OLED TV รุ่น A80K

เป็นทีวีระดับพรีเมี่ยมในตระกูล BRAVIA XR OLED TV ที่มอบคุณภาพของภาพที่ดีที่สุดด้วยความละเอียดหน้าจอ 8 ล้านพิกเซล และ 4K HDR ที่ให้คุณรับชมภาพที่เป็นธรรมชาติ สีสันสมจริง และคอนทราสต์ที่แม่นยำ มาพร้อมชิปประมวลผลภาพอันทรงพลังอย่าง Cognitive Processor XR™ ซึ่งเป็นระบบประมวลผลแบบใหม่ที่เหนือกว่า AI ทั่วไป ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อจำลองแบบการมองเห็นและการได้ยินของมนุษย์ อีกทั้งยังทำการวิเคราะห์ข้อมูลปรับปรุงภาพในลักษณะเดียวกับที่สายตามนุษย์โฟกัส ที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี XR OLED Contrast Pro ทำหน้าที่ปรับความสว่างให้สว่างอย่างสูงสุดในที่แสงจ้าและเงามืดที่ดำสนิท รวมถึง XR Triluminos Pro ที่ช่วยให้จอแสดงผลที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ภาพมีสีสันสดใสและพื้นผิวที่สมจริงมีมิติเหมือนต้นฉบับ อีกทั้งยังมาพร้อมโหมดBRAVIA CORE Calibrated ที่จะทำการปรับการตั้งค่าภาพได้โดยอัตโนมัติ เพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ที่บ้านได้อย่างยอดเยี่ยม  ในขณะที่เทคโนโลยี Acoustic Surface Audio+ ที่ใช้ Actuators แบบพิเศษในการเปลี่ยนหน้าจอให้เป็นลำโพงแบบ Multi-Channel เพื่อให้ได้ยินเสียงที่ตรงกับสิ่งที่อยู่บนหน้าจอได้อย่างแม่นยำ โดยทีวีจะประกอบไปด้วย Actuators ถึงสามตัวและซับวูฟเฟอร์สองตัว ซึ่ง Actuators สองตัวใช้สำหรับเสียงแหลม พร้อมมอบเสียงเซอร์ราวด์แบบโรงภาพยนตร์ ทำให้ภาพและเสียงมีความกลมกลืนกันอย่างสมบูรณ์แบบ

ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อม Acoustic Center Sync จะช่วยในการปรับเอาท์พุตจากเสียงทีวีและซาวด์บาร์ให้เหมาะสม เพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงรองรับอุปกรณ์เสริมอย่าง BRAVIA CAM และเทคโนโลยี Ambient Optimization Pro ที่ทำหน้าที่ปรับคุณภาพของภาพและเสียงให้เข้ากับทุกสภาพแวดล้อมของผู้รับชมโดยอัตโนมัติ อีกทั้งสามารถรับชมประสบการณ์ความบันเทิงรูปแบบใหม่จากระบบปฏิบัติการ Google TV ที่สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างง่ายได้ด้วยการออกคำสั่งด้วยเสียงภาษาไทยโดยไม่ต้องใช้รีโมทคอนโทรล ระบบจะส่งคอนเทนต์ต่างๆจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตให้ไปแสดงบนหน้าจอทีวีได้ผ่านทาง Chrome Cast และ Apple Airplay ได้อย่างสะดวก ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆภายในบ้านที่รองรับ Internet of Things ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่เทคโนโลยี XR 4K Upscaling ซึ่งเป็นการยกระดับสัญญาณ 2K ให้ใกล้เคียงกับคุณภาพ 4K ที่แท้จริง เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดสมจริงและมีรายละเอียดอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งยังรองรับ Hand Free Voice Capabilities เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมได้อย่างมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น โดย BRAVIA XR OLED TV รุ่น A80K พร้อมวางจำหน่าย 3 รุ่น 3 ขนาด

  • BRAVIA XR 4K LED TV รุ่น X90K

        นับเป็น 4K LED TV ที่อยู่ในตระกูล BRAVIA XR Series ที่โดดเด่นด้วยจอแสดงผลในระดับ 4K ที่ 120fps สามารถรองรับความละเอียดและความคมชัดได้แม้ในฉากที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับการรับชมกีฬาและวิดีโอแอ็คชั่นได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผลใหม่ล่าสุดอย่าง Cognitive Processor XR™ ที่ถูกออกแบบมาให้เข้าใจการมองเห็นและการได้ยินของมนุษย์ รวมถึงสามารถวิเคราะห์ตำแหน่งเสียงสัญญาณ เพื่อให้เสียงตรงกับสิ่งที่อยู่บนหน้าจอได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังสามารถแปลงเสียงให้เป็นเสียงเซอร์ราวด์แบบ 3 มิติ เพื่อให้ได้ภาพและเสียงที่สมจริง ผสานการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Full Array LED และ XR Contrast Booster ซึ่งเป็นแผงหลอดไฟที่อยู่บริเวณด้านหลังจอ ที่จะช่วยเพิ่มระดับความสว่างบนหน้าจอทีวีให้มากขึ้น พร้อมควบคุมระดับความดำของภาพให้เข้มกว่าการรับชมจากทีวี LED ทั่วไป โดยนำความลึกและรายละเอียดของภาพออกมา เพื่อให้ได้ภาพที่สมจริงสูงสุดด้วยสีดำเข้มและความสว่างสูงสุด รวมถึงเทคโนโลยี XR TRILUMINOS PRO™ ที่จะทำให้ผู้ชมตื่นตาตื่นใจไปกับเฉดสีต่างๆได้อย่างละเอียดและคมชัดมากยิ่งขึ้น ทำให้ได้คุณภาพของภาพที่น่าประทับใจและเป็นธรรมชาติ ในขณะเดียวกันยังมอบสุดยอดความคมชัดที่เหนือกว่าด้วยระบบประมวลผลภาพแบบ XR 4K Upscaling ที่มาพร้อม 4K Resolution เพื่อเพิ่มความละเอียดของภาพให้มากกว่าระดับ Full HD เท่านั้นยังไม่พอยังรองรับ Acoustic Multi-Audio ที่ทำงานร่วมกับลำโพง X-Balanced รวมถึงทวีตเตอร์ควบคุมตำแหน่งเสียง ทำให้เสียงเข้ากันได้ดีกับสิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอได้อย่างแม่นยำ เสมือนเสียงออกจากหน้าจอทีวีเลยทีเดียว

          ในขณะเดียวกัน X90K ยังมาพร้อม Acoustic Center Sync จะช่วยในการปรับเอาท์พุตจากเสียงทีวีและซาวด์บาร์ให้เหมาะสม เพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงโหมดBRAVIA CORE Calibrated ที่จะทำการปรับการตั้งค่าภาพได้โดยอัตโนมัติ เพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ที่บ้านได้อย่างยอดเยี่ยม    อีกทั้งสามารถรับชมประสบการณ์ความบันเทิงรูปแบบใหม่จากระบบปฏิบัติการ Google TV ที่สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างง่ายได้ด้วยการออกคำสั่งด้วยเสียงภาษาไทยโดยไม่ต้องใช้รีโมทคอนโทรล ระบบจะส่งคอนเทนต์ต่าง ๆ จากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตให้ไปแสดงบนหน้าจอทีวีได้ผ่านทาง Chrome Cast และ Apple Airplay ได้อย่างสะดวก ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆภายในบ้านที่รองรับ Internet of Things ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรองรับอุปกรณ์เสริมอย่าง BRAVIA CAM และเทคโนโลยี Ambient Optimization Pro ที่ทำหน้าที่ปรับคุณภาพของภาพและเสียงให้เข้ากับทุกสภาพแวดล้อมของผู้รับชมโดยอัตโนมัติ รวมถึงรองรับการถ่ายทอดสัญญาณภาพ Dolby Vision และระบบเสียง Dolby Atmos เพื่อให้คุณเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นยังโดดเด่นด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายในสไตล์ Minimalist One Slate ด้วยการขยายหน้าจอให้ใหญ่ที่สุดและลดกรอบให้เล็กลง เพื่อให้ผู้ใช้จดจ่ออยู่กับภาพในจอซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการรับชมโดยไม่รบกวนสมาธิแต่อย่างใด มาพร้อมรีโมทที่ใช้งานง่ายและทำความสะอาดง่าย รวมถึงขาตั้งแบบสองทางให้คุณเลือกวางได้อย่างสวยงาม โดย BRAVIA XR 4K LED TV รุ่น X90K พร้อมวางจำหน่าย 4 รุ่น 4 ขนาด

  • BRAVIA 4K LED TV รุ่น X85K

เป็นทีวีระดับพรีเมี่ยมที่มาพร้อมความละเอียดหน้าจอ      8 ล้านพิกเซล และจอแสดงผลในระดับ 4K ที่ 120fps สามารถรองรับการเล่นเกมที่มีความละเอียดสูงและเฟรมเรตที่รวดเร็ว พร้อมมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สมจริงได้อย่างมีอรรถรส ผสานชิปประมวลผล 4K HDR Processor X1™ ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของโซนี่ ทำให้ภาพมีมิติได้อย่างน่าอัศจรรย์มาพร้อมความละเอียดของภาพที่คมชัดและสมจริงและคอนทราสต์ที่ยอดเยี่ยม ทั้งยังโดดเด่นด้วยระบบประมวลผลภาพ 4K X-Reality Pro เพื่อมอบความคมชัดที่เหนือกว่า ที่มาพร้อม 4K Resolution เพื่อเพิ่มความละเอียดของภาพให้มากกว่าระดับ Full HD  รวมถึงTRILUMINOS PRO™    ที่ สามารถแสดงผลให้ภาพที่มีสีสันสมจริงในเฉดสีที่หลากหลายและกว้างขึ้นกว่า LED TV ปกติ ในขณะที่ยังให้คุณเพลิดเพลินไปกับคุณภาพเสียงที่ชัดเจนและเสียงเบสที่ลงลึกด้วยเทคโนโลยีของลำโพง X-Balanced Speaker มาพร้อมขุมพลังจากระบบ ปฏิบัติการ Google TV ที่สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างง่ายได้ด้วยการออกคำสั่งด้วยเสียงภาษาไทยโดยไม่ต้องใช้รีโมทคอนโทรล เพียงพูดคำว่า Hey Google และพูดสิ่งที่คุณต้องการรับชมออกมา ระบบจะส่งคอนเทนต์จากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตให้ไปแสดงบนหน้าจอทีวีได้ผ่านทาง Chrome Cast และ Apple Airplay ได้อย่างสะดวก พร้อมช่องต่อแบบ HDMI รวมถึงรองรับ Digital TV และ  Hand Free Voice Capabilities เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมได้อย่างมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น โดย BRAVIA 4K LED TV รุ่น X85K พร้อมวางจำหน่าย 4 รุ่น 4 ขนาดด้วยกัน

  • BRAVIA 4K LED TV รุ่น X80K

เป็นทีวีระดับพรีเมี่ยมที่มาพร้อมความละเอียดหน้าจอ 8 ล้านพิกเซล ผสานชิปประมวลผล 4K HDR Processor X1™ ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของโซนี่ ทำให้ภาพมีมิติได้อย่างน่าอัศจรรย์มาพร้อมความละเอียดของภาพที่คมชัดและสมจริงเหมือนตาเห็น ทั้งยังโดดเด่นด้วยจอแสดงผลแบบ TRILUMINOS PRO™ ที่สามารถแสดงผลให้ภาพที่มีสีสันสมจริงในเฉดสีที่หลากหลายและกว้างขึ้นกว่า LED TV ปกติ ในขณะที่ยังให้คุณเพลิดเพลินไปกับคุณภาพเสียงที่ชัดเจน และเสียงเบสที่ลงลึกด้วยเทคโนโลยีของลำโพง            X-Balanced Speaker มาพร้อมขุมพลังจากระบบปฏิบัติการ Google TV ที่สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างง่ายได้ด้วยการออกคำสั่งด้วยเสียงภาษาไทยโดยไม่ต้องใช้รีโมทคอนโทรล เพียงพูดคำว่า Hey Google และพูดสิ่งที่คุณต้องการรับชมออกมา นอกจากนี้ยังสามารถส่งคอนเทนต์ต่างๆจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตให้ไปแสดงบนหน้าจอทีวีได้ผ่านทาง Chrome Cast และ Apple Airplay ได้อย่างสะดวก ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆภายในบ้านที่รองรับ Internet of Things โดยผ่าน Apple Homekit  ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันยังได้รับเครื่องหมาย Netflix Recommended ซึ่งเป็นการ การันตีว่า เป็นทีวีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการรับชม Netflix อีกด้วย นอกจากนี้ตัวเครื่องยังรองรับระบบ Dolby Vision และ Dolby Atmos เพื่ออรรถรสในการรับชมเสมือนยกโรงภาพยนตร์มาอยู่ในบ้านเลยทีเดียว โดย BRAVIA 4K LED TV รุ่น X80K พร้อมวางจำหน่าย 5 รุ่น 5 ขนาด

  • BRAVIA 4K LED TV รุ่น X75K

BRAVIA 4K HDR LED TV รุ่น X75K มาพร้อมชิปประมวลผล 4K Processor X1™ ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของโซนี่ พร้อมด้วยคุณภาพความละเอียดคมชัด และมีมิติได้อย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยความละเอียดของภาพที่สวยงามในระดับ 4K HDR ที่ช่วยเพิ่มความคมชัดของสีที่สมจริงและคอนทราสต์ของทุกภาพที่คุณรับชมอย่างแม่นยำ โดดเด่นด้วยระบบประมวลผลภาพ 4K X-Reality Pro เพื่อมอบความคมชัดที่เหนือกว่า มาพร้อม 4K Resolution เพื่อเพิ่มความละเอียดของภาพให้มากกว่าระดับ Full HD รวมถึงขุมพลังจากระบบปฏิบัติการ Google TV ที่สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างง่ายได้ด้วยการออกคำสั่งด้วยเสียงภาษาไทยผ่านรีโมทคอนโทรลนอกจากนี้ยังสามารถส่งคอนเทนต์ต่าง ๆ จากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตให้ไปแสดงบนหน้าจอทีวีได้ผ่านทาง Chrome Cast และ Apple Airplay ได้อย่างสะดวก ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆภายในบ้านที่รองรับ Internet of Things โดยผ่าน Apple Homekit ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมช่องต่อแบบ HDMI  รวมถึงรองรับ Digital TV ทั้งยังช่วยให้คุณจัดระเบียบสายต่างๆที่เชื่อมต่อกับทีวีให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยด้วย Cable Management ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย BRAVIA 4K LED TV รุ่น X75K พร้อมวางจำหน่าย 4 รุ่น 4 ขนาด